ภรรยาข่มขืนสามีผิดกฎหมายไหม…

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 27 มีนาคม 2011 เวลา 23:13 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 1853

ห่างเหินการเขียนบันทึกไปเสียนาน เพราะมัวไปเล่นเฟสบุ๊ค ถ่ายรูปโชว์ฝีมือ คุยคนโน้นคนนี้ เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนหนังสือด้วยกัน เจอคนรู้จักทักทายกันทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัด แค่นี้ก็หมดเวลานั่งเขียนบทความแล้ว

งานในหน้าที่ขณะนี้ก็เป็นงานคดีแพ่งไม่ได้เข้าไปแตะในส่วนคดีอาญาเลย จึงไม่ค่อยทราบความเป็นไปในกฎหมายอาญา ทราบว่ามีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้หยิบมาเขียนให้เป็นเรื่องเป็นราว

วันนี้นึกสนุกอยากเขียนบทความขึ้นมาซะงั้น….แต่ขอเตือนก่อนว่า บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปีควรอ่านโดยมีผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำ บุคคลที่โตกว่านั้นแล้วและเป็นเพศหญิงแต่ยังไม่มีคู่ครอง ควรอ่านด้วยความเข้าใจหากไม่เข้าใจควรมีเพื่อนรุ่นพี่มี่มีครอบครัวแล้วคอยแนะนำ…ส่วนสตรีมีครรภ์ควรอ่านด้วยความระมัดระวังเพราะการหัวเราะมากเกินไปอาจกระทบกระเทือนเด็กในครรภ์…โปรยขนาดนี้ไม่อยากอ่านก็ให้มันรู้ไป…ฮ่าๆ…

กฎหมายอาญาในส่วนความผิดทางเพศแก้ไขเพราะเกิดจากการเรียกร้องของสตรีผู้รักความยุติธรรม แต่ผมมานั่งอ่านแล้วยังสงสัยว่า เอ๊ะ…แก้แล้วเป็นผลดีแก่ผู้หญิงหรือเป็นผลร้ายกับผู้หญิงกันแน่…ลองมาดูกันครับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงหรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกันต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรสและคู่สมรสนั้นยังประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้ ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้”

ถ้าเราย้อนกลับไปดูกฎหมายเก่า เขาใช้คำว่า “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยา” คิดในมุมย้อน นักสิทธิสตรีก็ร้อง อ้าว…งั้นหากเป็นภรรยาก็ข่มขืนได้สิ…ก็เลยรู้สึกว่ายอมไม่ได้ ต้องแก้ให้ได้ แก้ไปแก้มาเลยกลายเป็นว่าหากผู้หญิงข่มขืนสามีก็ผิดด้วย ฮา….

เห็นไหมครับ จากเดิมที่กฎหมายเขียนว่า ผู้ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยา แสดงว่ากฎหมายล้อคคอผู้กระทำผิดไว้แล้วว่ามันเป็นผู้ชาย ถ้าผู้หญิงทำต่อผู้ชาย อย่างเก่งก็ผิดฐานกระทำอนาจาร เพราะไม่มีบทลงโทษผู้หญิงที่ข่มขืนผู้ชาย แต่กฎหมายฉบับนี้แก้ว่า “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น” ก็แสดงว่าผู้ข่มขืนกระทำชำเราจะเป็นหญิงหรือชายก็ได้ อ้าว…คราวนี้มีสิทธิติดคุกเท่ากันแล้ว เย้….

และที่ทำให้ผู้หญิงผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราได้ก็เพราะกฎหมายเขาเขียนว่า “การกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น” เห็นชัดๆหรือยังครับ กฎหมายไม่ได้บอกว่าต้องใช้อวัยวะเพศชายอย่างเดียวถ้าผู้หญิงใช้อวัยวะเพศของตนกระทำกับอวัยวะเพศของผู้ชาย ก็ผิดตามนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ถ้าใช้อวัยวะเพศเทียมกระทำกับทวารหนักหรือช่องปากของผู้ชายก็ผิดเช่นเดียวกัน เอ…จะหาเรื่องแก้กฎหมายทำไม อิอิ ล้อเล่นน่า…อย่าซีเรียส (นักสิทธิสตรีมักไม่ค่อยมีอารมณ์ขันไม่รู้เป็นไง อิอิ)

พอมาดูประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๗ วรรคแรกเขาบัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท” ผมว่ายิ่งเห็นได้ชัดเพราะกฎหมายตอกย้ำอีกว่าผู้หญิงก็กระทำชำเราผู้ชายได้ เห็นไหมครับ “ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน” ผมไม่รู้เบื้องหลังของการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ แต่ผมว่าในจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นเป็นสมาชิกผู้ชายมากกว่า อาจจะตกลงร่วมมือกันลับๆ ช่วยกันแก้ไขให้ผู้หญิงผิดเท่ากับผู้ชาย ฮา….(ยังมีต่อ)

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : คำสอนของพ่อ(๓)

Next : ชีวิตสมรส(ภาคต่อจากภรรยาข่มขืนสามีผิดไหม) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 มีนาคม 2011 เวลา 0:09

    รออ่านต่อครับ ใกล้ตัวนิ อิอิ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 มีนาคม 2011 เวลา 0:57

    นี่แหละที่รอ ข่มขื่น เมื่อไหร่ ขื่นขม เมื่อนั้น
    ลีลาการเขียนเล่า เอายังไงก็มีให้ครบ
    หายไปนาน >> มันก็เหมือนข่มขืน ความคิดถึง
    คิคิ

  • #3 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 มีนาคม 2011 เวลา 7:21

    คุณ nothing ครับ ตอนต่อไปรับรองความฮาครับ..อิอิ
    พ่อครูครับ ฮ่าๆ..ข่มขืนความคิดถึง…คิดได้ไง เรียนให้ทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สสสส.๓ เพิ่งไปประชุมกรรมการอำนวยการหลักสูตร ปีนี้ลุงเอกถูกคณะกรรมการยึดอำนาจ การจะเชิญใครมาเรียนต้องผ่านคณะกรรมการก่อน กรรมการคัดเลือกก็เป็นกรรมการชุดปีที่แล้วครับ เขาบอกว่าปีที่แล้วลุงเอกเชิญเองแล้วมาบอกกกรรมการทีหลัง และนักศึกษาที่เชิญเข้ามาเรียนมีปัญหาไม่มาเรียน ตั้งแต่รุ่น ๑ รุ่น ๒ รุ่นละ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ซึ่งมากเกินไป ต้องเข้มในเรื่องการเชิญคนเข้ามาเรียนครับ

  • #4 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 มีนาคม 2011 เวลา 8:56

    อืมมม ข้างบนมีแต่คนรู้สึกว่า”เป็นเรื่องใกล้ตัว”ทั้งนั้นเลยนะคะ … แต่เบิร์ดอยู่ใน”กลุ่มบุคคลที่โตกว่านั้นแล้วและเป็นเพศหญิงแต่ยังไม่มีคู่ครอง ควรอ่านด้วยความเข้าใจหากไม่เข้าใจควรมีเพื่อนรุ่นพี่มี่มีครอบครัวแล้วคอย แนะนำ” เลยต้องเดินตามรอย”รุ่นพี่”เข้ามารออ่านอย่างรื่นรมย์ยิ่ง และอาจต้องขอ”คำแนะนำ”เมื่อไม่เข้าใจด้วยสิคะ กั่กๆๆๆ

  • #5 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 มีนาคม 2011 เวลา 10:36

    น้องเบิร์ด
    ตอนต่อไปต้องยิ่งทำความเข้าใจหนักกว่านี้ อิอิอิอิ

  • #6 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 มีนาคม 2011 เวลา 18:05

    ตัวบทกฎหมาย ทำไมไม่ใช้ว่าบุคคลที่2 ละคะท่านอัยการ
    คำว่าบุคคลอื่นน่ะมันจะมีได้อย่างไงคะ

    ที่ตั้งท่าจะข่มขืนกินไก่วัดน่ะ มันคนกันเอ้ง ไม่ใช่บุคคลอื่นสักหน่อย อิอิ

    (อ่านความเห็นแล้วยิ่งปวดหัวไม่เข้าใจค่ะ ความคิดถึงมันเป็นอวัยวะเพศหรือทวารหนักคะ )

    เอ่อ ถามแบบเกรงใจจริงจริ้งค่ะ อิอิ

  • #7 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 มีนาคม 2011 เวลา 18:27

    กฎหมายใช้คำว่า “ผู้อื่น”ครับอุ๊ย หมายถึงไม่ใช่ทำกับตัวเอง แต่เป็นการทำกับผู้อื่น มันจึงไม่ใช่บุคคลที่ ๒ หรือบุคคลที่สาม
    เพราะเป็นคนกันเองนี่แหละ มันถึงข่มขืนง่าย อิอิ แต่กฎหมายเขาก็เข้าใจถึงชีวิตสมรส ก็เลยบอกว่า แม้จะถูกข่มขืนแล้วยังไม่เข็ด เอ๊ย..ยังประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้
    แต่…ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้ (กรณีนี้น่าจะเป็นกรณีวิปริตทางเพศ ศาลจึงอาจต้องลงโทษถึงจำคุก) แต่เนี่ย..เห็นไหมเดือดร้อนอัยการอีกแล้ว…อิอิ
    และที่อุ๊ยถาม การข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนแก้กฎหมาย ศาลจะตีความว่าเป็นการใช้อวัยวะเพศชายสอดใส่อวัยวะเพศหญิงโดยหญิงไม่ยินยอม ถ้าใช่อวัยเพศชายสอดใส่ทวารหนักมันก็กลายเป็นการกระทำอนาจาร แต่พอมาเป็นกฎหมายฉบับนี้ การสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าสู่ ปาก อวัยวะเพศหญิง หรือทวารหนัก ก็ถือเป็นการข่มขืนกระทำชำเราทั้งสิ้น
    เท่านั้นยังไม่พอ ยังหมายถึงเอาวัตถุใดๆที่ไม่ใช่อวัยวะเพศชายสอดใส่ในทวารหนักหรืออวัยวะเพศ (แต่ไม่ใช่กับปาก)ก็เป็นความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราได้ทั้งสิ้น
    นอกจากนี้ถ้าผู้หญิงเป็นฝ่ายกระทำ อาจใช้อวัยวะเพศเทียมของชายกระทำต่อชายโดยสอดใส่ทวารหนักก็ผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเต็มๆเหมือนกัน…
    ถามแบบเกรงใจ ก็ตอบแบบเกรงใจ อิอิอิ

  • #8 พระจันทร์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 เมษายน 2011 เวลา 19:36

    ^^ เพิ่งเคยอ่านกฎหมายแล้วรู้สึกสนุกครั้งแรกนะเนี่ย ปกติอ่านไปหาวไปตลอด

  • #9 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 เมษายน 2011 เวลา 14:44

    ดีใจครับที่ทำให้คุณพระจันทร์มีความสุขกับการศึกษากฎหมาย


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.085527896881104 sec
Sidebar: 0.072417974472046 sec