ภรรยาข่มขืนสามีผิดกฎหมายไหม…
อ่าน: 1853ห่างเหินการเขียนบันทึกไปเสียนาน เพราะมัวไปเล่นเฟสบุ๊ค ถ่ายรูปโชว์ฝีมือ คุยคนโน้นคนนี้ เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนหนังสือด้วยกัน เจอคนรู้จักทักทายกันทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัด แค่นี้ก็หมดเวลานั่งเขียนบทความแล้ว
งานในหน้าที่ขณะนี้ก็เป็นงานคดีแพ่งไม่ได้เข้าไปแตะในส่วนคดีอาญาเลย จึงไม่ค่อยทราบความเป็นไปในกฎหมายอาญา ทราบว่ามีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้หยิบมาเขียนให้เป็นเรื่องเป็นราว
วันนี้นึกสนุกอยากเขียนบทความขึ้นมาซะงั้น….แต่ขอเตือนก่อนว่า บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปีควรอ่านโดยมีผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำ บุคคลที่โตกว่านั้นแล้วและเป็นเพศหญิงแต่ยังไม่มีคู่ครอง ควรอ่านด้วยความเข้าใจหากไม่เข้าใจควรมีเพื่อนรุ่นพี่มี่มีครอบครัวแล้วคอยแนะนำ…ส่วนสตรีมีครรภ์ควรอ่านด้วยความระมัดระวังเพราะการหัวเราะมากเกินไปอาจกระทบกระเทือนเด็กในครรภ์…โปรยขนาดนี้ไม่อยากอ่านก็ให้มันรู้ไป…ฮ่าๆ…
กฎหมายอาญาในส่วนความผิดทางเพศแก้ไขเพราะเกิดจากการเรียกร้องของสตรีผู้รักความยุติธรรม แต่ผมมานั่งอ่านแล้วยังสงสัยว่า เอ๊ะ…แก้แล้วเป็นผลดีแก่ผู้หญิงหรือเป็นผลร้ายกับผู้หญิงกันแน่…ลองมาดูกันครับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงหรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกันต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรสและคู่สมรสนั้นยังประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้ ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้”
ถ้าเราย้อนกลับไปดูกฎหมายเก่า เขาใช้คำว่า “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยา” คิดในมุมย้อน นักสิทธิสตรีก็ร้อง อ้าว…งั้นหากเป็นภรรยาก็ข่มขืนได้สิ…ก็เลยรู้สึกว่ายอมไม่ได้ ต้องแก้ให้ได้ แก้ไปแก้มาเลยกลายเป็นว่าหากผู้หญิงข่มขืนสามีก็ผิดด้วย ฮา….
เห็นไหมครับ จากเดิมที่กฎหมายเขียนว่า ผู้ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยา แสดงว่ากฎหมายล้อคคอผู้กระทำผิดไว้แล้วว่ามันเป็นผู้ชาย ถ้าผู้หญิงทำต่อผู้ชาย อย่างเก่งก็ผิดฐานกระทำอนาจาร เพราะไม่มีบทลงโทษผู้หญิงที่ข่มขืนผู้ชาย แต่กฎหมายฉบับนี้แก้ว่า “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น” ก็แสดงว่าผู้ข่มขืนกระทำชำเราจะเป็นหญิงหรือชายก็ได้ อ้าว…คราวนี้มีสิทธิติดคุกเท่ากันแล้ว เย้….
และที่ทำให้ผู้หญิงผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราได้ก็เพราะกฎหมายเขาเขียนว่า “การกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น” เห็นชัดๆหรือยังครับ กฎหมายไม่ได้บอกว่าต้องใช้อวัยวะเพศชายอย่างเดียวถ้าผู้หญิงใช้อวัยวะเพศของตนกระทำกับอวัยวะเพศของผู้ชาย ก็ผิดตามนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ถ้าใช้อวัยวะเพศเทียมกระทำกับทวารหนักหรือช่องปากของผู้ชายก็ผิดเช่นเดียวกัน เอ…จะหาเรื่องแก้กฎหมายทำไม อิอิ ล้อเล่นน่า…อย่าซีเรียส (นักสิทธิสตรีมักไม่ค่อยมีอารมณ์ขันไม่รู้เป็นไง อิอิ)
พอมาดูประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๗ วรรคแรกเขาบัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท” ผมว่ายิ่งเห็นได้ชัดเพราะกฎหมายตอกย้ำอีกว่าผู้หญิงก็กระทำชำเราผู้ชายได้ เห็นไหมครับ “ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน” ผมไม่รู้เบื้องหลังของการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ แต่ผมว่าในจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นเป็นสมาชิกผู้ชายมากกว่า อาจจะตกลงร่วมมือกันลับๆ ช่วยกันแก้ไขให้ผู้หญิงผิดเท่ากับผู้ชาย ฮา….(ยังมีต่อ)
Next : ชีวิตสมรส(ภาคต่อจากภรรยาข่มขืนสามีผิดไหม) » »
9 ความคิดเห็น
รออ่านต่อครับ ใกล้ตัวนิ อิอิ
นี่แหละที่รอ ข่มขื่น เมื่อไหร่ ขื่นขม เมื่อนั้น
ลีลาการเขียนเล่า เอายังไงก็มีให้ครบ
หายไปนาน >> มันก็เหมือนข่มขืน ความคิดถึง
คิคิ
คุณ nothing ครับ ตอนต่อไปรับรองความฮาครับ..อิอิ
พ่อครูครับ ฮ่าๆ..ข่มขืนความคิดถึง…คิดได้ไง เรียนให้ทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สสสส.๓ เพิ่งไปประชุมกรรมการอำนวยการหลักสูตร ปีนี้ลุงเอกถูกคณะกรรมการยึดอำนาจ การจะเชิญใครมาเรียนต้องผ่านคณะกรรมการก่อน กรรมการคัดเลือกก็เป็นกรรมการชุดปีที่แล้วครับ เขาบอกว่าปีที่แล้วลุงเอกเชิญเองแล้วมาบอกกกรรมการทีหลัง และนักศึกษาที่เชิญเข้ามาเรียนมีปัญหาไม่มาเรียน ตั้งแต่รุ่น ๑ รุ่น ๒ รุ่นละ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ซึ่งมากเกินไป ต้องเข้มในเรื่องการเชิญคนเข้ามาเรียนครับ
อืมมม ข้างบนมีแต่คนรู้สึกว่า”เป็นเรื่องใกล้ตัว”ทั้งนั้นเลยนะคะ … แต่เบิร์ดอยู่ใน”กลุ่มบุคคลที่โตกว่านั้นแล้วและเป็นเพศหญิงแต่ยังไม่มีคู่ครอง ควรอ่านด้วยความเข้าใจหากไม่เข้าใจควรมีเพื่อนรุ่นพี่มี่มีครอบครัวแล้วคอย แนะนำ” เลยต้องเดินตามรอย”รุ่นพี่”เข้ามารออ่านอย่างรื่นรมย์ยิ่ง และอาจต้องขอ”คำแนะนำ”เมื่อไม่เข้าใจด้วยสิคะ กั่กๆๆๆ
น้องเบิร์ด
ตอนต่อไปต้องยิ่งทำความเข้าใจหนักกว่านี้ อิอิอิอิ
ตัวบทกฎหมาย ทำไมไม่ใช้ว่าบุคคลที่2 ละคะท่านอัยการ
คำว่าบุคคลอื่นน่ะมันจะมีได้อย่างไงคะ
ที่ตั้งท่าจะข่มขืนกินไก่วัดน่ะ มันคนกันเอ้ง ไม่ใช่บุคคลอื่นสักหน่อย อิอิ
(อ่านความเห็นแล้วยิ่งปวดหัวไม่เข้าใจค่ะ ความคิดถึงมันเป็นอวัยวะเพศหรือทวารหนักคะ )
เอ่อ ถามแบบเกรงใจจริงจริ้งค่ะ อิอิ
กฎหมายใช้คำว่า “ผู้อื่น”ครับอุ๊ย หมายถึงไม่ใช่ทำกับตัวเอง แต่เป็นการทำกับผู้อื่น มันจึงไม่ใช่บุคคลที่ ๒ หรือบุคคลที่สาม
เพราะเป็นคนกันเองนี่แหละ มันถึงข่มขืนง่าย อิอิ แต่กฎหมายเขาก็เข้าใจถึงชีวิตสมรส ก็เลยบอกว่า แม้จะถูกข่มขืนแล้วยังไม่เข็ด เอ๊ย..ยังประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้
แต่…ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้ (กรณีนี้น่าจะเป็นกรณีวิปริตทางเพศ ศาลจึงอาจต้องลงโทษถึงจำคุก) แต่เนี่ย..เห็นไหมเดือดร้อนอัยการอีกแล้ว…อิอิ
และที่อุ๊ยถาม การข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนแก้กฎหมาย ศาลจะตีความว่าเป็นการใช้อวัยวะเพศชายสอดใส่อวัยวะเพศหญิงโดยหญิงไม่ยินยอม ถ้าใช่อวัยเพศชายสอดใส่ทวารหนักมันก็กลายเป็นการกระทำอนาจาร แต่พอมาเป็นกฎหมายฉบับนี้ การสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าสู่ ปาก อวัยวะเพศหญิง หรือทวารหนัก ก็ถือเป็นการข่มขืนกระทำชำเราทั้งสิ้น
เท่านั้นยังไม่พอ ยังหมายถึงเอาวัตถุใดๆที่ไม่ใช่อวัยวะเพศชายสอดใส่ในทวารหนักหรืออวัยวะเพศ (แต่ไม่ใช่กับปาก)ก็เป็นความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราได้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ถ้าผู้หญิงเป็นฝ่ายกระทำ อาจใช้อวัยวะเพศเทียมของชายกระทำต่อชายโดยสอดใส่ทวารหนักก็ผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเต็มๆเหมือนกัน…
ถามแบบเกรงใจ ก็ตอบแบบเกรงใจ อิอิอิ
^^ เพิ่งเคยอ่านกฎหมายแล้วรู้สึกสนุกครั้งแรกนะเนี่ย ปกติอ่านไปหาวไปตลอด
ดีใจครับที่ทำให้คุณพระจันทร์มีความสุขกับการศึกษากฎหมาย