หาดไตรตรังก์
ปีที่แล้วผมได้รับมอบหมายจากท่านอธิบดีอัยการฝ่ายคดีแรงงานให้ร่วมดำเนินคดีเกี่ยวกับคดี ส.ป.ก.ที่ภูเก็ตเพราะมันมีความพิกลเกิดขึ้น จู่ๆ ส.ป.ก.พื้นที่ตั้งแท่นเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดมีหนังสือถึงอัยการจังหวัดขอให้ถอนฟ้องจำเลย แต่เรื่องนี้รองอธิบดีตรวจพบความผิดปกติเพราะการจะถอนฟ้องมันเป็นอำนาจของเลขาธิการ ส.ป.ก. จึงมีหนังสือสอบถามไป ได้เรื่องครับเพราะเลขาธิการ ส.ป.ก.ไม่ถอน
คราวนี้ถึงคิวป่าไม้ครับ ป่าไม้ให้ผู้เชี่ยวชาญทางแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศอ่านภาพถ่ายทางอากาศแล้วบอกว่าที่ตรงนั้นมีการทำประโยชน์มาก่อนปี ๒๕๑๐ และสรุปด้วยว่าเขามี สค.๑ ถูกต้องด้วย ทั้งตรงนั้นเป็นป่าสมบูรณ์ซึ่งโดยหลักแล้วยังเป็นกรรมสิทธิ์ของป่าไม้ ส.ป.ก. ต้องคืนพื้นที่ให้ป่าไม้ แต่ส.ป.ก.ยังทำเฉยจึงขอให้อัยการยื่นคำร้องขอให้ป่าไม้ร้องสอดเข้าเป็นโจทก์
อัยการก็เลยมีหนังสือถามไป ส.ป.ก.ว่าเขาอ้างว่าอย่างนี้ ส.ป.ก.ว่าอย่างไร อิอิ ให้ ส.ป.ก.ตั้งแท่นสู้มาเหอะ อัยการจะช่วย อิอิ ส.ป.ก.ก็ตอบมาว่าที่ตรงนั้นอยู่ในความดูแลของส.ป.ก.แล้ว จะเอาคืนต้องออกทำตามกฎหมาย เพิกถอนเขตปฏิรูป แล้วประกาศเขตป่าสงวนใหม่ เพราะตรงนั้นเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ระหว่างนั้น เลขาธิการ ส.ป.ก.ก็มีหนังสือสั่งการภายในให้มาปรึกษาอัยการเรื่องถอนฟ้อง เจ้าหน้าที่ซึ่งประสานงานกับอัยการมาตลอดก็มาถามรองอธิบดีและผมซึ่งดูแลเรื่องนี้ ผมก็เลยถามกลับไปว่า ก็ตอนแรกเลขาธิการเป็นคนบอกว่าไม่ถอนฟ้อง ต่อมามีหนังสือจาก ส.ป.ก.บอกว่าที่ส.ป.ก.ไม่คืนพื้นที่นั้นทำถูกแล้ว ที่ดินยังอยู่ในความดูแลของ ส.ป.ก.อยู่ แล้วตอนนี้มีข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใดที่แตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ เพราะจะได้ตอบให้ครบถ้วนทุกประเด็น ไม่รู้เจ้าหน้าที่จะโดนเฉ่งเพราะหารือผิดคนหรือเปล่า อิอิ แถมตอนนี้มติของจังหวัดเองก็มีมติไม่กันคืนพื้นที่พิพาทให้กรมป่าไม้แล้ว เรื่องนี้ทำท่าสนุกแล้วครับ ได้ข่าวว่าตอนนี้ไปดันที่กรมที่ดินอีก อิอิ อ้างว่า ส.ค.๑ ของเขาถูกต้อง มีการอ่านภาพถ่ายทางอากาศจากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่ามีการทำประโยชน์มาก่อนจริง
ผมก็ลองไปดูแผนที่ระวาง ที่เขาอ้างว่าที่ดินรอบข้างก็มีการออกหลักฐานโฉนดที่ดินบ้าง น.ส.๓ บ้างกันหมดแล้ว ผมอ่านสำนวนไปชักเอะใจ ขอดูความเป็นมาของที่ดินข้างเคียงทุกแปลง และแล้วผมก็ได้พบความผิดปกติของ ส.ค.๑ ที่นำมาอ้าง มันเป็นคนละหมู่กับ ส.ค.๑ ที่อยู่รอบข้าง ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปต่อกันอย่างไร แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นสืบพยานกันเลย เพราะมีการสู้กันในประเด็นว่า ส.ป.ก.ฟ้องผิดศาลต้องฟ้องศาลปกครอง และขณะนี้ยังไม่มีคำวินิจฉัยว่าควรจะขึ้นศาลปกครองหรือศาลยุติธรรมกันแน่ แต่ที่แน่ๆผมยังมีเวลาเตรียมตัวอีกปี เพราะสืบพยานปีหน้า
เล่ามาเสียยาวยืดเพราะอยากให้เห็นภาพว่าทำไมนายทุนถึงชอบบุกรุกที่ดินที่เรียกว่าไตรตรังก์ มันเป็นพื้นที่ที่ต่อจากหาดป่าตองอันโด่งดัง อยู่บนเนินมีโขดหินทิวทัศน์สวยงาม บางตอนที่มีหาดทราบก็มีน้ำไม่ลึกมากเหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล เมื่อวานผมกับคุณแอ๊ด พี่สาวและหลานสาวก็ไปที่ไตรตรังก์แต่เราได้ไปเพียงหาดเดียว เขาตั้งชื่อหาดว่า พาราไดซ์ บีช เจ้าของบอกว่าที่ดินของเขามี ส.ค.๑และขณะนี้อยู่ระหว่างออกโฉนด ผมไม่ทราบว่ามีการบุกรุกหรือไม่ แต่หาดนี้เดิมต้องเดินทางมาทางเรือ สังเกตดูมีต้นมะม่วงหิมพานต์ต้นใหญ่ มีต้นมะพร้าวอายุหลายปี ประมาณทั้งสองอย่างอายุประมาณ ๓๐ ปีขึ้นอยู่หลายต้น กับมีไม้ป่าเช่น โพธิ์ทะเล ต้นเบ้อเริ่ม หาดนี้ไม่ร้อนเพราะมีป่า ลมพัดเรื่อยๆเย็นสบายไม่เหมือนหาดอื่นๆ ผมเห็นความงามของหาดจึงลงไปตากแดดถ่ายภาพมาฝากกัน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าก็เพราะงามอย่างนี้ไงเขาถึงอยากได้กันนัก แต่ขอบอกว่านี่เป็นเพียงมุมหนึ่งของไตรตรังก์เท่านั้น ตอนนี้เจ้าของที่ดินเขาลงทุนทำถนนคอนกรีตลงไปที่หาด รถลงไปได้สะดวกรถเก๋งยังเข้าไปได้เพียงมันชันสักนิด อ้อ…หาดไตรตรังก์สามารถมองเห็นอ่าวป่าตองได้ทั้งอ่าวมันจึงงามนัก ถ้าท่านเป็นรักธรรมชาติจริงท่านจะทำอย่างไร ส่วนผมก็เป็นไอ้เข้ขวางคลองเหมือนเดิม…อิอิ.
« « Prev : ความเปลี่ยนแปลงรอบบ้าน
Next : ไปประชุมที่กรุงเต๊บ(๑) » »
ความคิดเห็นสำหรับ "หาดไตรตรังก์"