ผมรักแม่๔

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 12 สิงหาคม 2009 เวลา 22:25 ในหมวดหมู่ ครอบครัว, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 1388

การทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของแม่ รับผิดชอบงานบ้านแบบคนที่เป็นภรรยาสมัยก่อน คือต้องเป็น “แม่ของบ้าน” แม่ของบ้านจะต้องแก้ปัญหาทุกอย่างในบ้านได้ ในขณะที่พ่อของบ้านมีหน้าที่ในการทำมาหากินสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แม่ทำเป็นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นตัดเย็บ สมัยก่อนพวกเรามีชุดนอนผ้าสำลีฝีมือแม่ เสื้อกุยเฮงฝีมือแม่ ไม่ต้องไปซื้อหา อาหารการกินไม่ต้องห่วงเพราะแม่ทำอาหารและขนมเป็นหลายอย่างทุกอย่างอร่อยมาก และแม่จะมีความสุขมากหากลูกๆไปทานอาหารฝีมือแม่ แถมพอมีเวลาว่างแม่ก็ยังไปเรียนทำขนม ยังจำได้ว่าแม่ไปเรียนทำขนมซาลาเปา จดสูตรไว้ในสมุดบางๆ เพราะแม่ไม่ได้เรียนมาสูงเหมือนพวกเรา การเขียนของแม่ค่อนข้างช้า แต่อ่านออกสบายตา

ชีวิตในช่วงที่ป๋ากับแม่แยกตัวไปอยู่ที่พังงาเพื่อสร้างฐานะของตัวเอง สร้างความไม่สบายใจให้กับแม่(หมายถึงย่า เพราะเราเรียกย่าว่าแม่)เพราะย่าไม่อยากให้ป๋ากับอาแยกกันอยู่เพราะย่ารักทั้งสองคน แต่ย่าเป็นห่วงอามากกว่าป๋าเพราะป๋าทำงานหาเงินเก่งกว่า ช่วงนั้นคงเป็นวิกฤตจุดหนึ่งของป๋ากับแม่ เพราะป๋าขอทรัพย์สินไปไม่กี่อย่างและเป็นทรัพย์สินที่ป๋าสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ทรัพย์สินส่วนใหญ่ยกให้อา แต่ขณะนั้นขนมจีนกำลังขายดี ป๋าต้องไปเป็นผู้จัดการร้านซิงเกอร์สาขาพังงา แม่จะตามไปแต่คนในครอบครัวไม่ให้แม่ไปเพื่อให้ทำขนมจีนขายเป็นการสร้างรายได้ให้กับกงสี ทั้งๆที่ต้นเหตุจากการที่ต้องทำขนมจีนเกิดจากผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมว่าแม่คงรู้สึกสะเทือนใจมากๆ แต่แม่ก็อดทนเพื่อป๋า กว่าจะหลุดออกจากโคกกลอยได้ ก็ต้องมาเจอกับการเลี้ยงลูกและเลี้ยงหลาน(ลูกของอา)ทุกคนอีก เท่ากับว่าแม่กับป๋าต้องมารับภาระในครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แม่ก็เต็มใจที่จะเลี้ยงดูลูกและหลานไม่เคยบ่นให้ใครได้ยิน

แม่สอนให้เราเห็นด้วยการกระทำเพื่อให้เรารู้จักอดทนอดกลั้น สอนให้เรารู้จักทำแต่ความดีแต่ไม่ต้องรอความดีตอบสนอง เพราะความดีมันก็คือความดีและวันนี้ความดีได้แสดงผลแล้ว
ป๋ามะกับลูกหลาน
เมื่อปี ๒๕๔๙ เป็นปีที่มีการคัดเลือกบุคคลที่จะเป็นแม่ดีเด่นอย่างเข้ม ตามที่หมอหยองเล่าให้ฟัง และในที่สุดความสำเร็จของครอบครัวเราก็มาถึง เราจึงรู้สึกภาคภูมิใจไปกับแม่ ที่แม่ได้รับเลือกเป็นแม่ดีเด่นประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ทั้งๆที่เบื้องหลังความสำเร็จนี้เราไม่คิดคาดหวังอีกแล้ว เราทำเอกสารส่งไปสองสามครั้งแต่ไปสะดุดที่ตัวจังหวัดทุกครั้ง บางครั้งก็มีคนมาบอกแม่ว่าขอให้คนนั้นเขาก่อนนะ เราคิดว่าการจะเลือกใครเป็นแม่ดีเด่นควรจะต้องมีแมวมองไปดูว่าบ้านไหนสอนลูกยังไง ลูกเขาทำงานกันอย่างไร แล้วถึงไปเลือกคนนั้นมา ไม่ใช่ให้เจ้าตัวเขียนกรอกประวัติตัวเองให้สวยงามแล้วส่งไปให้คณะกรรมการเลือกกันจากเอกสาร เพราะมีบางคนเป็นซ้ำซ้อนก็มี แต่เอาเหอะ…แม่ได้เป็นแม่ดีเด่นด้วยความภาคภูมิใจ แต่พอมาถึงป๋า ในปีเดียวกันเขาบอกว่าป๋าอย่าเพิ่งเอา “พ่อดีเด่น” เลยนะเดี๋ยวได้ทั้งผัวทั้งเมียมันจะกระไรอยู่ อ้าว…เขาไม่ดูที่ผลผลิตหรอกหรือ แล้วป๋าผมสอนลูกไม่เป็นหรือไง หรือเราต้องไปขอกับกรรมการคัดเลือกได้โปรดเมตตาให้พ่อผมได้เป็นพ่อดีเด่นด้วยหรือ ถ้าลูกๆจะส่งพ่อขึ้นไปประกวดกันเองจะได้ไหมเนี่ย…
ป๋า๘๐มะ๗๖
เราเพิ่งได้จัดฉลองให้แม่และจัดแซยิดให้ป๋าครบ ๘๐ ปีเมื่อต้นปี(ไม่นับการเลี้ยงฉลองภายในครอบครัวซึ่งได้กระทำในคืนวันรับพระราชทานรางวัล) เนื่องจากก่อนหน้านั้นเราสูญเสียพระพี่นางฯและมีการจัดงานพระศพ ท่ามกลางทุกขเวทนาของคนทั้งชาติเราจึงไม่อาจจัดงานเฉลิมฉลองกันได้ เมื่อป๋าอายุครบ ๘๐ ปีพวกเราก็เลยถือโอกาสจัดงานรวมกันไปตามความพอเพียง งานเลี้ยงที่พวกเราจัดก็ไม่ได้หรูหราหรือเชิญแขกให้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นงานเลี้ยงง่ายๆ จัดพร้อมงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ เพื่อนแม่หิ้วข้าวหม้อแกงหม้อมากินกัน เราไม่เคยจัดงานฉลองใหญ่โตใดๆกันเลย

ตอนป๋าอายุครบ ๖๐ ปี เราก็จัดงานให้ป๋ามีคนมาร่วมงานมากแต่เราก็จัดแบบข้าวหม้อแกงหม้อ เราถือโอกาสเลี้ยงฉลองครบรอบแต่งงานป๋ากับแม่ครบ ๓๖ ปี แต่พอแม่อายุครบ ๖๐ ปี แทนที่จะจัดงานฉลองเราเปลี่ยนใหม่ ผมจัดทอดกฐินเชิญชวนคนรักแม่พาแม่ไปทำบุญ แม่มีความสุขมาก ส่วนผมในฐานะประธานจัดงานแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหวเมื่อเห็นบรรดาแม่ๆเพื่อน แม่ของใครต่อใครที่บรรดาลูกพามาร่วมทำบุญ ผมเชิญแม่ๆทุกคนทอดกฐินร่วมกันถือว่าแม่ทุกคนเป็นเจ้าภาพ เป็นอีกวันที่แม่มีความสุขโดยไม่ต้องจัดงานฉลองให้ใหญ่โต

พวกเราเป็นลูกได้ทำหน้าที่ของพวกเราแล้วส่วนหนึ่ง เพราะหากพวกเราเป็นคนไม่ดีของสังคม แม่เราจะได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นได้อย่างไร แต่พวกเราจะเป็นคนดีของสังคมได้อย่างไรหากพ่อกับแม่ไม่อบรมสั่งสอน

วันนี้ แม่อายุ ๗๖ ปีแล้ว แต่แม่ผมยังสวย ยังยิ้มเก่ง ยังอารมณ์ดี ยังเป็นที่รักของลูกหลาน แก้มแม่ยังหอมไม่เสื่อมคลาย
เช้าวันนี้ ผม คุณแอ๊ด เนติ์ นิวไปทำบุญตักบาตรตั้งแต่เช้า อุทิศผลบุญให้แม่ของแผ่นดิน ให้ประเทศไทย ให้แม่คุณแอ๊ดที่ล่วงลับไปแล้ว ให้แม่ผม ให้แม่ทุกๆคน แล้วเราก็ยกโขยงไปหอมแก้มแม่ คุณแอ๊ดซื้อกระเป๋าสตางค์เป็นหนังนิ่มแบบที่แม่ชอบให้แม่ ส่วนผมเอาสตางค์ใส่กระเป๋าให้แม่ มาดูภาพวันนี้กันครับ
ทำบุญตักบาตรวันแม่ของขวัญให้แม่
ที่เขียนบันทึกนี้ไม่มีอะไรหรอกแค่จะบอกว่า “ผมรักแม่ครับ…..”

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : ผมรักแม่๓

Next : ไปเยี่ยมสาวมัลดีฟส์๑ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.06159520149231 sec
Sidebar: 0.090334892272949 sec