ผมรักแม่๓
อ่าน: 1281สมัยที่เนติ์นิวยังเล็กก็เป็นช่วงแห่งความสุขอีกช่วงหนึ่งของแม่กับครอบครัวของผม เราไปเที่ยวด้วยกันกันครับ ตอนนั้นพ่ออยู่เฝ้าบ้าน แม่ไปเที่ยวกับพวกเราโดยผมลาพักร้อนสิบวันชวนแม่ไปเที่ยว อยากให้แม่มีความสุขร่วมกับพวกเรา แม่ชอบที่จะนั่งรถที่ผมขับเพราะผมขับรถไม่เร็วมาก เวลาเข้าโค้งไม่เหวี่ยง อยากกินอะไรตรงไหนเมื่อไหร่บอกได้ อิอิ อันนี้สำคัญ
ขับรถกันไปโดยไม่มีเป้าหมายว่าจะไปเที่ยวที่ไหนชัดเจน รู้ว่าแม่อยากไปเยี่ยมน้องคือน้องอ้อยกับน้องจุม(โกไข่)ที่อยู่ที่กทม.สองคน แค่ให้แม่ได้คุยได้เห็นหน้าน้องแค่นั้นก็พอแล้วไม่ต้องเที่ยวไหนต่อแม่ก็มีความสุขล้นแล้ว ก็ไปให้ถึงกรุงเทพก่อนแล้วจะไปไหนต่อก็ไป เราไปแวะที่วัดเกาะหลัก กราบหลวงปู่เกตุ ท่านมองหน้าผมแล้วพูดว่าผมจะได้เป็นอธิบดี ผมหัวเราะก๊ากเพราะตอนนั้นอธิบดีกรมอัยการมีคนเดียว แต่มาถึงวันนี้ผมชักเชื่อหลวงปู่แล้วเพราะอธิบดีอัยการมีเป็นสิบ อิอิ เล่าให้หลวงปู่ฟังเรื่องการซื้อหวยรัฐบาลปีที่ผ่านมาไปกราบหลวงปู่สามที่จ.สุรินทร์ แล้วออกมาซื้อหวยปรากฏว่าถูกรางวัล บอกหลวงปู่ว่าอยากพาแม่ไปกราบพระพุทธชินราชหลวงปู่บอกว่า โยมไปก็ถูกอีก ในที่สุดเราไปถึงวัดพระพุทธชินราชตกลงซื้อหวยรัฐบาลพรรษาหลวงปู่เกตุ ท่านพรรษา ๖๗ ผมหาซื้อได้ ๗๖๗ มา ๑ ใบ แต่แม่หาซื้อไม่ได้ก็เลยซื้อ ๖๑๗ เพราะอ่านว่า หกสิบเจ็ด เหมือนกัน ระหว่างทางที่เราขับรถก็ได้เฮ เพราะหวยออก ๗๖๗ กับ ๑๗ ปีนั้นเป็นปีที่แม่มีความสุขมาก
เราแวะกราบพระเกจิอาจารย์หลายจุดเหมือนกัน เราไประยองเพราะแม่มีญาติอยู่ที่ระยองไม่ได้เจอกันมานานอยากไปหา ตัดสินใจทันทีพาแม่ไปหาญาติ ระหว่างทางผ่านสวนนงนุชพาแม่เข้าไปเที่ยว แม่เดินเที่ยวมาถึงบริเวณบังกะโลที่พักปลูกมะม่วงอกร่องที่แม่ชอบ มะม่วงกำลังสุกแม่บอกว่า นี่ตื่นเช้าขึ้นมาเก็บมะม่วงหล่นใต้โคนสงสัยอร่อยแน่ๆเลย ผมก็เลยแอบไปเช่าห้องพักเจาะจงห้องที่มีมะม่วงสุกอยู่หน้าห้อง ตีห้าลุกขึ้นมาแง้มหน้าต่างดูเห็นแม่นั่งใช้มือปอกมะม่วงอกร่องทานอย่างเอร็ดอร่อย ภาษาบ้านผมเรียกว่า “คลดเม็ด” คือปอกเปลือกแล้วกินไปเรื่อยจนถึงเมล็ดก็ดูดเมล็ด เพราะการทานมะม่วงแบบนี้บ้านนอกเขาทำกันและมันอร่อยได้รสชาติ ไม่เชื่อถามคนที่อยู่บ้านนอกดูสิ..อิอิ ผมออกไปนั่งคลดเม็ดมะม่วงกับแม่ตั้งแต่เช้าอย่างมีความสุขที่สุด
แม่มีเพื่อนเยอะทุกวงการจะทำตัวอย่างให้เราเห็นในการแสดงน้ำใจกับสังคม แม่จะไปช่วยงานคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีงานแต่งงาน งานบวช งานกฐิน ผ้าป่า เราจะนึกถึงภาพแม่ถือมีดห่อด้วยกระดาษติดมือไปด้วยทุกครั้ง เมื่อเราตามไปเราจะเห็นแม่ช่วยหั่นผัก หั่นหมูอยู่ในครัว บางทีก็ทำน้ำพริก ทำกับข้าว หรือบางครั้งก็ไปทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมไม่ว่าจะเป็นกาชาด ไปช่วยพับผ้าก๊อซที่โรงพยาบาล ออกหน่วยเคลื่อนที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล และเป็นคนอารมณ์ดี สนุกสนาน เพื่อนฝูงรักเป็นนักหนา เพราะแม่ไม่เคยถือตัว สอนให้พวกเราไม่ถือตัว ทุกวันนี้เราไปไหนมาไหนในพังงาแม้ว่าจะมีตำแหน่งใหญ่โตไปไหนมีคนเคารพ หรือมีฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่เราก็ไม่เคยรีรอที่จะไหว้ผู้สูงอายุกว่า เพราะแม่สอนให้เราเคารพอาวุโส สอนให้เราเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สอนให้เรารักพี่น้อง สอนให้รู้จักแบ่งปัน คนเป็นพี่ต้องเป็นผู้ให้ ครอบครัวเราจึงไม่มีปัญหาการแย่งชิง อยากได้ เพราะทุกคนรู้ว่าอะไรที่ใครควรจะได้ แม้บางครั้งเจ้าตัวไม่เคยมีความคิดอยากได้แต่พี่น้องก็บอกป๋ากับแม่ว่าที่ดินตรงนี้ให้น้อง ที่ดินตรงนั้นให้พี่ ก็เลยกลายเป็นว่าป๋ากับมะมีความสุขที่มีลูกอย่างพวกเรา ลูกที่ไม่ทะเลาะแย่งชิงกัน แต่เพราะป๋ากับแม่ปั้นเรามาดี เราจึงเป็นคนดีอย่างที่ป๋ากับแม่ต้องการ
ความที่แม่รู้จักคนเยอะ แม่จึงถูกจูงเข้าเล่นการเมืองลงครั้งแรกก็ได้เป็น ส.ท.เมืองพังงาด้วยคะแนนรองจากนายกเทศมนตรีในขณะนั้น คะแนนของแม่ได้จากแม่ค้าตลาดสด/คนในตลาดพังงา
และส่งผลต่อมาเมื่อน้องอ้อยกลับมาช่วยพ่อที่บ้าน นักการเมืองรุ่นใหม่อยากได้นักการเมืองหญิงมาเชียร์ให้น้องอ้อยลงสมัคร น้องอ้อยอิดออดเพราะไปอยู่กรุงเทพเสียนานแต่แม่กับเพื่อนแม่ช่วยกันหาเสียงคะแนนของน้องอ้อยท่วมท้นตีคู่กับนายกฯ ในที่สุดน้องอ้อยก็ได้เป็นเทศมนตรี แต่ที่สุดแล้วทั้งแม่และน้องอ้อยก็ไม่เล่นการเมืองเพราะรับไม่ได้กับการที่คิดแต่ประโยชน์ส่วนตนของนักการเมืองท้องถิ่นบางคน เราอยากให้การเมืองสะอาดกว่านี้ (ยังมีต่อ)
« « Prev : ผมรักแม่๒
Next : ผมรักแม่๔ » »
1 ความคิดเห็น
Generic Cipro Overnight Delivery Citsisoceete https://bbuycialisss.com/# - Cialis SiffGefwinny Keflex For Inner Ear Infection ActibE Cialis awaipt Kamagra Effets Secondaires