พระเจ้าอู่ทอง (อู๋ตงฮ่องเต้)
พระเจ้าอู่ทอง (อู๋ตงฮ่องเต้)
ทฤษฎีที่ว่าพระเจ้าอู่ทองนำผู้คนอพยพมาจากเมืองอู่ทอง สุพรรณบุรี แล้วมาสร้างกรุงศรีอยุธยานั้น (ทฤษฎีนี้สันนิษฐานโดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ) บัดนี้นักโบราณคดีได้พิสูจน์แล้วว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเมืองอู่ทองได้ถูกปล่อยทิ้งร้างก่อนหน้านี้สองร้อยปีแล้ว
พงศาวดารฉบันวันวลิต (พ่อค้าชาวฮอลันดา) ระบุว่าพระเจ้าอู่ทองเป็นเศรษฐีเชื้อสายจีนมาจากเมืองเพชรบุรี
พงศาวดารมาลายูระบุว่าเป็นสุลต่านมุสลิม และพระศพยังฝังอยู่ที่เมืองกลันตันจนบัดนี้ เรื่องนี้สอดคล้องกับหลักฐานที่ว่ากรุงศรีอยุธยาในยุคแรกๆ มีมัสยิดมากทีเดียว
บ้างก็ว่ามาจากเชียงแสนเป็นลูกขุนบรม แต่บ้างก็ว่ามาจากสุโขทัย เป็นลูกพระราเมศวร
ท่าน admin ลานปัญญา ไปพบที่สยามมิวเซียมว่ามีอีกสามทฤษฎีคือ เป็นพระราชบุตรของพระเจ้ากรุงจีน เป็นลูกของท้าวแสนปม และ เป็นกษัตริย์เขมร …ซึ่งอันสุดท้ายนี้แปลกมาก เพราะมาตรงกับทฤษฎีที่ผมเสนอโดยมิได้นัดหมาย
ส่วนข้าพเจ้าเสนอว่าอพยพหนีตายมาจาก “นครวัด” เพราะถูกพวกทาสล้มบัลลังก์ ดังตรรกะ หลักฐานต่างๆที่ข้าพเจ้าได้เขียนเสนอไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
แต่เมื่อมาลองคิดทวนดูแล้ว ทฤษฎีทั้งหลายแหล่นี้อาจเป็นจริงพร้อมกันได้ทั้งหมดเลยก็เป็นได้
เช่น อาจเป็นชาวจีนนักผจญภัย เผชิญโชค และเป็นพ่อค้าไปด้วยในตัว อาจมีชื่อว่า อู๋ตง (แปลว่าอะไรดี?) ล่องเรือจากเมืองจีนล่องแม่โขงมาเชียงแสน จากนั้นล่องออกแม่น้ำโขงมาเที่ยวนครวัดอยู่พักหนึ่ง แล้วไปมาลายู ไปแต่งงานกับบุหงาตันหยง เลยต้องเปลี่ยนไปนับถืออิสลามตามประเพณี จากนั้นลุยมาถึงเพชรบุรีค้าขายจนร่ำรวย แต่ยังไม่หายสนุกก็เลยขยายกิจการไปยังนครวัด เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่โตมาก คงค้าขายสนุก ก็ค้าขายจนรวยร่ำไปอีก
พอพวกทาสกบฏ พวกวรมันก็ถูกฆ่าตายหมดแล้ว พวกขอมสยามขาดผู้นำก็เลยยกอู๋ตงให้เป็นหัวหน้าพาหนีมาพึ่งลพบุรี แล้วมาสร้างกรุงศรีในที่สุด อู๋ตง ในลิ้นคนไทยก็เปลี่ยนมาเป็นอู่ทอง
ส่วนเมืองเขมรที่ไปรบชนะแล้วเปลี่ยนชื่อเสีย ก็คือ อู๋ตงมีชัย ในวันนี้เรียกว่า อุดงมีชัย (อุดงเมียนเชย) ก็ถือว่าไม่เพี้ยนนัก
เมื่อมาสร้างอยุธยา ประดามเหสีและญาติๆทั้งหลายคงมีเชื้อสายมุสลิมจากกลันตันอยู่มาก ก็เลยต้องสร้างมัสยิดให้ประดาคนพวกนี้ พอสวรรคตบรรดามเหสีอาจนำศพกลับไปฝังที่บ้านเกิดของพวกเธอ แถวกลันตันนั่นเอง
เอ้า..โยงไปเชื่อมกับรัฐปัตตานียังได้เลย จะได้เลิกทะเลาะกันเสียที หันมาพึ่งพระบารมีของพระเจ้าอู่ทองกันดีกว่า
(แหม..ใครจะเอาพลอตนี้ไปสร้างหนัง คงได้หนังฟอร์มโต สนุกสนานโลดโผนพิลึกเลยแหละ)
..ทวิช
« « Prev : ทำไมฝรั่งเจริญกว่าไทย (๖)…ยุคพระนารายณ์
Next : ขอม สยาม เขมร: ทฤษฎีใหม่ (ตอนที่ ๔) » »
8 ความคิดเห็น
อู๋ แปลว่า ไม่ ส่วน ตง แปลว่าตะวันออกค่ะ (ภาษาจีนแบบถามปาป๊าที่เป็นแต้จิ๋ว) แต่อู่ แปลว่า ห้า แต่แหม อุดงมีชัยนี่เริ่มคล้ายๆญี่ปุ่น (อุด้ง)
อู๋ตง สำเนียงขะเหม็น กลายเป็น อุดง ส่วน เมียนเชย คือ มีชัย
เมืองนี้เขมรกำลังขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกเมือง
ถ้านักวิชาการทำการวิจัยดีๆ ไม่เป็นขี้ปากฝรั่งอยู่จนวันนี้ การวิจัยที่มาที่ไปเมืองนี้อาจคือกุญแจสำคัญว่า พระเจ้าอู่ทองมาจากไหน เพราะเมืองนี้สร้างตามอย่างอยุธยาเป๊ะเลยครับ (มีเจดีย์มาก)
อู่ = ห้า …อ้าวไม่ใช่โหงว หรอกหรือครับ
จำได้แต่เด็กว่า เจ๊ก หนอ ซา สี โหงว ลัก ฉิก โป้ย เก้า จั๊บ
เด็กไทยสมัยผมทุกคนท่องได้หมด และเข้าใจว่านี่คือแต้จิ๋ว
ปลุกปาป๊าขึ้นมาถาม ปาป๊าบอกว่าความหมายที่บอกไปคือจีนกลางค่ะ(รวมทั้งอู๋ กับตงด้วย) อู่ถ้าเป็นแต้จิ๋วคือโง้ว/โหงว แล้วก็งัวเงียนอนต่อ
การนับเลข จีน ไทย เขมร ที่น่าเปรียบเทียบ
…ผมว่า มันน่าบ่งบอกอะไรบ้างนะครับ
จีนแคะ: งิด หยี่ ซำ สี่ อึ้ม ดุก ขิด ปัด เก้า ซิบ
ไทย: อ้าย ยี่ สำ สี่ ห้า หุก จิด แปด เก้า ซิบ (แกล้งทำเพี้ยนนิดหน่อย)
เขมร: มวย ปี เบย บวย ปรำ
…………………………ปรำมวย ปรำปี ปรำเบย ปรำบวย ด็อบ
(เขมร นับเลขได้แค่ห้า พอหก ก็เปนห้าหนึ่ง เจ็ดเป็นห้าสอง แต่พอสามสิบล่ะ..มั่วเลยคราวนี้)
ไทย: สามสิบ ห้าสิบ หกสิบ เจ็ดสิบ หนึ่งร้อย หนึ่งพัน หนึ่งหมื่น หนึ่งแสน
เขมร: สามซับ ห้าซับ หกซับ เจ็ดซับ มวยร้อย..มวยพัน .มวยหมื่น.มวยแสน
เขมรนับเลขแบบนี้ แล้วมาอ้างว่าเป็นทายาทขอมผู้สร้างนครวัดที่กระฉ่อนโลก กษัตริย์วรมันขอมโบราณคงร้าวใจนอนดิ้นอยู่ในหลุมด้วยความหงุดหงิด จนไม่ได้ไปผุดเกิดเสียที เพราะไม่ได้โอกาสชำระประวัติศาสตร์ให้กระจ่างกว่านี้เสียที
…วันนี้เรากล้ามาชำระกันเสียทีดีไหม ใยหงออยู่ ฤาเกรงว่าจะไม่ได้ตายไปนอนดิ้นอยู่ในหลุมแบบองค์วรมันกระนั้นหรือ
ส่วนฝรั่งเศส เขาเก่งมานานแล้ว นับเลขได้มากกว่าเราทั้งสองชาติที่กำลังจะรบกัน.. ปิแยร์ วิตอง การ์แด็ง หลุยส์…..หลุยส์วิตอง ปิแยร์กาแด็ง ..ก็สมควรแล้วที่จะเป็นนายทั้งเขมรและไทยมาได้จนถึงวันนี้
..จาก……..ยาด็อง ยาแด็งส์ ขะแมร์ มหาเดโช ฮวยเซ็ง เอวัง กะมี โตย เปรียะกาน ชนี
เป็นคนหูไม่กระดิกกับภาษาต่างประเทศสักเท่าไร แต่ก็รู้สึกสนุกกับการอ่าน ข้อมูลนี้เหมือนเติมคำในช่องว่างให้เข้้าใจว่าเหตุใดในสมัยพระนารายณ์ บรรดาขุนนาง-ทหารใหญ่ต่างๆจึงมาจากสายมุสลิมภาคใต้ก็เยอะ ให้ยศฮินดูที่อพยพเข้ามาจากอินเดียแล้วทำคุณให้สังคมในยุคนั้นก็ด้วย
ณ วันนี้ มุสลิมใน ๓ จังหวัดภาคใต้ส่วนหนึ่ง เขาเรียกคนพุทธที่ไม่ใช่คนใน ๓ จังหวัดภาคใต้ว่า “สยาม” ค่ะอาจารย์
คุณหมอครับ เขาเรียก สยำ มาแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองแล้วครับ อย่างน้อยเขาก็อ้างมาแบบนั้น เขาอ้างแต่สมัยโน้นแล้วครับว่า มีชนชาวที่เรียกตัวเองว่า สยาม
มาจนบัดนี้ ซึ่งก็มีจริง ๆ เสียด้วย
เพื่อนผมคนหนึ่ง อพยพย้านถิ่นมาเรื่อย จนมาเป็นรองอธิการบดีมหาลัยอีสาน แต่เกิดที่กลันตัน
อีกคนไปเรียนป.เอกด้วยกัน ด้านวิศวะ ที่มอมิชิแกน บอกว่าเกิดที่พระตระบอง คุณพ่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด มาสอนผมเล่นซอด้วง ส่วนผมสอนท่านซ่อมรถ (ท่านแก่กว่าผม 13 ปีแน่ะ แต่เป็นเพื่อนรักกันมาก)
ม้นก็แปลกดีนะครับประเทศไทยเรานี้มัน ขยำ สยำ ผสม กลมกลืนกันไปหมดแหละ…ยกเว้นเขมร มันเป็นเผ่าพันธุ์บริสุทธิมานานแล้ว จะกลายเป็นอารยันแห่งอุษาคเนย์ไปแล้วโน่น..หน้ากัวเนะ.สยำกุก
ข่าวด่วน ครับพระอาจารย
เป็นไข้หายไม่ทัน จึงขอยกเลิกรายการนัดพบอาจารย์พรุ่งนี้
สุดแสนเดียดาย แล้วจะขออนุญาตนัดใหม่เร็วๆนี้นะครับ
ขอคุณครับที่กรุณานัดอาจารย์ท่านอื่นมาร่วมพูดคุย
ขอโทษแทนด้วยครับ