ขอม สยาม เขมร: ทฤษฎีใหม่ (ตอนที่ ๔)

โดย withwit เมื่อ 6 February 2011 เวลา 2:34 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2192

อล. บทความนี้ผมตั้งใจว่าจะเอาลง ผจก. ออนไลน์ ตามคิวที่ได้รับในวันจัทร์ที่ ๑๔ เลยเอามาโพสต์ไว้ให้ยิงกันเล่น เป็นอาหารว่างครับ..ทวิช

 

ขอม สยาม เขมร: ทฤษฎีใหม่ (ตอนที่ ๔)

 

เพิ่งได้รับทราบว่าที่  ”สยามมิวเซียม” มีข้อมูลทฤษฎีพระเจ้าอู่ทองหลากหลาย หนึ่งในทฤษฎีนั้นระบุว่า พระเจ้าอู่ทอง “เป็นกษัตริย์มาจากเขมร “ อ้าว…แบบนี้ผมไม่หัวเดียวกระเทียมลีบอีกต่อไปแล้วสิ

 

Charles Higham นักโบราณคดีชื่อก้อง เขียนหนังสือ  ”Civilization of Angkor”  ได้ยกอ้างบันทึกของนักสำรวจชาวปอร์ตุเกสที่เดินทางไปสำรวจนครวัดในปี คศ. 1601 (ซึ่งขณะนั้นนครวัดเป็นเมืองร้าง เต็มไปด้วยป่าปกคลุม)  สรุปสาระสำคัญได้ว่า   1) คนพื้นเมือง (ซึ่งคงยังมีหลงเหลืออยู่บ้างรอบๆนครวัด) ให้การว่านครวัดนี้สร้างโดย “คนต่างชาติ”  2) นักสำรวจปอร์ตุเกสมีความเห็นว่า กษัตริย์ผู้สร้างสยาม (ศรีอยุธยา) ไปจากนครวัด

หนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ ซึ่งถือเป็นพงศาวดารสำคัญของล้านนาบันทึกไว้ว่า  “…ครั้งหนึ่ง เมืองชัยนาทเกิดทุพภิกภัย พระเจ้ารามาธิบดีกษัตริย์อโยชชปุระเสด็จมาจากแคว้นกัมโพช ทรงยึดเมืองชัยนาทนั้นได้….”

 

พระเจ้ารามาธิบดี ก็คือพระเจ้าอู่ทอง นักวิชาการประวัติศาสตร์ไทยส่วนใหญ่ตีความกันว่า กัมโพช เป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งของ ลพบุรี  แต่ผมขอแย้งว่าไม่ใช่ โดยผมเห็นว่ากัมโพช หมายถึงอาณาจักรกัมพูชาโบราณเสียมากกว่า (ซึ่งไม่ใช่เขมรในวันนี้หรอกนะ) 

 

มันคงยากที่ลพบุรี..ซึ่งมีตัวตนเป็นที่รู้จักไปทั่วสารทิศว่า ลวปุระ (และ ละโว้ด้วย) มานาน 500 ปี..จู่ๆจะไปใช้ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า  “กัมโพช”  ซึ่งเป็นชื่อที่นครวัดก็ได้ใช้มาจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไปนานกว่าสามร้อยปีอีกแล้วด้วย จู่ๆเมืองสองเมืองที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งคู่จะไปใช้ชื่อเหมือนกัน เช่น ลอนดอน จะไปใช้ชื่อว่า ปารีส  อีกชื่อหนึ่งด้วย..มันจะเป็นไปได้หรือ  อีกทั้งชินกาลฯนั้นเวลาเอ่ยถึงลพบุรีและอยุธยาจะเรียกว่า “เมือง”ลวปุระ และ เมืองอโยชชปุระ แต่พอเอ่ยถึงกัมโพชเรียกว่า “แคว้น”กัมโพช ซึ่งคำว่า”แคว้น”ในสมัยโน้นหมายถึง “ประเทศ” ในสมัยนี้

 

การที่ชินกาลฯใช้ภาษาเช่นนี้ เป็นเพราะเกิดจากความเข้าใจของกษัตริย์ล้านนาว่า…พระเจ้าอู่ทองเป็นกษัตริย์กัมพูชาที่ย้ายเมืองหลวงจากนครวัด มาอยู่ที่อโยชชปุระ ดังนั้นพระเจ้าอู่ทองจึงคือ “ผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นกัมโพช” ดังเดิม

 

นับเป็นความฉลาดทางการทูตของพระเจ้าอู่ทองที่ทำให้ทั้งลพบุรี หริภุญชัย ล้านนา ยอมรับว่าพระองค์ยังคงเป็น “ผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นกัมโพช” แม้นว่าจริงๆแล้วถูก ทาสแตงหวาน (ตระซ็อกประแอม) ไล่ฆ่าเสียจนเสียมเรียบ จนต้องกระเจิงหนีมาสร้างกรุงศรีอยุธยา

 

มีหลักฐานโดยอ้อมระบุว่าพระเจ้าบุเรงนองแห่งพม่าก็เรียกสยามในสมัยโน้นว่า กัมโพช หลักฐานนี้คือชื่อพระราชวังที่เรียกชื่อว่า “กัมโพชาธานี” ซึ่งมีบันทึกว่าสร้างด้วยแรงงานเชลยศึกจากอยุธยา ผมเลยต่อกระเบื้องแตกว่าคงตั้งชื่อเอาไว้เย้ยหยันแคว้นกัมโพชาที่ไปตีมาเป็นเมืองขึ้นได้นั่นเอง

 

 

การนับเลขในโลกนี้มีระบบฐานสิบสอง (ฝรั่ง)  ฐานสิบ (ไทย) ขอมโบราณออกเสียงหนึ่งถึงสิบว่าอย่างไรคงต้องไปศึกษากันต่อ แต่น่าเชื่อได้ว่าสำเนียงคล้ายๆมอญนี่แหละ เพราะอักษรขอมโบราณนั้นไม่อาจเรียกว่าคล้ายแต่ต้องบอกว่าเหมือนอักษรมอญโบราณทีเดียวแหละ และจารึกอักษรมอญโบราณที่เก่าแก่ที่สุดก็เจอในประเทศไทยนี่แหละ เก่ากว่าภาษาขอมโบราณเสียอีก  ผมไปสืบมาพบว่าภาษามอญออกเสียงนับเลขเป็นระบบฐานสิบ (ดังนั้นขอมก็คงฐานสิบด้วย) ส่วนเขมรตั้งแต่สมัย ๘๐๐ ปีก่อนจนถึงวันนี้ใช้ระบบฐานห้ามาตลอด เรื่องนี้เป็นหลักฐานสำคัญสุดว่าเขมรไม่ใช่ขอม

 

บทก่อนเมื่อตอนที่ ๓ มีคนด่าผมไว้ท้ายบทความว่าแปลภาษาอังกฤษแบบมั่วๆ..หนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรกที่แปลบันทึกโจวตากวนโดยตรงจากภาษาจีน (A RECORD OF CAMBODIA  โดย Peter Harris) คือ:- None of the locals produced silk. Nor do the women know how to stitch and darn with a needle  and thread. ผมแปลว่า “ชาวบ้านไม่รู้จักใช้เข็มในการเย็บและชุนผ้า “  แต่เขาด่าผมว่าควรแปลว่า..ชาวบ้านเขมรใช้เข็มและด้ายไม่ค่อยชำนาญ (ท่านคงเกรงใจเขมร กลัวเขมรจะโกรธแล้วบุกเอาเข็มมาทิ่มให้”เสียมเรียบ”ครั้งที่สองกระมัง จึงไม่กล้าแปลตรงๆและถูกต้องแบบผม )

 

ผมกำลังเสนอทฤษฎีใหม่ที่ต่างไปจากทฤษฎีเก่า  ถ้าใครจะเถียงโต้กับผมกรุณาอย่าหน่อมแน้มอ้างทฤษฎีเก่ามาเป็นหลักฐานว่าผมผิดสิครับ ซึ่งทฤษฎีพวกนี้มีรากเหง้ามาจาก จอร์จ เซเดย์ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นคนฝรั่งเศส ที่ทำงานรับใช้เจ้าอาณานิคม เพื่อหวังฮุบเอาดินแดนเขมรไปจากเรา เขาก็สร้างนิยายว่าเขมรเป็นลูกหลานวรมัน ทั้งที่พงศาวดารดั้งเดิมเขมรฉบับแรกระบุด้วยความภาคภูมิใจว่าบรรพบุรุษเขาคือนายแตงหวานที่ฆ่าวรมันตายเรียบ (เสียมเรียบ) ต่างหาก  

 

ส่วน “สยาม” นั้นเซเดย์ ยัดเยียดทฤษฎีใหม่ให้ว่าถอยร่นหนีการบุกของกุบไลข่านลงมาจาก”น่านเจ้า”โน่น  ไม่ได้อยู่ตรงนี้มาแต่แรก แล้วเราก็กราบทฤษฎีฝรั่งว่าแสนศักดิ์สิทธิ์ คนไทยด้วยกันมาเสนอทฤษฎีใหม่อย่างมีหลักฐานและเหตุผล พวกเขากลับหาว่าบ้าบอ โง่เขลา กระทั่งคลั่งชาติไปโน่น

 

…ทวิช จิตรสมบูรณ์ (๖ กพ. พ.ศ. ๒๕๕๔)

« « Prev : พระเจ้าอู่ทอง (อู๋ตงฮ่องเต้)

Next : รักชาติ…ตกยุคและล้าสมัย (ตอนที่ ๑) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ขอม สยาม เขมร: ทฤษฎีใหม่ (ตอนที่ ๔)"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.08325719833374 sec
Sidebar: 0.013444900512695 sec