ขอมสยามเขมร..(๒)..หลักฐานเพิ่มเติม

โดย withwit เมื่อ 29 January 2011 เวลา 6:24 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1518

หลักฐานที่เสริมว่าพระเจ้าอู่ทองมาจากนครวัด

 

ในบทความก่อน ผมได้เสนอทฤษฎีใหม่ว่าพระเจ้าอู่ทองนำคน”สยาม”อพยพหนีตายมาจากนครวัดเพื่อมาสร้างกรุงศรีอยุธยา  คนสยามนี่แหละที่เป็นผู้สร้างนครวัดและนครธม ส่วนเขมรเป็นพวกข้าทาสแรงงานในการก่อสร้าง โดยผมได้แสดงหลักฐานและเหตุผลประกอบตามข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และด้านวัฒนธรรมประเพณี (ไม่ได้โมเมแบบที่บางคนกล่าวหาผมอย่างไม่เป็นธรรม)  

 

คราวนี้ขอเสนอหลักฐานโดยอ้อม จากบันทึกของโจวต้ากวน ทูตการค้าชาวจีนที่เข้าไปอยู่ในนครวัดเมื่อปี คศ.  1295 (40 ปีก่อนที่หัวหน้าทาสชื่อตระซอกประแอม (แตงหวาน) จะนำกองกำลังทาสถล่มกษัตริย์วรมันหมดสิ้นสกุลแล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ซึ่งพงศาวดารเขมรฉบับแรกที่ยังไม่มีอิทธิพลฝรั่งเศสก็ยอมรับว่าเขาผู้นี้แหละคือต้นตระกูลเขมร) 

 

บันทึกของโจวฯ นี้ถือกันในวงวิชาการว่าสำคัญที่สุด เพราะเป็นบันทึกชิ้นเดียวในโลกที่มีอยู่ที่บันทึกเรื่องราวในนครวัดอย่างละเอียดพอควร

 

โจวฯได้บันทึกเรื่องการทอผ้าว่า ชาวพื้นเมืองนครวัดไม่รู้จักการทอผ้าไหม รู้จักแต่การทอผ้าฝ้าย ซึ่งวิธีการทอผ้าก็หยาบมากกล่าวคือ เอามือดึงเส้นด้ายออกมาจากปุยฝ้าย โดยไม่มีการปั่นด้ายให้เป็นเส้นละเอียด แล้วก็เอามาทอเป็นผืนโดยไม่ใช้กี่ แต่ใช้เส้นด้ายพันรอบเอวไว้  ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งผูกไว้กับขอบหน้าต่าง แล้วใช้ท่อนไม้ไผ่ดันกระแทกเส้นด้ายพุ่งในการทอผ้า  (น่าสังเกตว่าเป็นวิธีที่คนไทยกระเหรี่ยงแถวแม่ฮ่องสอนก็ยังใช้อยู่จนถึงวันนี้)  อีกประการคือ ชาวพื้นเมืองไม่รู้จักใช้เข็มและด้ายพวกเขาจึงเย็บผ้าและชุนผ้าไม่เป็น

 

โจวฯบันทึกต่อไปว่า…ในระยะหลัง มีพวกสยามเข้ามาอยู่มาก พวกนี้รู้จักการทอผ้าไหมแบบใช้กี่ พวกเขานำต้นหม่อนและตัวไหมมาจากเมืองสยาม นอกจากนี้พวกสยามยังรู้จักใช้เข็มและด้ายในการเย็บและชุนผ้าอีกด้วย

 

หลักฐานข้างต้นนี้สนับสนุนทฤษฎีของผมที่ว่ามีคนสยามเข้าไปอยู่ในนครวัดมาก โดยผมเชื่อว่าเป็นคนชั้นสูงที่เป็นเครือญาติของกษัตริย์ และเป็นสมาชิกครอบครัวของทหารสยามที่เข้ามาค้ำบัลลังก์กษัตริย์ชัยวรมันที่ ๖ ต่อมาจนถึงที่ ๗ (ผู้สร้างนครธมและสร้างต่อนครวัดจนเสร็จ)  ซึ่งทั้งสองเป็นกษัตริย์ที่มีเชื้อสายมาจาก “พิมาย”

 

ยิ่งทอผ้าไหมก็ยิ่งใช่เลย เพราะพิมายมีชื่อกระฉ่อนในการเลี้ยงไหม ทอผ้าไหมอยู่แล้ว  และที่ชาวพิมายถูกเรียกว่า สยาม ก็เพราะมันเพี้ยนมาจากคำว่า  “สวายาม” ซึ่งเป็นชื่อพระบิดาของ ชย. ๖ (ซึ่งเป็นคนพิมาย)  นั่นเอง  

 

การที่กษัตริย์ ชนชั้นสูง และทหารเป็นอีกเผ่าหนึ่งแล้วพลเมืองโดยทั่วไปเป็นอีกเผ่าหนึ่งนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าบริหารดีๆ ก็ทำได้ เช่น ราชวงศ์หยวน และราชวงศ์คิง ของจีน ซึ่งเป็นพวกมองโกล และ แมนจู นั่นอย่างไร เป็นชนส่วนน้อยแต่กลับปกครองคนส่วนใหญ่ได้หลายร้อยปี

 

น่าคิดต่อไปว่า คนพื้นเมืองนั้นแค่ทอผ้าเย็บผ้ายังทำไม่เป็น แล้วจะไปสร้างนครวัดนครธมได้อย่างไร ก็มาเข้าทฤษฎีผมที่ว่า คนสยามต่างหากเล่าที่เป็นคนออกแบบ และคุมการสร้างทั้งหมด โดยนายช่างพวกนี้มาจากพิมายและลพบุรีเป็นส่วนใหญ่  (เริ่มสร้างในสมัยพระสุริยวรมัน ๒ ..ชาวลพบุรี แล้วมาเสร็จเอาในสมัยพระชัยวรมัน ๗..ชาวพิมาย)

 

ส่วนแรงงานในการสร้างนั้นมาจากพวกทาสเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทาสพวกนี้น่าจะเป็นพวกจามผสมกับพวกคนป่าที่ถูกจับมาเป็นเชลยจากการทำสงคราม ซึ่งพวกทาสบางส่วนนั้นเมื่อเวลาผ่านไปก็พัฒนาขึ้นมาเป็น “คนพื้นเมือง” และเป็นนายทาสในที่สุด ดังนั้นคนพวกนี้จึงไม่มีความรู้เรื่องการทอผ้าซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง

 

โจวฯระบุด้วยว่า ครอบครัวชาวนครวัด “ส่วนใหญ่” มีทาสเป็นร้อยหรือมากกว่านั้น บางครอบครัวมี 10-20 ทาส ยกเว้นครอบครัวที่จนมากที่สุดเท่านั้นจึงจะไม่มีทาสเลย จากการประเมินของนักวิชาการฝรั่ง นครวัดช่วงนั้นมีพลเมืองประมาณ 1 ล้านคน  ดังนั้นจึงประเมินได้ไม่เกินความจริงไปเลยว่านครวัดช่วงนั้นน่าจะเป็นทาสเสีย 6 แสน คนชั้นสูง ทหารและครอบครัว และคนพื้นเมืองที่เป็นนายทาสเสีย 4 แสน

 

พอถึงคศ. 1336 เมื่อตระซอกประแอมนำพวกทาสล้มบัลลังก์วรมัน ก็อาจฆ่าคนสยาม และพวกนายทาสไปเสีย 1 แสน ในการนี้ทาสทั้งหลายได้ประโยชน์สองต่อคือยึดอำนาจรัฐและปลดแอกจากการเป็นทาสไปพร้อมกัน

 

3 แสนที่เหลือก็หนีตายอพยพไปก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา นำโดยพระเจ้าอู่ทอง นั่นแล โดยนำเอาระบบกษัตริย์เทวราชาติดตัวไปที่อยุธยาด้วย อีกทั้งกษัตริย์เป็นคนขอม ก็ต้องตรัสด้วยภาษาขอม ซึ่งกลายมาเป็นราชาศัพท์ของเราจนถึงทุกวันนี้

 

ชย. ๗ ทรงสร้างนครธม ที่ฝรั่งแปลตามศัพท์เขมรว่า นครใหญ่ แต่ผมว่านี่คือ นครธรรม ต่างหาก เป็นภาษาสยาม ที่แปลงมาจากบาลี (ธรรม = ธมฺ ) มันต้องใช่แน่นอนเพราะ ชย. ๗ ทรงธัมมะธัมโมมาก อีกทั้งชื่อปราสาทต่างๆในนครธมก็เป็นภาษาสยามเสียมากเลย เช่น ปราสาทนาคพัน (เขมร = เนียคเพียน) (พญานาคพันตัวไปมา )ปราสาทตาพรหม  ปราสาทพระขรรค์ ปราสาทตาแก้ว สระสรง พระรูป  ที่ชื่อเป็นสำเนียงสยามหมดก็เพราะ ชย. ๗ เป็นชาวสยามจากพิมายนั่นเอง

 

 

..ทวิช จิตรสมบูรณ์ (๑๕ มค. ๒๕๕๔)

« « Prev : อนาคตชาติไทย ๒๐ ปีจากนี้…ไม่ต้องเป็นโหรก็ทำนายได้แม่น

Next : เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์??? » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 January 2011 เวลา 7:49 pm

    โอย อันเก่ายังไม่ทันย่อยเลยค่ะ กำลังตั้งหลักกับขอมอยู่หลัดๆ เพราะความจำกระพร่องกระแพร่งของเบิร์ดบอกว่า
    ๑. ขอมไม่ได้หมายถึงเชื้อชาติ แต่หมายถึงการมีวัฒนธรรมร่วมกันในยุคนั้นซึ่งได้แก่พุทธมหายาน(และฮินดู?)น่าจะเป็นเส้นพุทธตามที่อาจารย์ขีดไว้ เพราะอยู่ลุ่มน้ำ
    ๒. พิมาย กับลพบุรี(ละโว้) นี่น่าสนใจว่ามีภาษาเขียนของตัวเองหรือยัง และเป็นภาษามอญหรือเปล่า (ตัวเมืองทางเหนือมาจากภาษามอญกับบาลี(บางส่วน : เพราะมีพระเถระไปอินเดีย+ศรีลังกา และได้ตัวบาลีมา)น่ะค่ะ)
    ๓. เชียงราย เชียงใหม่ถนัดทดน้ำเข้านา ระบบเหมืองฝายแบบโบราณของชาวบ้านภาคเหนือ เป็นระบบการจัดการน้ำโครงสร้างฝายทำจากวัสดุท้องถิ่น ทั้งไม้หลัก ก้อนหิน เชือกเปลือกไม้ ผู้ใช้น้ำทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างฝาย ขุดลำเหมือง ตลอดถึงการดูแลรักษา จัดสรรน้ำโดยคณะกรรมการเหมืองฝาย มีแก่ฝายเป็นผู้ตัดสินใจสูงสุด มีล่ามน้ำทำหน้าที่ส่งข่าว ประสานงาน …คล้ายๆกับระบบบาราย หรือระบบชลประทานของสุโขทัยมั้ยคะ

    กำลังค่อยๆไล่ แต่นี่อาจารย์เปิดอีกอันแล้ว :(

  • #2 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 January 2011 เวลา 8:32 pm

    ผมเชื่อว่า ขอม เป็นทั้งชนชาติ และวัฒนธรรม (แต่นักประวัติศาสตร์ไทยเขาไปเขียนหน้งสือหากินกันมาก แล้วไปสร้างวาทกรรมตามอิทธิพลฝรั่งว่า ขอมเป็นเพียงวัฒนธรรม ไม่ใช่ชนชาติ) และเชื่อว่า คำว่า ขอม เป็นคำเรียกของคนเหนือต่อคนใต้ที่มีผิว ขำ/คล้ำ/ขอม แต่นี่เป็นเพียงความเชื่อนะครับ ซึ่งถ้าจะหาหลักฐานมาสนับสนุนก็คงได้ แต่คงต้องรอไว้ชาติหน้าตอนเช้าๆ (ไม่ถึงกับสายหรอกครับ)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.08833384513855 sec
Sidebar: 0.0082330703735352 sec