เมื่อปลาฝรั่งสอนหมาไทย (หมา=doc)

โดย withwit เมื่อ 28 February 2011 เวลา 12:44 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2459

ทำไมฝรั่งเจริญกว่าไทย (๒๐) (ความเชื่อมั่นตนเอง)

ผมได้ให้ความสำคัญกับนิสัยปัจเจกของฝรั่งมาก มันส่งผลดีมากมายต่อพวกเขา ผลเสียก็มีไม่น้อย แต่ขอละไว้ก่อน (คงต้องมีอีกซีรีย์ว่า “ทำไมฝรั่งเลวกว่าคนไทย” เช่นการเหยียดผิวก็มีรากฐานมาจากปัจเจก สงครามโหดร้ายก็เช่นกัน)

ผลดีอันเอกอุที่สุดอันหนึ่งของนิสัยปัจเจก คือ ความเชื่อมั่นในตนเอง เพราะมันเป็นพลังสำคัญในการทำให้กล้าหาญในการทำงาน หรือแม้แต่การเล่นก็ตาม ซึ่งมันเริ่มแรกตั้งแต่การกล้าคิด กล้าแสดงออก และกล้าทำ (เช่น ไอ้โจร โซรอส มันก็กล้าคิดกล้าปล้นประเทศไทย 65 ล้านคนด้วยมันเพียงคนเดียวมาแล้ว มันแน่ไหมล่ะ)

ความเชื่อมั่น กล้า ถูกผสมเข้ากับนิสัยการคิดแบบเชิงเส้น (linear thinking) นำสู่การคิดวิเคราะห์ ทำให้ฝรั่งคิดค้นสิ่งดีต่างๆ (และเลวๆด้วย) ในเชิงปรัชญา วิทยาศาสตร์ และอื่นๆ ได้มากมายอย่างเหลือเชื่อ จากอะตอม จุลินทรีย์ ไฟฟ้า ปรมณู ถึงยานอวกาศและมือถือ ท่านพุทธทาสภิกขุถึงกับเคยเอ่ยว่านักวิทยาศาสตร์ฝรั่งนั้นคิดได้เก่งมาก ถ้าพวกนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เอาสมองมาคิดเรื่องนิพพานมันน่าจะหลุดพ้นเป็นอรหันต์กันหมดในที่สุดเป็นแน่

ส่วนคนไทยเรานั้นขาดความเชื่อมั่นในตนเองเป็นที่สุด กลัวไปหมดเสียทุกอย่าง แม้แต่เด็กนศ.วิศวะปีสามผู้ชายอกสามศอกเข้ามาหาผมเพื่อรับการปรึกษาด้านวิชาการก็ยังหนีบเอาเพื่อนมาเป็นเพื่อนด้วยอยู่เนืองๆ ..ไม่กล้าเข้ามาหาแบบเดี่ยวๆ

การที่เด็กนศ.ยกพวกตีกันนั้นผมว่าก็มีสาเหตุมาจากการขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เพราะมันส่งผลให้เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องไปเป็นกลุ่ม (ไม่กล้าไปคนเดียว) พอไปเป็นกลุ่มก็เกิดพฤติกรรมพวกมากลากไป ก็กล้าขึ้นมาทันที พอเขม่นกันก็เลยตีกัน จนกลายเป็นศึกยืดเยื้อ

ที่น่าแปลกมากคือ คนไทยจะมีความผูกพันกับสายเลือด (วงศ์สกุล …ทั้งที่เรื่องนามสกุลนี้เป็นของใหม่สำหรับคนไทย เพิ่งมีเมื่อไม่ถึงร้อยปีมานี่เอง) และสถาบันการศึกษา แต่ไม่ภูมิใจในตัวเอง และในท้องถิ่นกำเนิดของตนเอง ทำให้ดูเหมือนว่าคนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสถานที่มากนัก ส่วนฝรั่งนั้นแทบตรงข้ามเลย เพราะเขาไม่ผูกพันกับวงศ์ตระกูลและสถานศึกษามากนัก แต่เขารักท้องถิ่นที่เขากำลังอาศัยอยู่มากเหลือเกิน

คนไทยเราจบมหาลัยไหน พอรวยแล้ว ก็บริจาคให้มหาลัยนั้น (ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม) ส่วนฝรั่งเขามักบริจาคให้มหาลัยในท้องถิ่นที่เขาอาศัยอยู่ทั้งที่ไม่ได้จบจากที่นั่นสักหน่อย เคยได้ยินเศรษฐีไทยบริจาคให้มหาลัยฝรั่งที่ตนเองจบมาเป็นเงินนับร้อยล้าน แต่ไม่บริจาคให้มหาลัยไทยในท้องถิ่นที่อยู่…เออแปลกดี

ผมเคยไปเที่ยวกว๊านพะเยา ซึ่งมีภัตตาคารดีๆมากหลายริมๆกว๊าน ผมไปถามหาประมาณสิบร้านว่ามีรายการอาหารที่เป็นปลามาจากกว๊านบ้างไหม ปรากฏว่าไม่มีเลยสักร้านเดียว มีแต่ปลานิล ทับทิม กะพง เก๋า รวมไปกระทั่งถึงแซลมอนโน่น (เหมือนในกรุงเทพ และร้านอื่นๆทั่วประเทศไทยเป๊ะเลย) ถ้าจะหาปลาจากกว๊านต้องไปหาในตลาดสดพื้นเมืองเช่นตลาดแม่ต๋ำ ห่างออกไปอีก 20 กม. โน่น ไปดูแล้วต้องร้อง โอ้โฮ …มันมีปลาประหลาดมากจริงๆ นี่ถ้าเอามาทำการตลาดคงกระหึ่ม (หรืออาจเจ๊งก็เป็นได้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่เขาไม่กินกันหรอก ไอ้ปลาท้องถิ่นกระจอกบ้านนอกแบบนี้)

ไปที่ไหนผมก็จะถามหาหาปลาท้องถิ่นเสมอ เช่น บึงบอระเพ็ด หนองหาน เขื่อนอุบลรัตน์ น้ำพอง ทะเลสาปสงขลา และ ฯลฯ ไม่น่าเชื่อเลยว่า ทั่วประเทศไทยไม่มีร้านไหนมีเมนูปลาในพื้นที่เลย (นอกจากฟลุคจริงๆ แบบไม่ตั้งใจ เช่น ที่ท่าศาลา นครศรีฯ มีร้านเพิงเน้นเรื่องปลากระบอกมากเป็นพิเศษ) ส่วนใหญ่มักมีเพียงแค่สี่ห้าสกุลที่ได้เอ่ยชื่อไปแล้วเท่านั้นเอง นี่แสดงว่าอะไร นอกจากว่าคนไทยเราไม่ภูมิใจในท้องถิ่นนั่นเอง

สาเหตุที่ไม่ภูมิใจผมว่ามาจากไม่เชื่อมั่นในตนเอง (นี่ยกตัวอย่างเฉพาะเรื่องปลานะ เรื่องอื่นๆมีอีกมาก ลองคิดดูสิ)

ซึ่งผมว่าประเด็นนี้มันมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาสังคมและชาติเอามากๆ เช่น พอไม่เชื่อมั่นตนเอง ก็ยิ่งทำให้เห่อแต่คนที่”เจริญ”กว่า เช่น เห่อฝรั่งเป็นต้น เห่อมากจนไม่รู้จัก “คิดอะไรที่เป็นของตนเอง” เพราะตามอย่างเขาไปเสียหมด ในที่สุดก็ซื้อเขาหมด จากมือถือ รถยนต์ ยันกระทั่งปลาโง่ๆ ทั้งที่เราเองก็มีอยู่เต็มทะเลสาปใกล้ตัวนี่เอง

ส่วนของฝรั่ง ถ้าท้องถิ่นไหนมีปลาอะไรที่แปลกไปจากที่อื่นเขาจะตีปี๊บดังสนั่น และจะเป็นจุดขายสำคัญของเขาทีเดียว ราคาก็จะแพงกว่าปกติอีกด้วย เช่น ที่เมืองคลีฟแลนด์ (usa) มีปลาวอลลาย (wall eye) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นปลาน้ำจืดที่มีเฉพาะในทะเลสาบในเขตนี้ เขาก็เอามาทำเสต็กปลาที่ราคาแพงมาก ผมเคยไปกินเมื่อสักยี่สิบปีมาแล้ว ราคาจานละ 25 เหรียญโน่น (แพง ..แต่ร้านมันหรูสักหน่อย ผมไปไม่ได้ใส่สูต มันบังคับให้ไปใส่สูตผูกไทที่เตรียมไว้ให้ลูกค้าประเภทฉุกเฉิน) แต่ถ้ากินเสต็กปลาฮาลิบัทที่จับได้ในทะเลแถบอาร์คติกที่แสนห่างไกลมันแค่ 20 เหรียญเท่านั้นเอง (ในขณะที่เสต็กเนื้อวัวในร้านชั้นกลางทั่วไปในขณะนั้นจะเฉลี่ยที่ 5-10 เหรียญ)

ที่น่าสนใจคือ มันเป็นปลาท้องถิ่น ที่จับได้ในท้องถิ่นไม่ต้องเสียค่าขนส่ง แช่แข็ง เหมือนไอ้เก๋า ไอ้กะพง ฮาลิบัท แฮดดอค เฮอริง บาราคิวดา จากดินแดนไกลโพ้น มันน่าจะถูกกว่าปกติสิ แต่เขากลับขายแพงกว่าเสียอีก คุณภาพเนื้อมันก็แข็งโป๊ก (เผอิญผมไม่ชอบนุ่ม ชอบแข็งๆ พอดี) เพราะถ้ามันนุ่มหอมดีมันคงจับเอาไปขายให้เมืองอื่นแล้วแหละ

เรื่องความภูมิใจในปลาปูหอยนี้เมืองอื่นๆของอเมริกาจะคล้ายๆกัน เพราะถ้าคุณไปเวอร์จิเนียคุณต้องกินปู blue crab ไปนิวออร์ลีนคุณต้องกินกุ้ง crawfish (เนื้อโคตรแข็ง) ไปฟลอริดาต้องกินคิงส์ลอบเสตอร์ ไปริมทะเลสาบที่ไหนคุณต้องได้กินปลาเทร้าท์ ที่จับมาจากที่นั่นเป็นอย่างต่ำอาจมีปลาท้องถิ่นชื่อแปลกๆอื่นด้วย

ผมไปที่ไหนในเมืองไทยเราก็ไปสอนร้านค้าเสมอว่า ให้เปิดร้านขายแต่อาหารเมนูท้องถิ่นสิ รับรองว่าแปลกกว่าคนอื่นแล้วรวยแน่ แม้แต่ที่แม่ฮ่องสอน (ที่ผมไปมาสักห้าครั้งแล้วเห็นจะได้ ขับรถผ่านเกือบสองพันโค้ง) ที่กิน “ถั่วเน่า” กันทั้งเมือง แต่ไม่ปรากฎว่ามีร้านค้าใดมีรายการอาหารที่มีถั่วเน่าเจือปนเลยสักร้านเดียว ที่อุบลฯมีปลาแปลกๆมากมาย ซึ่งที่แม่น้ำโขงก็ไม่มี เช่น ปลาแปบ ปลาหมู ปลายอน ปลาร้อยแปด (มันหลากหลายจริงๆ) แต่ปลานี้ไม่เคยได้ขึ้นไปอยู่ในคำขวัญจังหวัดเลย

ที่อ.เชียงของ (จ.เชียงราย) แดนปลาบึก ผมไปถามคนท้องถิ่นว่าปลาบึกมันอยู่แถวนี้หรือ เขาตอบทันควันว่า เปล่าหรอก…มันว่ายมาจากฝั่งลาวโน่น …นี่แสดงว่าคนไทยเรามันขาดความภูมิใจในท้องถิ่นกันจริงๆ ต้องของ นอก ของ ต่างถิ่น สิ จึงจะดี ของเราเองมันน่ารังเกียจ (หรือกลัวคนอื่นเขาจะรังเกียจก็ไม่รู้)

อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆแบบปลาปิ้งนี้นะครับ เรื่องแบบนี้ไม่มีในตำรารัฐศาสตร์หรือสังคมศาสตร์หรอก แต่ผมว่ามันแสดงออกถึงลักษณะนิสัย แนวคิดพื้นฐานของคนไทย ที่ฝังลึกในกมลสันดาน ที่ต่างจากฝรั่งมาก ซึ่งหมายความว่าหลักการและวิธีการบริหารรัฐกิจ ก็ต้องต่างจากฝรั่งด้วย

ถ้าไปลอกระบบบริหารรัฐกิจเขามาใช้มันก็ผิดฝาผิดตัว ก็ยิ่งมั่วมัวซัวกันไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละครับ

…ทวิช จิตรสมบูรณ์ (๖ พย. ๕๓)

« « Prev : นักวิชาการไทย..ขี้ขลาดยิ่งกว่าลูกแกะ

Next : อยากรวยเร็วให้เปิดร้านขายแว่นตา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 February 2011 เวลา 5:34 am

    ที่ตลาดสตึกบ้านผมนะครับท่านจอหงวน
    มีแม่น้ำมูลไหลผ่าน จึงมีหมู่บ้านชาวประมงมีอาชีพหาปลามาขายทุกวัน
    ปลาพื้นถิ่นที่ท่านเอ่ยถึงจึงยังพอมีที่นี่ทุกวัน
    สภาพสินค้าอาหารทั่วไปก็มีปลาเลี้ยงมาจำหน่ายมากขึ้น
    แต่เป็นที่สังเกตุว่า ปลามูลตัวโตๆราคาดีกว่าปลาเลี้ยง
    อนึ่ง สตึกอยู่ติดกับทุ่งกุลาร้องไห้ ชาวนาขุดบ่อน้ำดักปลาธรรมชาติ
    หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เขาก็จะสูบน้ำจับปลามาขายยังตลาดนัดปลากลางทุ่ง
    แต่ พักหลังทราบว่าไปซื้อปลาจากที่อื่นมาปะปนขายด้วย

    วันหลังถ้าท่านจอหงวนมาเที่ยวสตึก ผมจะพาไปเยี่ยมหมู่บ้านชาวประมง
    ไปดูตลาดปลาพื้นถิ่น และเจี๊ยะปลาให้สมใจนึกบางลำภู นะขอรับ อิอิ

  • #2 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 February 2011 เวลา 5:43 pm

    พูดแล้วน้ำยายไหยครับ บาท่าน ผมคนชอบเดินตลาด เห็นปลาช่อนนา ปลาหมอมาขายประจำ แต่นาวันนี้มันก็มีสารพิษมากอีกแหละครับ ไม่ทราบว่ามันจะส่งต่อไปถึงปลาในนาไหม

    ปลากั้งผมอยากกินมาก หาไม่เคยเจอเลยครับ
    ตอนเด็กๆ ตกปลาช่อน แต่ได้ได้กั้ง ต้องปลดทิ้ง
    เขาว่าห้ามกิน ..ปลาบู่ด้วย
    ไม่ทราบตำนานห้ามกินปลากั้งมันมายังไง ใครพอทราบบ้างครับ

  • #3 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 February 2011 เวลา 8:20 pm

    น่าคิดนะคะ ปลาพื้นถิ่นมันหายไปเยอะจริงๆ ชอบกินปลารากกล้วยทอดกรอบหรือทอดกระเทียมค่ะ เป็นปลาน้ำโขง(มั้ง) แต่ก็เห็นในน้ำแถวนี้เหมือนกัน เอามายำก็อร่อย กินได้ทั้งก้างเลย แคลเซี่ยมและวิตามินเอ-แซดเลยมั้งคะ(ถ้าจะจัดเข้าให้จนได้ อิอิอิ)

    ปลาช่อนนาตัวโตๆก็หายไป ตอนเล็กๆตามพี่ๆไปดูปลาไหลต้มเปรต แต่ไม่กล้ากินเพราะสงสารมัน เดี๋ยวนี้ก็ไม่เคยเห็นปลาไหลนาตัวเปรียวให้ไล่ตะครุบเหมือนเก่า มีแต่ปลาไหลเลี้ยงตัวเป้งแทน

  • #4 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 March 2011 เวลา 12:35 am

    ไปริมน้ำโขง เข้าร้านอาหาร ทุกร้านก็ไม่พ้น บึก แค่ คัง เบื่อจิ๊กหัย
    วันหนึ่งผมถามว่ามีแต่ปลาใหญ่ ๆ ปลาซิวมีไหม
    เขาตอบว่ามีจริงๆด้วย ปลาซิวแม่น้ำโขง
    แต่ตัวก็ยังใหญ่แบบโขงๆ อยู่ดี คือยาวประมาณ 10 ซม. โน่น

    ไปบางปลาม้า ก็หาปลาม้ากินไม่ได้
    มาได้กินปล้าม้าครั้งแรกที่ร้านยายท้าย ที่เมืองทอง
    เนื้อแข็งดี เอามาทำเสต็กคงอร่อยกว่าแซลม่อนเนื้อแดง ราคาแพง


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.68067216873169 sec
Sidebar: 0.12422299385071 sec