หมอเจ๊เล่าเรื่อง

#2 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 สิงหาคม 2008 เวลา 21:28 (เย็น)

#1 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 สิงหาคม 2008 เวลา 11:22 (เช้า)

โอยโย แค่9ปีความดันสูงทำลายสายตาให้เลือนลาง แล้ว9ปีที่ผ่านมารักษาตัวอย่างไรหนอ ไม่มีใครแกะลายแทงตัวนี้หรือค่ะ หมอเจ้จ๋า น่ากลัวจริงๆ ตอนนี้พี่เองก็ช่วยเหลือเพื่อนฝูง ในการรักษาสุขภาพ ด้วยการเข้าใจ เกี่ยวกับการกิน และการออกกำลังกายให้เหมาะกับอาชีพ และวัยค่ะ นี่เป็นความรู้ใหม่ที่ต้องบอกผู้คนให้ระมัดระวังเรื่องนี้เพิ่มขึ้น รับรองว่าพี่จะไม่ละเลยตั้งคำถามเกี่ยวกับการมองเห็นด้วยค่ะ กันดีกว่าแก้ ที่แล้วมาคนที่พี่แนะนำดูแลอยู่เชื่อฟังค่ะ
ขอบคุณมากค่ะหมอเจ้ ตอนนี้มีหลักฐานอ้างอิงจากหมอที่ลงมือจริงๆหลายคนแล้ว โชคดีจังเลยคุณป๋าอยู่บนสวรรค์ ยังส่งหมอมาช่วยพี่ได้ถึงลานปัญญา วันนี้วันแม่แต่ก็ไม่เคนลืมพ่อขอให้แม่เป็นนางเอกก่อนนะค่ะป๋าขา55555

#4 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 สิงหาคม 2008 เวลา 0:46 (เช้า)

#2 โอยโย แค่9ปีความดันสูงทำลายสายตาให้เลือนลาง แล้ว9ปีที่ผ่านมารักษาตัวอย่างไรหนอ ไม่มีใครแกะลายแทงตัวนี้หรือค่ะ

หมอเจ๊ : พี่หลินเจ้าขา น้องเขาก็รักษาตัวอยู่ตลอดแหละค่ะ แต่ที่มันเกิดก็เพราะนี่คือความร้ายกาจของโรค ผู้คนส่วนใหญ่จะเริ่มดูแลจริงจังเมื่อมีอาการให้ทนไม่ได้ เช่น เจ็บ ทรมาณ เดินไม่ได้ ทำอะไรประจำวันไม่ได้ สำหรับความดันโลหิตสูงนั้น เป็นภัยเงียบแบบระเบิดเวลาค่ะ มันไม่มีอาการทั้งๆที่มันอยู่กับตัวแล้ว แต่ว่าเมื่อเกิดแล้ว มันซึมลึกแบบยาพิษเลยค่ะ ที่มีอาการให้รู้นั่นนะ ครือว่า มันเกิดผลแทรกซ้อนแล้วค่ะ สำหรับน้องคนนี้ หมอเจ๊เชื่อว่า มีคนแกะลายแทงให้แล้ว ถึงแกะได้ ทำนายได้ อย่างไรก็คงไม่พ้นที่จะเกิดปัญหาจากมันอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ

ตอนนี้พี่เองก็ช่วยเหลือเพื่อนฝูง ในการรักษาสุขภาพ ด้วยการเข้าใจ เกี่ยวกับการกิน และการออกกำลังกายให้เหมาะกับอาชีพ และวัยค่ะ นี่เป็นความรู้ใหม่ที่ต้องบอกผู้คนให้ระมัดระวังเรื่องนี้เพิ่มขึ้น รับรองว่าพี่จะไม่ละเลยตั้งคำถามเกี่ยวกับการมองเห็นด้วยค่ะ

หมอเจ๊ : ดีใจที่พี่สนใจจะนำไปช่วยคนอื่นค่ะ เป็นกุศลอย่างยิ่งเลยค่ะ สำหรับสายตาลางเลือน ถ้าจะไปตั้งคำถามเพื่อช่วยเขานะค่ะ แนะนำให้อดใจเรียนรู้คำแนะนำต่อจากบันทึกหมอเจ๊ก่อนนะค่ะ ผู้คนที่เขารู้เขาจะได้ประเมินตัวเองถูก จะได้ไม่กลัวจนเครียดในการดูแลรักษาโรคให้ตัวเองค่ะ ที่แนะนำอย่างนี้ มันมีเรื่องหลายเรื่องเกี่ยวกับสายตาลางเลือนที่ไม่เกี่ยวกับโรคนี้และความอ้วนค่ะ

#6 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 สิงหาคม 2008 เวลา 20:02 (เย็น)

#6 พี่ค่ะพี่ขา คนทุกคนถ้ารู้วิชาหมอง่ายๆ จะใช้ปัจจัย 4 ตัวสุดท้าย คือ ยาน้อยมากเลยค่ะ

ปัจจัยตัวแรก คือ อาหารเป็นยาตัวสำคัญอยู่แล้ว เพราะมันทำให้เรายังชีพได้ แต่ถ้าเรากินมันเกินๆขาดๆ มันก็ทำให้เราเดี้ยงอย่างที่เรารู้กันอยู่

เรื่องอาหารยิ่งตัวเองรู้มากเท่าไร ยิ่งห่างไกลโรคมากเท่านั้นค่ะ ยิ่งวิทยาศาสตร์เจริญขึ้น ยิ่งทำให้เรารู้ชัดขึ้น ยิ่งทำให้เราสนุกที่จะเรียนรู้มันนะค่ะ เพราะมันคือธรรมชาติที่เกิดมาคู่กับเรานั่นเอง

หมอเจ๊เรียนรู้แล้วรู้สีกว่าสนุกค่ะ เลยเอาเรื่องมันมาเล่าฟัง รับรองว่าฟังเพลินค่ะ

ไม่ได้เป็นแมงโม้นะค่ะ…อิอิ