หมอเจ๊เล่าเรื่อง

นำรูปเจ้าของท้องเรื่องมาให้ดูเพื่อเบิกโรงกันก่อน เพื่อให้บรรดาแม่ยกได้ลุ้นว่าท้องเรื่องจะเป็นอย่างไร ปรากฎว่าแม่ยกบ่นพึม ไหงเป็นหนุ่มท่าทางกำลังรีดพิษงู  จะเข้าเรื่องก็ไม่ยอมเข้าซะทีมาทายใจกันอยู่ทำไม  ฉันจึงรีบมาบอกว่า เขาไม่ได้ทำงานสถานเสาวภาค่ะ เขาเป็นข้าราชการคนหนึ่ง ทำงานคล้ายๆกับลุงซิ่งของเจ้าโก๊ะจิจังค่ะ  ที่นำภาพเขามาให้ดู เพราะจะให้จำโหงวเฮ้งเอาไว้  เมื่อเอาโหงวเฮ้งบวกข้อมูลอายุและโรคตา เท่านั้นแหละท้องเรื่องของเขาก็น่าสนใจขึ้นทันที  ดูภาพกันอีกที  ว่าหุ่นอย่างนี้นะครับท่าน

มาเข้าท้องเรื่องของเขากันนะค่ะ เมื่อเขาเรียนหนังสืออยู่นั้น เขาไปบริจาคเลือดสม่ำเสมอ อีตอนที่บริจาคเลือด คนรับบริจาคเขาจะตรวจความดันโลหิตให้ แล้วพบว่า ความดันสูงผิดปกติ  ซึ่งเขาก็ยังบริจาคเลือดต่อ เพราะไม่ใช่ข้อห้ามการให้เลือดค่ะ  ตอนนั้นเขาอายุ 20 ปีค่ะ

ต่อมาอีก 4 ปี อายุเขาได้ 24 ปี เขาไปบริจาคเลือดอีก ความดันโลหิต 170/90 มม.ปรอท คนรับบริจาคเลือดให้เขางดบริจาคเลือดในครั้งนั้นค่ะ แล้วตั้งแต่นั้นมา เขาก็กินยา 3 ชนิดเพื่อคุมความดันโลหิตมาตลอด  เขาไปรับยาทุก 2 เดือน ก่อนเขาส่งอีแมวฉบับที่ 2 มาหาฉัน ความดันโลหิตของเขาอยู่ที่ 120/80 มม.ปรอท ค่ะ เขาถามฉันมาด้วยว่า กินยานานๆหรือตลอดไป จะเป็นโรคไตหรือเปล่าครับ

ฉันขอถือโอกาสบอกว่า ที่เขาเล่าเรื่องราวเหล่านี้เพิ่มมา เป็นเพราะฉันใช้โหงวเฮ้งเดาเรื่องราวของเขา แล้วตอบคำถามแรกของเขาไปว่า ฉันสงสัยว่า เขาจะเป็นโรคความดันโลหิตสูงค่ะ  ข้อมูลที่เขายืนยันกลับมา บอกว่า หมอดูโหงวเฮ้งคนนี้ดูแม่น….ฮ่าๆๆๆๆๆ  ด้วยความแปลกใจ เขาจึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมมาค่ะ  ฉันตอบคำถามเขาอีแมวครั้งหลังของเขาไปอย่างไร  ติดตามท้องเรื่องต่อได้เลยค่ะท่าน

โรคความดันโลหิตสูงนั้น ควรรับการตรวจรักษา และประเมินผลข้างเคียงของโรคให้สม่ำเสมอ ผลข้างเคียงที่หมอๆไม่อยากให้เกิด คือ อัมพาต อัมพฤกษ์ โรคไตวายจากหลอดเลือดเสื่อม และ โรคหัวใจขาดเลือด จากหลอดเลือดเสื่อม ค่ะ

การให้ยารักษามีจุดประสงค์ คือ ผ่อนให้ระยะเวลาที่จะเกิดผลข้างต้นที่ว่า เนิ่นนานออกไป
ดังนั้นแม้ไม่มีอาการก็ต้องรับการตรวจเพื่อพิจารณารักษาด้วยยาตามที่จำเป็น

« « Prev : เบิกโรง

Next : แวะชมวิวข้างทางกันก่อนนะค่ะ » »