ชา กาแฟ ช็อกโกแลต ไอติม…เกี่ยวกับอะไรกรดยูริกบ้าง

อ่าน: 6112

การเติบโตขึ้นมาอย่างมากมายของโลกวิทยาศาสตร์ให้ความรู้ที่ทำให้คนหลายคนเติบโตทางความคิด แต่มันก็ทำให้ความมีจริตที่เคยคิดบวกต่อธรรมชาติของชีวิตหายหดไป

ตัวอย่างเรื่องหนึ่งที่สังเกตเห็นของผู้คนที่ใช้ชีวิตในสังคมเมืองคือคนรุ่นเก่าไม่สามารถทำให้คนรุ่นหลังอีกทั้งเด็กๆรุ่นเล็กชอบกินผัก ผลไม้ได้เหมือนกับตน  ฉันเห็นว่านี่คือการสะสมและบั่นทอนความแข็งแรงของพลังแห่งสังคมที่ซ่อนอยู่ในอีกรูปหนึ่ง และอยากให้ช่วยกันเพิ่มความแข็งแรงให้

ที่จริงในภาคโรงเรียนก็มีการสอนสั่งเติมความรู้ให้ แต่ในภาคปฏิบัติแม่แบบของเด็กทำให้เห็นเจนตามีน้อย  แม่แบบก็ไหลตามสังคมบริโภคจนตัวจมถีบตัวขึ้นได้อย่างยากเย็น  ก็มีแต่เติมความรู้ให้ไปในยามที่ต้องการนำไปใช้เท่านั้นเอง

ในยุคที่ผู้คนเปลี่ยนคอของตนเป็นจีน-ฝรั่ง-แขก-ตามแบบคนกรุง การเสพเครื่องดื่มสำคัญอย่างเช่น ชา กาแฟ โกโก้  เครื่องดื่มสำเร็จรูปชูกำลัง ตามกระแสโฆษณาเป็นที่แพร่หลาย กลิ่นหอมของเหล่าต้นไม้ที่นำชิ้นส่วนมาผลิตนั้นยวนใจให้ละวางไม่ลง  ก็มีเรื่องที่ควรรู้ในส่วนตัวของมันส่งผลอะไรกับสุขภาพบ้าง

เครื่องดื่มที่เอ่ยชื่อไปล้วนมีคาเฟอีนอยู่ในตัวมัน กาแฟว่ามีมากในชาที่ดื่มก็มีไม่น้อย เพียงแต่รูปของการปรุงการดื่มลงพุงนั้นทำให้คาเฟอีนในชาเหลือน้อยกว่ากาแฟ

สีชามิใช่ตัวบอกว่าเข้มมีคาเฟอีนมาก ยี่ห้อที่มีคาเฟอีนมากมี ชาเชียว ชาดำ ชาอูหลง

กาแฟยี่ห้อไหนก็ล้้วนมีคาเฟอีนอยู่มากไม่ต่างกัน ความต่างกลับอยู่ที่กระบวนการคั่วเม็ดก่อนนำมาปรุง  ชนิดที่เวลาคั่วสั้นๆนั้นมีคาเฟอีนมากกว่าที่คั่วนานๆ

เทียบระหว่างกาแฟ ชา โกโก้ เครื่องดื่มอย่างหลังมีคาเฟอีนน้อยที่สุด

เครื่องดื่มชูกำลังไม่มีชนิดไหนที่ไม่มีคาเฟอีนผสมอยู่  ที่น่าห่วงคือน้ำอัดลมก็ผสมคาเฟอีนลงไปไว้ด้วย

เมื่อเข้าสู่ร่างกาย อวัยวะที่จัดการให้คาเฟอีนออกฤทธิ์ได้คือ ตับ

คาเฟอีนที่ดื่มกินจะคงเหลือแค่ครึ่งเดียวในร่างกาย เวลาที่คงอยู่มีความยาวนานราว 4 ชั่วโมง อีกครึ่งถูกขับทิ้ง แต่ถ้ามีภาระที่ร่างกายต้องดูแลเพิ่ม เช่นตั้งครรภ์ หรือว่าได้ยาฮอร์โมนเพศ คาเฟอีนกลับอยู่ในร่างกายนานเป็นเกือบครึ่งวัน ส่วนคนเป็นโรคตับ คาเฟอีนยิ่งอยู่นานเป็นหลายวันเกือบเท่าๆเกลือแกง

ที่ดื่มกาแฟแล้วเป็นสุข มีเหตุให้เชื่อว่าน่าจะ่มีการหลั่งซีโรโทนินออกมาในร่างกาย (ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่เชื่อได้)  ที่แน่ๆคือคาเฟอีน มีฤทธิ์เหมือนกับยาขยายหลอดลม ยาขยายหลอดเลือด และยาขับปัสสาวะ และฤทธิ์นี้ชา โกโก้มีอยู่มากกว่ากาแฟ

คนจีนดื่มชาจีนเวลาที่บริโภคอาหารเนื้อสัตว์มันๆ มีเหตุผลเนื่องมาจากฤทธิ์ของคาเฟอีนช่วยย่อยไขมันให้ดูดซึมง่าย

คาเฟอีนนั้นให้พิษถ้าหากบริโภคจำนวนมาก อย่างเช่นน้ำอัดลม ถ้าดื่มไปเรื่อยๆจนถึงจำนวน 2-3 ลิตร จะเกิดพิษ แล้วก็วิธีล้างพิษทำได้แค่ 2 วิธีและเป็นวิธีที่ไม่สบายตัวทั้งนั้นเลย นั่นคือล้างท้องหรือไม่ก็ล้างไต

พิษอ่อนของคาเฟอีน คือ ทำให้ระคายกระเพาะอาหารให้เป็นแผล ทำให้ลำไส้อักเสบ ทำให้เกิดอาการหูรูดกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติจนน้ำย่อยอาหารไหลท้น ( ทางการแพทย์เรียกว่า โรคกรดไหลย้อน)  ทำให้เกิดการแท้งบุตรได้จากฤทธิ์กระตุ้นการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อเรียบ

พิษอีกอย่างที่สำคัญคือ ทำให้ทารกในครรภ์เป็นโรคหัวใจได้

ในกาแฟยังมีเจ้าสารตัวนี้ Ochratoxin A ซึ่งเป็นพิษที่มีเชื้อโรคเป็นต้นตอนำมาให้แถมพิษตัวนี้สามารถก่อมะเร็งตับไตได้

ส่วนผสมของคาเฟอีนไม่รู้จากตำราก็ไม่สามารถรู้จากฉลากบริโภคได้เลยเพราะไม่มีน้ำอัดลม กาแฟ ชายี่ห้อไหนที่ระบุไว้ให้รู้  ตอบยากอยู่เหมือนกันว่าด้วยเหตุใดจึงไม่สามารถทำให้มีการระบุไว้ด้วย  มีข้อมูลของผู้บริโภคที่ทำงานดูแลสังคมบอกไว้ให้รู้ ดูแลแล้วพบอะไรตามอ่านกันเองก็แล้วกัน  อย.ได้ทำหน้าที่ให้ข้อมูลแก่สื่อเพื่อประชาสัมพันธ์่แต่ข่าวทำไมเงียบ ช่วยกันหาข้อมูลก็คงได้รู้

กาแฟพร่องคาเฟอีนมิได้หมายถึงไร้ซึ่งคาเฟอีน  หากแต่เติมคาเฟอีนไว้จำนวนน้อย

คาเฟอีนที่ทำให้เกิดพิษ คือ ระดับตั้งแต่ 400 มก.ขึ้นไป

ลองดูส่วนผสมของคาเฟอีนในเครื่องดื่มต่างๆดูหน่อยนะคะ ปริมาณที่นำมาบอกนี้คำนวณจากเครื่องดื่มจำนวน 360 มล. :

น้ำอัดลม 61 มก.

นมช็อกโกแลต 12 มก.

กาแฟพร่องคาเฟอีน 2-8 มก.

กาแฟกึ่งสำเร็จรูป  10-110 มก.

ชา 25-50 มก.

กาแฟผสมเห็ดหลินจือยี่ห้อไบโอรี่ชี่ 11.5 มก.

มีข้อมูลโชว์อยู่บ้างว่าเครื่องดื่มอะไรมีคาเฟอีนเท่าไร ไปดูกันเองแล้วกัน

ในตัวของคาเฟอีนมีกรดชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ทำให้การย่อยน้ำตาลเกิดขึ้นเป็นระลอกคล้ายๆการย่อยข้าวกล้อง แล้วตัวมันก็ยังทำให้น้ำตาลที่ย่อยได้เปลี่ยนไปเก็บเป็นน้ำตาลที่ตับเก็บสะสมมากขึ้นด้วย ซึ่งผลนี้ถูกนำมาใช้โฆษณากาแฟ ชาว่าดีต่อสุขภาพคนเบาหวาน

ที่จริงดีนั้นดีอยู่แต่จะดีก็ต่อเมื่อคนเป็นเบาหวานไม่ได้กินยาเบาหวานอยู่ ถ้ากินโดยมียาเบาหวานอยู่แล้วไม่ดี ปริมาณที่่ดื่มต้องเกิน 3 แก้วต่อวันด้วยนะ อย่างนี้สรุปเอาเองนะคะว่าดีแน่หรือเปล่า

ฤทธิ์ฝาด ฤทธิ์เขื่อนๆของชา กาแฟนั่นแหละค่ะคือรสของกรดตัวนี้

การมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดทำให้ร่างกายปล่อยทิ้งปัสสาวะได้เพิ่มขึ้น ฤทธิ์ย่อยไขมันเร็วและช่วยให้ปล่อยปัสสาวะเพิ่มเป็นฤทธิ์ที่ไปทำให้กรดยูริกในเลือดเพิ่มขึ้น

ฉะนั้นของกินได้ที่มีคาเฟอีนส่งผลต่อระดับยูริกในเลือดสูงทั้งน้านนนนนนนนนน : ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง โกโก้ ไอติม รสกาแฟ รสช็อกโกแลต  และอะไรก็แล้วแต่ที่มีส่วนผสมของชา กาแฟ โกโก้

สิ่งหนึ่งที่มีอยู่ในชามากคือธาตุโปตัสเซียม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่สมัยก่อนโน้นในยามที่ไม่มีน้ำเกลือแร่ เวลาถ่ายท้องจนเพลีย ผู้คนดื่มชาแล้วรู้สึกดีขึ้น

ในชา กาแฟมีโปตัสเซียมจึงไม่แปลกที่ดื่มแล้วรู้สึกว่ามีหัวใจที่เต้นเร็วเกิดขึ้นได้ด้วย

มีเคล็ดนำมาฝากว่าอาการที่บอกว่าดื่มชา กาแฟมากไปสังเกตได้จากท้องอืด อึดอัดค่ะ

เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่ ที่ฝรั่งคิดค้นขึ้นเพื่อลดคาเฟอีน ขอชวนตามไปดูกันว่าเป็นอะไรหรือ แล้วตัดสินใจเองนะคอกาแฟทั้งหลายว่าจะหามาใช้หรือเปล่า

หลังจากชั่งผลที่จะมีต่อตัวท่านระหว่างด้านบวกและลบของของกินที่มีคาเฟอีนเหล่านี้แล้วยังดื่มกิน ก็ขอเคารพการตัดสินใจ ไม่ว่ากันค่ะ

ก่อนจบมีเรื่องขอฝากคุณครูและผู้ใหญ่ทั้งหลายให้ช่วยกันดูแลเด็กๆกันหน่อย  ฝากเพราะเด็กคือผู้ที่ชอบกินไอติม-ขนมใส่ช็อกโกแลตกันที่ซู๊๊ด  ผู้ใหญ่บางคนก็ชอบไอติม-ช็อกโกแลต เพียงแต่เด็กเขาไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอสำหรับการตัดสินใจเลือกกินอะไร ไม่กินอะไรเหมือนผู้ใหญ่เน้อ

« « Prev : สืบเนื่องจากอ่อมแซบ

Next : ยำถั่วพูของครูบา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.033210039138794 sec
Sidebar: 0.062899827957153 sec