ขอบคุณพ่อครูที่เป็นครูอีกครั้ง ขอบคุณพี่บ่าวและเล่าฮูแสวงค่ะ

อ่าน: 1964

ดีใจที่ได้ไปภูเก็ตในวันที่ 27 ธันวาคม ดีใจที่ได้เห็นหน้าตาชาวเฮทุกๆคน ดีใจกับโอกาสที่พ่อครูบาได้เลือกให้กับตัวเองในเรื่องการดูแลสุขภาพ

ขอบคุณพ่อครูบาที่เป็นเด็กดี ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดีเพื่อสุขภาพ ปรับตัวเรื่องการกินอาหาร ดื่มน้ำ และใช้สติตรวจตราตัวเอง ดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น  เรื่องของการเลือกเดินทางกลับทางรถยนต์แทนเครื่องบินยืนยันความเป็นคนที่ช่างสังเกตของพ่อครู

นี่ถ้าหากคนไข้ทุกคนทำได้เหมือนพ่อครู หมอๆทั้งหลายทำงานสบายๆเลยค่ะ

วันที่ลาจากกันเห็นอะไรบางอย่างเป็นข้อสังเกตที่ทำให้เกิดคำถาม  เป็นคำถามที่ทำให้ทึ่งกับความเป็นธรรมชาติแห่งชีวิตที่เป็นองค์รวมด้วย

ประสบการณ์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ยืนยันความคิดที่มีก่อนหน้าว่าถ้าอยากจะรู้ว่าผลลัพธ์ของการทำงานแบบองค์รวมเป็นอย่างไร ร่างกายของคนเรานี่แหละเป็นครูที่ดีเชียวหละ อีกทั้งเป็นครูฝึกฝนวิชาการจัดการกับการทำงานที่เป็นองค์รวมของจริงด้วยนา

ผลลัพธ์ในตัวพ่อครู ณ วันที่ถึงภูเก็ต เป็นตัวอย่างที่ดีของผลงานการจัดการ ผลลัพธ์ที่ได้เห็นต่อหน้าได้สอนว่าการแก้ปัญหาที่เป็นเรื่ององค์รวม หากแก้เรื่องหนึ่งโดยไม่มองเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย หากไม่ให้ผู้มีส่วนได้และเสียมีส่วนร่วม ผลที่ได้จะไม่ตรงใจ

ในเมื่อชีวิตเป็นองค์รวม คนที่รู้ภาพรวมของการมีส่วนได้ส่วนเสียและตัดสินผลว่าตรงใจที่สุดก็มีแต่เจ้าของชีวิตแต่ผู้เดียว คนรอบกายนั้นมีเอี่ยวบอกสิ่งที่ตัวเองเห็็นเพื่อช่วยให้ข้อเอะใจมาทบทวน ข้อเอะใจจากสิ่งที่สังเกตเมื่อรวมๆกับข้อมูลที่ได้ก่อนหน้าจะให้ประโยชน์สำหรับการแก้ปัญหาของผู้สามารถร่วมด้วยช่วยกันแก้

ข้อมูลเหล่านี้ได้จากผู้มองเห็นที่อยู่รอบตัวพ่อครู “กินยาป้าจุ๋มบ่อยกว่าปกติ ผิดสังเกตที่ดูอ่อนล้า”  ข้อมูลนี้ได้จากเจ้าของชีวิต “กินยาป้าจุ๋มเพราะไอบ่อย ไอเพราะเป็นหวัด” ข้อมูลเหล่านี้ได้จากข้อเอะใจที่สังเกตแล้วถามขึ้นเจ้าของชีวิตจึงตอบกลับมาให้รู้ “เวลานอน หัวราบพื้นหรือสูงกว่าพื้น” ข้อมูลทั้งหมดเมื่อประมวลแล้วก็ได้ประเด็นสะกิดใจกับอะไรอีก

เวลาที่ได้คุยกันสั้นนัก ข้อมูลจึงจำกัดอยู่เพียงนี้ แต่ข้อสังเกตที่ตาเห็นและสะกิดใจ ภายใต้เงื่อนไขของเวลาอันสั้นนั้น ทำให้ต้องตัดสินใจควรจะทำอย่างไรต่อไปให้ผลการทำงานเป็นองค์รวมไม่เสียหายมากขึ้นไปกว่าที่เห็นตรงหน้า จึงได้ตัดสินใจบอกให้พ่อครูปรับการดื่มน้ำอีกครั้ง เป็นการปรับเพื่อให้เกิดสมดุลของการทำงานร่วมกันระหว่างไต หัวใจและปอด

ยังไม่รู้หรอกว่าเหตุที่เกิดมาจากอะไรแน่นอน รู้แต่ว่าการหายใจที่เห็นตรงหน้าพร้อมทั้งการไอ การนอน เป็นผลพวงการทำงานร่วมกันที่ไม่ลงตัวระหว่างหัวใจและปอด แล้วหากไม่ปรับอะไรเกี่ยวกับการทำงานของไตในเรื่องของน้ำ สถานการณ์ในครั้งนี้ของคนมีปอดข้างเดียวแย่แน่ๆ

ที่อยากจะรู้ว่าอาการไอที่เกิดขึ้นเกิดเมื่อไร ก็เพื่อจะนำมาใช้เป็นข้อมูลว่าเหตุเกิดเมื่อไร มีอะไรเป็นตัวเสริมได้บ้างระหว่างการเดินทางไกล  ก็ติดตามความคึกของการเขียนบล็อกมาตลอด ไม่เคยผ่านตาว่ามีอาการป่วยให้รู้เลย ฉะนั้นจึงเดาว่าช่วงเวลาที่่เกิดอาการขึ้นน่าจะอยู่ในช่วงของการเดินทางนี่เอง

ถ้าเดินทางโดยทางรถตลอดเส้นทางก็จะไม่สงสัยว่าจะเกิดอาการในระหว่างการเดินทางเท่าไร แต่นี่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องความกดอากาศจากธรรมดาเป็นความกดอากาศต่ำนี่ซิคือข้อสังเกต

การอยู่ในที่ซึ่งมีความกดอากาศต่ำนั้น คนธรรมดาก็ต้องปรับตัวอยู่แล้วมากมาย แล้วคนที่มีปอดข้างเดียวมิยิ่งกว่าหรือนี่คือข้อสะกิดใจ

ที่อยากรู้ว่าช่วงกลางคืนนอนไม่หลับก็ด้วยมีคนรอบกายบอกให้สะกิดใจ แล้วปวดฉี่บ่อยอย่างที่เจ้าของชีวิตบ่นให้รู้แล้ว ผนวกการหายใจที่เห็น+เรื่องไอ+ไม่ได้นอนหัวราบพื้นทำให้สะกิดไปถึงการทำงานที่ไม่ลงตัวของปอดและหัวใจด้วย และนี่คือเหตุผลของการสร้างความปลอดภัยไว้ก่อน แนะนำไปให้งดดื่มน้ำลงมาเหลือ 1 ลิตรต่อวันก่อนจากกัน

ในเมื่อระหว่างเดินทางกลับปลอดภัยถึงบ้าน สามารถกลับมาคึกเหมือนเดิมได้เกือบเต็มตัวแล้ว การดื่มน้ำที่อยากจะทำต่อเพื่อล้างพิษนั้น ขอให้พ่อครูทวนสอบเรื่องความลงตัวของปอด หัวใจ ไตไปด้วยกันต่อไปจะดีมากๆ  ถือว่าเป็นระยะที่สองของการเรียนรู้การรักษาตัวด้วยตัวเองก็แล้วกันค่ะ

ตอนกลางคืนเมื่อนอนไปแล้ว นอกจากฉี่บ่อยๆ สังเกตด้วยว่าตอนดึกหรือย่ำรุ่งที่ต้องตื่นมีประเด็นของความอึดอัดแบบหายใจไม่ออกหรือไอมากจนทำให้ตื่นมีหรือเปล่า ถ้ามีแล้วลุกตื่นขึ้นให้หัวสูงก็สบายๆขึ้น และกลางวันไม่มีเหตุการณ์หายใจไม่ออกแบบนี้เลย อย่างนี้แปลได้ว่าความลงตัวของการทำงานของปอด หัวใจยังไม่ดีแท้ ขอให้ปรับจำนวนน้ำดื่มทั้งวันให้จำกัดอยู่แค่ครึ่งลิตร+จำนวนฉี่+จำนวนน้ำที่จิบเพื่อให้หายไออีกเล็กน้อย ผนวกไปกับการคุมรสเค็มให้อยู่หมัดให้มากที่สุดไปสักระยะค่ะ

ตื่นนอนเช้าเอามือกดหน้าแข้งดูทุกวันหน่อยนะคะ ถ้ารอยกดคงค้างอยู่เป็นหลุมตามรอยกด ทิ้งอยู่นานก็ไม่คืนกลับให้เห็นง่ายๆ อย่างนี้ก็จะส่อบอกถึงเลือดเค็มจนมีผลทำให้ไตดูดน้ำคืนกลับเข้าไปในร่างกายด้วยหลงผิดมากไปจนหัวใจทำงานไปกับไตไม่ทันด้วย ถ้าเกิดอย่างนี้แปลว่าน้ำและเค็มที่่จำกัดอยู่ยังมีจำนวนไม่สมดุล ยังมีส่วนเกินที่ร่างกายไม่เอ๊าไม่เอา

วิธีแก้ให้ปรับจำนวนน้ำดื่ม ลดลงให้มากที่สุด  คุมเค็มเข้มก่อนไปหาหมอ จำนวนน้ำที่ดื่มให้ใช้เกณฑ์ทดแทนจำนวนฉี่ที่ปล่อยทิ้งแต่ละครั้งแล้วไม่ไอด้วยก็เพียงพอแล้ว

แล้วอย่าลืมไปหาหมอเพื่อขอยาโดยเร็วพลัน ไม่ละเลยและปล่อยไว้ว่า “ไม่เป็นไร” เด็ดขาดค่ะ

อ้อ ในเรื่องของการล้างพิษด้วยน้ำผักปั่นหรือน้ำเสาวรส  สามารถใช้ดื่มแทนน้ำดื่มสะอาดในจำนวนเท่ากันได้ แต่ขอร้องอย่าใส่น้ำตาลชนิดบ้าเลือด เรื่องของการเติมเกลือเป็นอีกเรื่องที่พึงระวัง

เติมน้ำตาลแบบบ้าเลือดจะทำให้การเป็นว่าที่เบาหวานได้ติดยศเป็นเบาหวานเต็มตัวในฉับพลันเมื่อไรก็ได้  เรื่องของเดิมคือตับนั่นแหละที่ไปเชิญให้ยศเบาหวานมารอติดบ่าให้

ถือว่าที่ทำมาดีแล้วๆที่จับข้อผิดสังเกตของตัวเองได้  ยกนิ้วให้เลยนะคะกับการตัดสินใจให้โอกาสตัวเองเที่ยวด้วยได้ดูแลตัวเองไปด้วยในครั้งนี้

ขอบคุณพี่บ่าวแฮนดี้ที่รับไม้ต่อได้ลงตัว ขอบคุณเล่าฮูแสวงที่ช่วยนำส่งพ่อครูถึงบ้านอย่างปลอดภัย  ขอบคุณที่ทำให้เกิดอารมณ์ขำๆขันๆระหว่างที่นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน ไม่ขอบคุณอยู่อย่างเดียวแหละค่ะ ที่ทำให้อดชิมข้าวไม่หว่าน ไม่ดำ ไม่ไถ…เลยอดกินข้าวอร่อยๆไปเลย…..แฮะ..แฮะ…แฮะ

« « Prev : เมนูตามใจฉันของครูบา

Next : เล่าเรื่องแก้มลิงในร่างกาย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2009 เวลา 19:00 (เย็น)

    ลองเอานิ้วกดที่น่องบ่อยๆ ไม่บุ๋มครับ ยังปกติ
    เรื่องลดเค็ม-หวาน จะเคร่งครัด
    จิบน้ำบ่อยๆช่วงนี้ ทำให้ชุ่มคอ สะลายเสมหะ
    สังเกตตัวเอง ยังมีพลังความร้อนในร่างกายอยู่มาก
    จะพยายามพักผ่อน นอนมาก เดินรอบบ้าน

    ขอบคุณ หมอเจ๊ น้านง หนูแว๊ปไซด์ พระอาจารย์Handy และ เล่าฮูแสวง ที่ดูแลดีตลอดทาง
    แคว๊กๆๆ

  • #2 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 ธันวาคม 2009 เวลา 20:16 (เย็น)

    ถ้าหากกลางคืนยังไม่สามารถนอนหัวราบพื้น สังเกตความถี่ของการหายใจและเสียงวี๊ดหรือแฟดนะคะ ว่าเกิดในช่วงเวลาไหน นอกจากยาพ่นขยายหลอดลมแล้ว ยังมียากินขยายหลอดลมที่มีฤทธิ์ยาวใช้ได้ด้วย ซื้อได้ตามร้านขายยา บอกคนขายว่าขอยาขยายหลอดลมชนิดที่ออกฤทธิ์ยาว  ถามย้ำเขาหน่อยว่า ฤทธิ์อยู่กี่ชั่วโมง แล้วกะเวลากินให้ออกฤทธิ์เหมาะๆกับเวลาเกิดเสียงแฟดๆมากๆ ก็จะช่วยให้นอนหัวต่ำลงได้ะ  ยาตัวนี้กินวันละ 2 ครั้งแค่นั้นเองค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.035852909088135 sec
Sidebar: 0.058026075363159 sec