เบาหวานกับการดูแลช่องปาก
อ่าน: 3269ที่อ้ายเปลี่ยนบอกว่า เรื่องเหงือกเรื่องฟัน ปีก่อนไปรักษาที่คลีนิค ขูดๆผ่าๆเอาออกไปหลายซี่ สุดท้ายก็ผ่าเข้าไปขูดรักษาไม่ได้หมดเพราะทำน้ำตาลให้ต่ำกว่าร้อยห้าสิบบ่ได้ อาจารย์ท่านเกรงว่าแผลจะไม่หาย เคยลองซี่หนึ่งต้องใช้เวลานานกว่าแผลที่เหงือกจะหาย ตอนนี้ต้องรักษาตามอาการ เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงในการกินผักสดด้วยครับ ต้องซื้อเครื่องบดเครืองปั่นมาไว้(แต่ก็ติดที่ขี้เกียจทำอีก)
พี่ไปทบทวนแล้วพอมีทางลดปัญหาหากว่าพอเข้าใจหลักการ จึงขอยกเอาเรื่องกินอะไรดี ให้ยิ้มสวยๆ ของพี่ศศินันท์หรือเรื่องเต็มจากวารสาร prevention ที่พี่ศศินันท์ลิงค์ไว้ มาเป็นหลักอธิบายต่อ เพื่อที่อ้ายเปลี่ยนจะได้นำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้บ้างค่ะ
ในบทความนะบอกว่า มีหลักให้เลือกอาหารที่นำมาใช้ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเองได้ค่ะ บทความนี้แนะนำให้กินและงดกิน สำหรับคนทั่วไปนำไปใช้ อาหารแนะนำนั้นมี อาหารที่มีเส้นใย ชาเขียว ชาดำ อาหารที่มีวิตามินซีสูง มีแคลเซียมสูง ซึ่ง 2 ชนิดหลังใช้ยาเติมก็ได้ถ้าจะเลือกใช้ยา อาหารที่แนะนำงด คือ เครื่องดื่มน้ำดำทั้งหลาย ซึ่งอ้ายเปลี่ยนเอามาประยุกต์กับการเลือกพืชอาหารที่มีกินให้เหมาะสมได้ต่อ เพื่อปรับปรุงสภาพช่องปากให้ดีขึ้นบ้าง ตามสภาพที่พอทำได้ค่ะ
อาหารเส้นใย ส่วนใหญ่เป็นอาหารให้แป้ง ซึ่งในบทความพูดยกตัวอย่างไว้ 4-5 ตัว และได้เขียนบอกวิธีปรับจำนวนไปแล้วนะอ้าย เหลือก็แต่ข้าวโพดนะอ้ายที่ควรรู้ ว่ากินแล้วมีผลต่อน้ำตาลอย่างไร เพื่อจะได้ระวังสำหรับประยุกต์ใช้กับเบาหวาน สำหรับอาหารเส้นใยอย่างข้าวโพดนั้น กิน 1 ฝักให้ผลน้ำตาลใกล้เคียงข้าวเชียวนะค่ะ ให้ระวังถ้ากินเป็นอาหารว่างก่อนข้าวหรือหลังข้าวนะค่ะ ข้าวโพดในที่นี้หมายถึง ข้าวโพดแก่เป็นฝักๆที่นำมาต้มกินเล่น
ส่วนข้าวโพดอ่อนนะกินได้ค่ะ มีแป้งน้อยและวิตามินซีสูง ซึ่งเข้าทางของการดูแลช่องปากเลยค่ะ
ส่วนเจ้าชาดำ ชาเขียวนะ เขาให้ปรุงดื่มช่วยในรูปไม่ใส่น้ำตาลนะค่ะ ถ้าดื่มชาเฉยไม่โอเคละก็ ใส่อีควลก็ไม่ว่ากัน
เหตุผลที่เขาแนะนำชามาจากเรื่องฟลูออไรด์ จึงขอพูดถึงแหล่งฟลูออไรด์กันสักหน่อย มันมีทั้งในน้ำธรรมชาติและในอาหารค่ะ นอกจากในชาแล้วยังมีอยู่ในกลุ่มอาหารเหล่านี้ด้วยซึ่งก็ต้องเลือกกินด้วยสำหรับคนไข้เบาหวาน เหตุผลคือ มันไปเพิ่มน้ำตาลในเลือดได้ค่ะ
1. ข้าวต่างๆ
2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่
3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง
4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่
5. เมล็ดทานตะวัน
6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ
แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล
ประโยชน์ของฟลูออไรด์ไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ ถือว่าเป็นของแถมให้อ่านละกัน
ด้วยว่าอ้ายเปลี่ยนทำงานประเทศลาว เผื่อมีโอกาสดูแลคนลาวในเรื่องป้องกันฟันผุ ด้วยการยืนยันแหล่งน้ำที่มีฟลูออไรด์ให้เขา ซึ่งก็จะได้ประโยชน์กับอ้ายด้วยเหมือนกัน มีชุดทดสอบฟลูออไรด์ในน้ำธรรมชาติที่ใช้ตรวจแบบภาคสนามได้
ทีนี้ทางเลือกของอ้ายยังมีอีก หากว่าหมอฟันเขาทำให้ นั่นคือ เคลือบฟลูออไรด์ไว้ก่อน ซึ่งมีเจ้านี่ให้เลือกได้ เคลือบได้ไม่ยาก ทำเองได้ค่ะ ซึ่งจะลองคุยปรึกษาหมอนนท์ให้ค่ะ รึว่าครูบา-ลุงเอกจะกรุณา ปรึกษาให้ด้วยก็จะดี เพราะว่าผู้อาวุโสสองท่านอยู่ใกล้กว่า ถามไถ่กันได้ง่ายกว่าคุยผ่านบล็อก(มั๊ง)
สำหรับแคลเซียมนะควรกินเข้าไปให้เยอะๆ ก็ด้วยเหตุเรื่องดุลระหว่างตัวมันกับฟอสฟอรัส ถ้าหากดุลเสียแล้วละก็ ผลที่ตามมาเสียหายได้ ที่เสียหายหลักมีในเรื่อง โรคกระดูกพรุน ค่ะอ้ายขา มันเท่ากับดีสองเด้งที่ป้องกันช่องปากแล้วยังป้องกันกระดูกพรุนได้ด้วย
ดุลที่เสียนะมีผลถ้าหากว่าไตทำงานไม่ดีด้วยค่ะ ซึ่งจะขอยกไปเขียนต่อ ด้วยมีอาหารอีกหลายชนิด ที่ระบุที่นี่ว่าเป็นแหล่งฟลูออไรด์ธรรมชาติ ที่ควรรู้อีกมุมในแง่ที่พึงระวังของคนไข้เบาหวานค่ะ
พี่ไม่ฟันธงว่าควรกินอะไร ไม่กินอะไร เพราะอยากให้อ้ายได้เลือกให้เหมาะ ตามสภาพสถานที่ที่อ้ายอยู่ จึงจะทะยอยเขียนเรื่องราวของอาหารออกมาให้นะค่ะ วันก่อนที่ติดค้างเรื่องผัก ก็จะเอามารวบเขียนให้ด้วยค่ะ
อันว่าของกินที่มีในแต่ละที่ มันใช่ว่าจะหาง่ายและมีกินตามหนังสือเมื่อไร คนอยู่กรุงหรือเมืองใหญ่ไม่ใคร่จะรู้ ว่าบางที่ไม่มีผลไม้กินเอาซะเลย แม้แต่กล้วยน้ำว้าที่อ้ายมี ที่พูดอย่างนี้เพราะพี่เคยไปเจอมาแล้วเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่กระบี่นี่เอง ไอ้เราก็สอนๆๆๆไปว่า ให้หลานกินผลไม้นี้เข้าไปนะป้า ไอ้หยาไปถึง มีแต่ต้นยางและต้นปาล์ม แล้วมันจะมีอะไรให้กินอย่างที่สอนได้ นี่แหละที่เป็นเหตุให้มาปรับบอกให้เหมาะกับแต่ละคน
« « Prev : เบาหวานกับการป้องกันโรคแถม
Next : มาชวนบริจาคฉี่ตรวจค่ะ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "เบาหวานกับการดูแลช่องปาก"