เฮฮาปาร์ตี้กับจีพีเอส
อ่าน: 1334เมื่อครบรอบวันเกิดที่ผ่านมา เจ้าลูกชาย แม่บ้าน และลูกสาว รวมตังค์ซื้อเจ้า จีพีเอส มาให้ตัวนึง ลูกชายบอกแม่ว่าเห็นพ่อเดินไปดูหลายครั้งแล้ว ผมได้รับของขวัญมาแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหนเพราะที่ภูเก็ตเราก็ขับรถไปไหนมาไหนไม่ต้องอาศัยมันอยู่แล้ว แต่ก็เปิดมันมั่งเพื่อให้คุ้นกับการใช้งาน แต่การนานๆใช้ทีเลยทำให้ใช้ไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ จะตั้งมันทีก็เสียเวลานานมาก อิอิ
โปรแกรมแห่งความมันเริ่มขึ้นเมื่อรู้ว่าจะไปสวนป่ามหาชีวาลัย เพราะไปร่วมเสวนาตีแตกอีสาน ผลงานกลุ่มดูงานความขัดแย้งที่ภาคอีสาน พ่อครูบาก็นัดพวกเฮฮาศาสตร์ด้วย กลุ่มนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า สสสส.๑ ด้วย เรียกว่าจัดทีเดียวได้นกหลายตัว ผมชวนคุณแอ๊ดไปด้วยเพราะอยากจะพาคุณแอ๊ดไปหาอาจารย์หมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพวัฒโนสถ ตามที่คุณหมอสุรพงศ์ ได้แนะนำไว้
ผมกะใช้เจ้าจีพีเอสได้เต็มที่ ขาไปจากภูเก็ตไม่มีอะไรตื่นเต้นจนกว่าจะถึงกรุงเทพโน่นแหละ เพราะเส้นทางสายใต้ไม่มีอะไรพิเศษ ผมแวะนวดเท้าที่ชุมพร แวะนอนที่ชะอำ
ตื่นเช้าตั้งเจ้าจีพีเอสไปโรงพยาบาลกรุงเทพ แต่ตั้งมั่วครับ เพราะเราจะไปโรงพยาบาลกรุงเทพวัฒโนสถ ซึ่งในจีพีเอสไม่มีชื่อวัฒโนสถ ดูชื่อโรงพยาบาลกรุงเทพมีสาขาบางกะปิ อ้าว…แล้วไม่มีสาขาที่ศูนย์วิจัยเรอะ เพราะที่อยู่ที่เราได้มาเป็นซอยศูนย์วิจัย ๗ เอาวะ…ยังไงก็ตั้งไปบางกะปิก่อนแหละ เพราะน่าจะง่ายที่สุด แถมผมก็ไม่รู้ว่าซอยศูนย์วิจัยมันอยู่แถวไหนของกรุงเทพ ฮ่าๆ ถ้าไปไม่ถูกก็ถามที่โรงพยาบาลนั่นแหละ ปรากฏว่ามันไปถูกและเป็นที่เดียวกันกับที่เราจะไป เห็นโรงพยาบาลชัดเจนแล้วครับ เจ้าจีพีเอสมันก็พูดขึ้นว่า อีก ๕๐๐ เมตรเลี้ยวซ้าย แต่ยังไม่ทันถึง ๑๐๐ เมตรเลยผมขับมาถึงปากซอยเล็กๆซ้ายมือนึกว่าข้างหน้าทางตัน เสียงจีพีเอสบอกเลี้ยวซ้าย ก็เลยเลี้ยวขวับเข้าไป เฮ้ย….ทำไมมันเป็นยังงี้มันมีซากรถเก่าๆลึกเข้าไปเป็นสถานีตำรวจ อ้าว….ผิด ฮา……ขับออกมาลองเลี้ยวซ้ายไปต่อ อ๋อ…มันมีทางแยกเข้าไปวัฒโนสถอีกทีหนึ่ง ตรวจเสร็จเรียบร้อย ผลปรากฏว่าคุณแอ๊ดไม่เป็นอะไรเลย ตัดสินใจว่ามีเวลาเหลือเยอะแยะ พาคุณแอ๊ดไปเที่ยวเซนทรัลเปิดใหม่ที่แจ้งวัฒนะใกล้ที่พัก หาของกินอร่อยแล้วไปที่พักเพื่อพักผ่อนระหว่างรอพี่หมอตาจากกระบี่ซึ่งมาพร้อมน้องเขียว
ผมหลับไปงีบหนึ่งก็เตรียมตัวเดินทางไปบุรีรัมย์ แวะไปรับพี่หมอตามที่ดอนเมือง นัดกันที่สถานีรถไฟดอนเมือง ผมก็ตั้งเจ้าจีพีเอสไปบุรีรัมย์ มันก็นำทางผมมาทางดอนเมืองไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่…มันบอกให้ชิดซ้ายอีก ๕๐๐ เมตร ผมก็เชื่อ ชิดซ้ายแต่มันไปอยู่เลนซ้ายสุดมันก็ต้องถูกบังคับเลี้ยวซ้ายไปเข้าช่องทางขนาน อ้าว…ซวยแล้วสิตู แล้วตูจะออกไปยังไง โทร.หาพี่หมอดีกว่า…ฮ่าๆ พี่หมอรับทราบแล้วบอกว่าไม่เป็นไรน้องฑูร เดี๋ยวพี่ไปรอน้องฑูรที่โรงแรมอมารี พี่เดินไปนิดเดียว โอเคครับ….พี่…ระหว่างนั้นมันก็บอกให้ผมชิดขวามั่ง อีก ๕๐๐ เมตรให้ชิดซ้ายมั่ง พอมันสั่งให้ชิดซ้ายแต่อีกช่องยังไปได้เขาใช้กรวยมาวางบังคับทางไว้แล้ว ผมก็ไปช่องนั้นปรากฏว่ามันผ่านโรงแรมอมารี…ฮา…ผมรีบโทร.หาพี่หมอตา มันเป็นวันเวย์ด้วย สวนทางก็ไม่ได้ ซวยละสิ…พี่ตาคงจับน้ำเสียงตื่นเต้นผมได้ ฮ่าๆ ใจเย็นๆน้องฑูร ไม่เป็นไร ผมบอกว่าผมจอดที่ปั๊ม ปตท.พี่หมอตาบอกว่าไม่เป็นไรใกล้นิดเดียวประมาณ ๑๐๐ เมตรเดี๋ยวพี่ไปเอง ในที่สุดพี่ตากับน้องเขียว ก็ต้องลากกระเป๋ามาขึ้นรถผม กอดกับพี่ตาที่ปั๊มเสร็จก็ขึ้นรถกันไปต่อ สังเกตว่าพี่ตามีเหงื่อซึมๆ ส่วนน้องเขียวเหงื่อออกที่หน้าผาก ฮ่าๆ
เราขับรถกันต่อ มันสั่งให้ผมขับตรงไปมั่ง ออกขวามั่ง เราขับไปงงไป พอไม่ทำตามคราวนี้มันพาไปออกซ้ายแล้วให้กลับรถกลับมาที่เดิม ก็เลยต้องยอมมัน ไปจนถึงบุรีรัมย์ ระหว่างทางพ่อครูก็โทร.เช็คตลอดว่าถึงไหน และบอกว่าไม่ต้องเข้าสวนป่าเปิดห้องพักไว้ให้แล้วที่ราชภัฏบุรีรัมย์ให้ไปนอนแช่แอร์เล่นให้เย็นใจ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ปรากฏว่าพอไปถึงที่พักไม่มีชื่อจองในนามบัณฑูรครับ แต่พ่อครูบาไปจองเองจองในชื่อไพฑูรย์ ฮา…..
ตอนไปอิหร่านก็ทีนึงแล้ว คืนแรกพักห้อง ๕๑๙ แล้วไปอิสฟาฮาน กลับมาอีกวันหนึ่งเขาให้เข้าพักห้อง ๔๑๔ พอมีปัญหาลืมผมที่อิหร่านกว่าจะรู้ว่าผมค้างอยู่ที่โรงแรมก็เป็นชั่วโมง เขาถามพ่อครูบาว่าพักกับอัยการที่ห้องไหน พ่อครูบาเอาเบอร์ห้องสองห้องมาบวกกันแล้วบอกว่าพักห้อง ๔๑๙ เล่นเอาผมมึนอยู่ในอิหร่านคนเดียวเพราะใครโทร.เข้าห้อง ๔๑๙ ก็ไม่มีคนรับ ใครมาเคาะห้อง ๔๑๙ ก็ไม่มีคนเปิด คนมาตามก็จนปัญญา ก็จะเจอได้ยังไงผมรออยู่ในห้อง ๔๑๔ ฮา……เท่านั้นยังไม่พอ ตอนไปถึงดูไบพักห้อง ๓๐๘ พอออกจากห้องพ่อครูบาก็ควักกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเบอร์ห้องแล้วหัวเรากิ๊กกั๊ก กันลืม ลงไปทานอาหารเช้าเสร็จนั่งคุยสนทนาธรรมกับหลวงพี่ติ๊ก หลวงพี่ติ๊กถามว่าโยมครูบาพักกับท่านอัยการที่ห้องไหน ครูบาควักกล้องออกมาดูแล้วบอกว่า ๓๑๘ ฮา…นี่ขนาดอ่านจากกล้องเลยนะ..อิอิ กว่าหลวงพี่ติ๊กจะตามมาที่ห้องเจอ หลวงพี่ติ๊กบอกว่าไปเคาะห้อง ๓๑๘ อยู่ตั้งนาน ดีว่าไม่มีคนอยู่ ฮา….
ขากลับรับพี่ตากับน้องเขียวและน้องแป๊ดที่ปราสาทหินพนมรุ้ง แยกย้ายกับทีมรอกอด ทีมพิษณุโลก-กำแพงเพชร และทีมตาหยู แล้วกลุ่มของเราไปฟาดข้าวขาหมูนางรองกัน อิอิ จากนั้นก็ไปส่งพี่ตาเข้ากทม. เอาอีกแล้วพอมาถึงรังสิต เจ้าจีพีเอสมันสั่งผมให้ชิดซ้ายผมก็ซื่อบื้อตามมันกลายเป็นเข้าถนนสายในอีกแล้ว พอเข้าลึกไปเรื่อยๆรถเริ่มติดพี่หมอตาบอกว่าเอางี้ดีกว่าเรากลับรถแล้วไปออกบางบัวทองเหอะ น้องฑูรจะได้กลับง่ายๆหน่อย ตั้งจีพีเอสมาที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มันก็พามาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาใกล้ถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ความจริงต้องออกซ้ายเพื่อหาที่จอดส่งพี่หมอตา น้องเขียวและน้องแป๊ด แต่ผมอยู่เลนกลางตัดสินใจไม่ถูกเพราะเราตั้งจีพีเอสมาอย่างนั้นเพื่อจะหาทางมาสะพานพระปิ่นเกล้า เลยตัดสินใจขึ้นวงแหวนที่เขียนว่านครปฐม เพื่อหาที่จอดให้พี่หมอตา น้องเขียว น้องแป๊ดจับแท็กซี่กลับที่พัก ส่วนผมกับคุณแอ๊ดเดินทางต่อ ก่อนออกเดินทางก็กอดกันอีกรอบ อิอิ แล้วผมก็ปิดเจ้าจีพีเอส เพราะทุกทีขับจากนครปฐมไปภูเก็ตไม่เคยหลง จะให้เจ้าจีพี่เอสทำให้งงทำไม พี่สีน้อยก็เล่าให้ฟังถึงเจ้าจีพีเอสที่คุณสามีซื้อมาใช้ เล่าไปหัวเราะไป เส้นทางที่ไปก็คุ้นอยู่ไปประจำ ไม่เชื่อเมียตัวเองดันไปเชื่อเจ้าจีพีเอส แล้วก็หลงจนได้ ฮา….
คืนนั้นผมนอนที่เพชรบุรี รุ่งเช้าตั้งจีพีเอสมาที่ อเมือง จ.ภูเก็ต เล่นๆงั้นแหละ มาถึงภูเก็ตประมาณทุ่มครึ่งเพราะฝนตกจากชุมพรจนถึงภูเก็ตทำเวลาไม่ได้ มาถึงแล้วก็เลยแวะหาข้าวต้มทานกันก่อนเข้าบ้าน ออกจากร้านข้าวต้มเสียงเจ้าจีพีเอสบอกว่า “ตรงไปข้างหน้า อีก ๑ กิโลเมตรเลี้ยวขวา” ผมกับคุณแอ๊ดหัวเราะกันคิกคัก อยากดูว่าถ้าตูไม่บอก สูจะรู้ไหมว่าตูจะไปไหน… เราเลี้ยวขวาที่หน้าห้างเซนทรัล มันก็บอก “ตรงไปข้างหน้า” พอใกล้ถึงทางแยกมันก็บอก “ชิดชวา”แล้ว “อีก ๕๐๐ เมตร ให้เลี้ยวขวา” เราหัวเราะกันต่อ เอ็งรู้ดีนะ พอขับมาถึงปากซอยเข้าบ้านมันบอกให้เลี้ยวขวา และพอถึงหน้าบ้านมันบอกถึงจุดหมาย เออ…เอ็งเก่ง…รู้ดีนะว่าตูจะกลับบ้าน ไอ้ที่ตูไม่หลงเอ็งก็ไม่หลง แต่ไอ้ตรงที่ตูไม่รู้เรื่องเอ็งจะบอกให้มันรู้เรื่องได้ไหมฟะ…โธ่…..
15 ความคิดเห็น
ต้องทะเลาะกันสักพักจึงจะเข้าใจกันครับ (เขียนจากประสบการณ์)
ชิดขวา แปลว่าตรงไป คือเค้ากลัวเราเลี้ยวซ้าย ถ้าเค้าจะให้เราเลี้ยวซ้าย ก็จะบอกว่าเลี้ยวซ้าย
คนข้างกายแหย่ให้หามาสักตัวหนึ่ง ผมยังสองจิตสองใจ อิอิ
ดีนะที่เชียงแสนสามเหลี่ยมมีถนนแค่สายเดียว ไม่งั้นต้องไปทะเลาะกับเจ้าจีพีเอส …. อิอิ
ฮ่าๆ แสดงว่ารอกอดก็ปวดหัวกับมันมาแล้ว ฮา……
จะได้จำไว้ครับ แล้วถ้ามันบอกว่าชิดซ้ายจะเป็นความหมายเดียวกันไหมครับ มันพาผมออกทางขนานหลายครั้งแล้วครับ ไอ้เราจะไปตรงก็ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไงและไม่รู้จักทางเสียด้วยซี อิอิ
พี่บู้ธครับ
ลองหามาใช้สักตัวแล้วให้คนข้างกายเป็นคนใช้มัน รับรองไม่มีทะเลาะเพราะคุณเธอเป็นคนใช้ไม่ใช่เราใช้ หลงก็ไม่โกรธ ไม่มีอารมณ์เสีย ฮ่าๆ
อิอิ เฮียเหลียงก็ใช้เหมือนกันหรือครับ
ทะเลาะกับมันบ่อยไหมครับ อิอิ
ให้ดีแล้วลองขับเข้ากทม.สักครั้งมันให้คุ้ม แล้วจะเกิดความฮาครับ…
555…มีประสบการณ์ร่วมค่ะท่านอัยการ แถม #1 เค้าไม่บอกก่อนว่าทะเลาะกัย GPS ก่อน จึงจะเข้าใจกัน บอกอย่างเดียวว่าให้เชื่อฟังมัน ทำให้มีเรื่องราวขำๆ ให้จดจำกันค่ะ
GPS ให้คำแนะนำครับ เราตัดสินใจ
เรื่องผมทิ้งอัยการ ออกมาแล้วครับ
อ่ะนะ
มาขำขำ กับ GPS อิอิ
เคยเห็น GPS ที่เป็นลูกกอล์ฟก็ได้บ้างมั๊ยละ ใครไม่เคยเห็นให้ตาหยูหาให้นะค่ะ รับรองได้รุ่นแจ๋วจริงๆค่ะ
จีพีเอส เจอจีพีอุ๊ มันก็ป่วนยังงี้แหละท่านอัยการ
เรื่องที่ผมทิ้งอัยการที่เมืองนอก ยังเสียใจไม่หาย
แต่เท่าที่ฟังว่าไปลุยเที่ยวคนเดียว ฟาดขาแกะ ร้อนๆ ชมโน่นชมนี่ผมก็ว่าดีแล้ว
ดีกว่าที่ผมไปตามรายการเสียอีก
..ผมเห็นรอกอด ..ใช้คล่อง คิดว่า น่าใช้
แต่คนใช้ไม่คล่องมันก็พยศนะ..
ชี้โบ้ชี้เบ้ไปเรื่อยๆ ..หลงทางมากๆเข้าโยนเข้าป่าเสียก็ไม่รู้
แต่พอมันบอกว่าถึงแล้วที่หน้าประตูบ้าน ก็อดทึ้งไม่ได้
สรุปว่า อิ อิ ต่อไป
ผมเพิ่งกลับมาจากไปร่างรายงานภาคใต้ประชุมวันแรกตั้งแต่หนึ่งทุ่มยันสี่ทุ่ม วันที่สองและสามประชุม ๙ โมงเช้าพักบ่ายโมง ประชุมบ่ายสองยันหกโมงเย็น สองวันซ้อน วันที่สี่อีกครึ่งเช้า ก็ได้อะไรเยอะเหมือนกัน แต่ว่ากันหน้าดำหน้าแดงและรู้ข้อมูลลึกที่ทำให้ใจแป้วเหมือนกัน ผมต้องนำเสนอกรอบความคิดในวันที่ ๒๑ นี้ครับ
เรื่องอิหร่าน พ่อครูไม่ต้องเสียใจหรอกครับ ผมรู้สึกปลอดโปร่งด้วยซ้ำ ได้เดินเล่นเป็นอิสระในเมืองที่เราไม่รู้จักใคร ได้ลองชิมอาหารแปลกๆ ได้เดินดูวิถีชีวิต ที่สำคัญคือไม่มีใครได้เห็นแบบผมเห็นตรงนี้สำคัญกว่า และที่ยิ่งกว่านั้นคือผมกับครูบารู้ใจกันยิ่งกว่าเพื่อนทั้งชั้นเรียน เพราะเรารู้ว่าสถานการณ์อย่างนั้นพวกอื่นเป็นไงไม่รู้แต่พวกเฮฮาศาสตร์มันจะทำยังไง ตรงนี้มันกว่า อิอิ
Ah, i see. Well tha’ts not too tricky at all!”