คดีหกลังแม่โขง(จบ)

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 21 มิถุนายน 2010 เวลา 22:00 ในหมวดหมู่ นักกฎหมายอย่างผม, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 1680

ประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่เขาถือเป็นไม้เด็ดก็คือ “อัยการสูงสุดมีอำนาจสั่งฟ้องจำเลยที่ ๒ ในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการดังกล่าวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗, ๒๖๘ หรือไม่” ข้อนี้แหละที่เขากะเป็นหมัดตาย เพราะถ้าคำสั่งผู้ว่าฯที่ไม่ได้มีความเห็นแย้งก็ต้องถือว่าคดีถึงที่สุดไปแล้ว อัยการสูงสุดไม่มีอำนาจฟ้อง คดีก็จบ เสี่ยงเหมือนกัน อิอิ

ข้อนี้ ศาลฎีกาพิเคราะห์ว่า ว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองภูเก็ตได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องจำเลยที่ ๒ ในความผิดตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๓๕, ๓๖, ๔๒ และฐานร่วมกันยักยอกให้อัยการจังหวัดภูเก็ตพิจารณา (ไม่มีข้อหา “แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารและใช้เอกสารดังกล่าว” ซึ่งผมเป็นคนที่ตรวจสำนวนพบว่ามีการกระทำความผิดในข้อหาดังกล่าวด้วยแต่ตำรวจไม่ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับจำเลย:อัยการชาวเกาะ) อัยการจังหวัดภูเก็ตมีความเห็นสั่งฟ้องจำเลยที่ ๒ ตามความเห็นของพนักงานสอบสวนและสั่งฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗, ๒๖๘ ด้วย โดยให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดังกล่าวเพิ่มเติมให้จำเลยที่ ๒ ทราบก่อนฟ้อง แต่อัยการพิเศษประจำเขต ๘ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องจำเลยที่ ๒ ทุกข้อหา ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗, ๒๖๘ ผู้เสียหายมิได้แจ้งความให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องดำเนินการในข้อหานี้แก่จำเลยที่ ๒ ซึ่งอัยการจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการตามความเห็นของอัยการพิเศษประจำเขต ๘ โดยมีคำสั่งไม่ฟ้องจำเลยที่ ๒ ทุกข้อหา และยุติการดำเนินคดีแก่จำเลยที่ ๒ ในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗, ๒๖๘

เมื่ออัยการจังหวัดภูเก็ตส่งสำนวนพร้อมความเห็นเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพิจารณา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๕ วรรคหนึ่ง (ซึ่งพนักงานอัยการต้องปฏิบัติเมื่อมีคำสั่งไม่ฟ้อง:อัยการชาวเกาะ) ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตมีความเห็นแย้งให้ฟ้องจำเลยที่ ๒ เฉพาะในความผิดตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนฯ และความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖, ๓๕๓, ๓๕๔ เห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการนั้น ในชั้นต้นพนักงานสอบสวนยังมิได้แจ้งข้อหาให้แก่จำเลยที่ ๒ ทราบ และมิได้ดำเนินคดีในข้อหานี้มาแต่แรก เมื่ออัยการจังหวัดภูเก็ตมีคำสั่งให้ยุติการดำเนินการแก่จำเลยที่ ๒ ในข้อหานี้ ย่อมถือได้ว่าอัยการจังหวัดภูเก็ตยังไม่มีคำสั่งให้ฟ้องหรือไม่ฟ้องจำเลยที่ ๒ ในข้อหาดังกล่าว การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้มีความเห็นเกี่ยวกับข้อหานี้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดมีความเห็นชอบกับคำสั่งไม่ฟ้องจำเลยที่ ๒ อันจะทำให้คำสั่งไม่ฟ้องจำเลยที่ ๒ ในความผิดฐานดังกล่าวเป็นที่สุดดังที่จำเลยที่ ๒ ฎีกา

เมื่อสำนวนการสอบสวนเสนอไปยังอัยการสูงสุดพิจารณาเนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดมีความเห็นแย้งให้ฟ้องจำเลยที่ ๒ ในความผิดฐานยักยอกและความผิดตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนฯ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง การที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ฟ้องจำเลยที่ ๒ ในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗, ๒๖๘ ด้วยนั้นเป็นการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๒ ที่ให้อัยการสูงสุดมีอำนาจดำเนินคดีได้ทุกศาล หาได้สั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง ดังที่จำเลยที่ ๒ ฎีกาไม่ คำสั่งให้ฟ้องจำเลยที่ ๒ ของอัยการสูงสุดย่อมชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ปัญหาตามฎีกาข้ออื่นของจำเลยที่ ๒ ไม่จำต้องวินิจฉัยอีกต่อไป เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง ฎีกาของจำเลยที่ ๒ ที่กล่าวมาฟังไม่ขึ้นทุกข้อ” พิพากษายืน (รัตน กองแก้ว มงคล ทับเที่ยง พินิจ บุญชัด)

ชื่อในวงเล็บคือองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ตัดสินคดีนี้ครับ

คดีจบลงไปแล้ว ผมไม่ได้มีความรู้สึกลิงโลดหรือรู้สึกยิ่งใหญ่ที่เอาชนะจำเลยคดีนี้ได้ เพราะผมทำหน้าที่ของผมให้เกิดความสมบูรณ์เท่านั้น ผมไม่ได้คิดอคติกับจำเลย แต่ก็ยอมรับว่าในเบื้องต้นที่ทราบว่าเขามาขออย่าจ่ายสำนวนให้ผม ผมมีความรู้สึกอยากทำคดีนี้และอยากทำสำนวนให้ละเอียดรอบคอบ ดูสิว่าเราผิดหรือถูกเพราะตอนนั้นมีปัญหาหลักเพียงแค่ขาดอายุความหรือไม่ แต่พออ่านไปเจอความผิดที่พนักงานสอบสวนยังมิได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาเราก็ทำหน้าที่ให้เต็มที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกคำสั่งจากอธิบดีฯ สั่งไม่ฟ้องทุกข้อหาเพราะขาดอายุความ เราก็มึนเพราะเชื่อว่าเราทำงานรอบคอบแล้ว แต่ในที่สุดก็ได้รับการพิสูจน์จากอัยการสูงสุดว่าท่านเห็นด้วยกับความคิดที่เรานำเสนอและที่สำคัญศาลสูงสุดของประเทศก็เห็นว่าข้อหาที่เราสั่งดำเนินคดีเป็นข้อหาที่จำเลยกระทำผิดจริง ก็เท่านั้นแหละครับ…

ที่นำมาเล่าเพราะเห็นว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอีกเรื่องหนึ่งที่กว่าจะมาถึงวันนี้ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควรแล้ว แต่ทุกวันนี้ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ครับ.

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : คดีหกลังแม่โขง(๓)

Next : ความเปลี่ยนแปลงรอบบ้าน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

10 ความคิดเห็น

  • #1 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มิถุนายน 2010 เวลา 23:32

    จบแล้วคร๊าบ อิอิอิ
    เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องที่ชอบน้อยที่สุดค่ะ
    อยู่งานบริหารบุคคล ถูกบังคับให้ไปเรียนกฎหมายเพิ่มเติม แต่….ก็บิดเบือนจนมาถังทุกวันนี้
    เคยทำงานสำนักงานกฎหมาย ไปยื่นสำนวน (จำไม่ได้เลย) อิอิ เพราะไม่ชอบในเนื้อหา แต่ชอบเวลาที่ไปศาลมาก เพราะรู้สึกว่าเท่ห์ อิอิอิ
    เรื่องนี้มันส์ เพราะเป้าหมายคือความถูกต้องใช่ไหมคะ
    อุอุอุ

  • #2 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 เวลา 6:45

    ถูกต้องนะคร๊าบ น้าอึ่ง
    นี่ยังไม่ได้เล่าเรื่อง เห็นอัยการจังหวัดสั่งสำนวนไม่ชอบมาพากล ตูเลยไม่เสวนาด้วย ไม่กินข้าวด้วย ช่วงนั้นยังเป็นอัยการจังหวัดผู้ช่วยอยู่เลย อิอิ นึกๆแล้วขำตัวเองว่าตูกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ อิอิ
    เรื่องกฎหมายถูกวาดภาพให้น่ากลัวว่ามันยาก ความจริงแล้วไม่ยากเพราะมันเป็นเรื่องของเหตุผลและคุณธรรมจริยธรรม เจอคำถามที่ตอบไม่ถูกตั้งใจดีๆแล้วนึกถึงว่าถ้าเป็นอย่างนี้จะเป็นธรรมไหม ถ้าคำตอบว่าเป็นธรรมก็มักจะถูก แฮ่…

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 เวลา 12:40

    ไม่คิดว่าในชีวิตจะต้องเดินเข้าไปใกล้คดีความ แต่คนเราก็คงมีสักวันที่ต้องเกี่ยวข้อง ไม่ตรงก็อ้อม บทเรียนเหล่านี้มีประโยชน์ครับ

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 เวลา 15:48

    ขอบคุณครับพี่บู้ธ
    แม้เราจะบอกว่าเราไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีความหรือกฎหมาย แต่กฎหมายมันก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับเราอยู่ดี ของแบบนี้รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหามครับ ไม่เป็นประโยชน์กับเราในวันนี้อาจเป็นประโยชน์กับคนที่เรารู้จักหรือตัวเราเองในวันหน้าครับ

  • #5 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 เวลา 20:19

    ตามมาอ่านตอนจบค่ะ

    ดีใจที่คนผิดจริงได้รับผลที่เขาทำ ความถูกต้องก็ชนะในที่สุด
    ได้คิดว่าแล้วหาก ไม่มีอัยการเช่นท่านอัยการชาวเกาะที่มุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง … เขาก็อาจจะยังลอยนวลอยู่ได้โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย

    ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ได้รับค่ะ

  • #6 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 เวลา 21:26

    เราสู้กันด้วยข้อกฎหมายเพราะจำเลยเป็นอาจารย์สอนกฎหมายในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งครับ เขาคงจบต่างประเทศมาเพราะครอบครัวฐานะดี ส่วนผมเป็นนักกฎหมายพันธุ์ไทย เขาจึงมีความรู้สึกว่าผมงี่เง่า แต่ลึกๆแล้วก็คิดอยู่เหมือนกันว่า ถ้าผมไม่แส่ไปให้พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการและใช้เอกสารนั้น ข้อหาอื่นๆเช่น ยักยอกทรัพย์ของเขาก็จบกันไปแล้วเพราะการยอมความและถอนคำร้องทุกข์ เขาก็คงไม่มีโทษอะไร แต่เพราะเราแท้ๆเชียวทำให้เขากลายเป็นคนที่มีคำพิพากษติดตัวว่าเป็นผู้กระทำความผิด ถึงวันนี้ก็เลยไม่รู้เราทำถูกหรือเปล่า..อิอิ
    ขอบคุณ freemind ที่ตามอ่านจนจบครับ

  • #7 fancy ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 มิถุนายน 2010 เวลา 14:40

    พึ่งเข้ามาวันแรก(สมาชิกใหม่) อ่านรวดเดียว 4 ตอนเลย อิอิ

    ขอบคุณผู้ที่ยังรักความยุติธรรมที่ยังหลงเหลืออยู่

  • #8 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 มิถุนายน 2010 เวลา 20:20

    ขอบคุณ fancy ที่แวะมาเยี่ยมครับ

  • #9 handyman ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 มิถุนายน 2010 เวลา 8:23

    สวัสดีครับ

    •  ตามมาให้กำลังใจ มาอ่านตอนจบก่อน แล้วจะค่อยย้อนศรไปอ่านตอนแรกๆ 
    • ชีพจรลงเท้าครับ ขับรถไปกลับ 140 โลติดๆกันหลายวัน ไปทำหน้าที่ “ครูของครู” ทำไงได้ครับ  วิญญาณครูมันตามมาสิงอีก  ว่าจะเป็นเกษตรกรจำเป็นซะหน่อย  ก็เลยทำได้ครึ่งๆกลางๆ
    • อาหารทะเลที่พุมเรียงยังรออยู่นะครับ   ไม่เชื่อถามป้าจุ๋มดู  หรือตามไปดูบันทึกใหม่ยาวๆในลานลุง Handy ก็ได้
  • #10 Boucherie ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2014 เวลา 3:09

    Hajlulelah! I needed this-you’re my savior.


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.130704164505 sec
Sidebar: 0.89172005653381 sec