โอวาทท่านเหลี่ยวฝานข้อที่สาม(๒)

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 3 มิถุนายน 2010 เวลา 23:11 ในหมวดหมู่ ครอบครัว, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 1249

ผมยังเล่าโอวาทข้อสามไม่จบ วันนี้มาขอต่อข้อสามเพื่อให้จบครับ ท่านสอนลูกว่าการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น มีวิธีการมากมายและสามารถแยกออกได้ ๑๐ วิธีด้วยกัน คือ
๑. ช่วยเหลือผู้อื่นทำความดี
๒. รักและเคารพทุกคนอย่างเสมอหน้า
๓. สนับสนุนผู้อื่นให้เป็นผู้มีความดีพร้อม
๔. ชี้ทางให้ผู้อื่นทำความดี
๕. ช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในความคับขัน
๖. กระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
๗. ไม่ทำตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หมั่นบริจาค
๘. ธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมะ
๙. เคารพผู้มีอาวุโสกว่า
๑๐. รักชีวิตผู้อื่นดุจรักชีวิตตนเอง
ซึ่งในแต่ละข้อ ท่านเหลี่ยวฝานก็ยังอธิบายและยกตัวอย่างการทำความดีในแต่ละอย่างมาสอนลูกด้วย ทั้งยังอธิบายเพิ่มเติมอย่างน่าสนใจ

การช่วยเหลือผู้อื่นทำความดีท่านเล่าให้ฟังเรื่องท่านตี้ซุนก่อนจะขึ้นครองราชย์ ที่ไปช่วยชาวบ้านชาวบ้านยากจนและคนแก่จับปลา และก็เห็นพฤติกรรมของคนหาปลา ใครที่ไม่เห็นแก่ตัวท่านก็จะนำไปบอกกล่าวเล่าขาน จนทำให้คนรักที่จะทำความดี ไม่เห็นแก่ตัว และท่านยังสอนลูกว่าสมัยนี้ผู้คนไม่ค่อยมีศีลธรรม เหมือนดังยุคก่อน เพราะฉะนั้น “ลูกจะต้องเจียมเนื้อเจียมตัว อย่าได้อวดดี ว่าวิเศษกว่าผู้อื่น อย่านำความสามารถของลูก ไปข่มผู้อื่นที่ด้อยกว่า ให้เขาได้อาย จงเก็บความรู้ ความสามารถของเจ้าไว้ในใจ อย่าได้แสดงออกให้ปรากฏแก่สายตาผู้อื่น ใครพลาดพลั้งล่วงเกินลูก ก็จงรู้จักให้อภัย อย่าได้แพร่งพรายความไม่ดีออกไป เพื่อให้โอกาสเขากลับตัวกลับใจ และเมื่อไม่มีใครรู้ และก็ทำให้เขาไม่กล้ากำเริบเสิบสาน เพราะทุกคนย่อมรักหน้ารักตา ไม่อยากเป็นคนเสียชื่อเสียง” ในชีวิตประจำวันของลูก ไม่ว่าจะพูดสักคำ จะทำอะไรสักอย่าง จงอย่าทำเพื่อประโยชน์ตนเอง ถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ลูกจงจำไว้ให้ดี

รักและเคารพทุกคนอย่างเสมอหน้านั้นเป็นอย่างไร ในข้อนี้ท่านสอนให้ลูกรู้จักดูว่าคนดีเป็นอย่างไร เพราะ “ผู้ดีที่มีข้อแตกต่างจากคนทั่วไปนั้น คือ มีน้ำใจรักและเคารพทุกคน อย่างเสมอหน้ากันธรรมดา คนที่เราได้พบเห็นในชีวิตประจำวันนั้น บางคนเราก็เคยใกล้ชิดด้วย บางคนก็ห่างเหินกันไป บางคนสูงศักดิ์ บางคนต่ำต้อย บางคนฉลาดหลักแหลม บางคนโง่เขลาเบาปัญญา บางคนมีคุณธรรมประจำใจ บางคนก็ร้าย จนได้ชื่อว่าเป็นคนพาล แม้ทุกคนจะมีสถานภาพและจิตใจไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนก็เป็นเพื่อนมนุษย์ ที่ต้องเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน นักปราชญ์ทั้งปวง จึงไม่ชอบให้คนเกลียดกันดูถูกกัน ต้องรักกันเคารพกันอย่างเสมอหน้า จึงจะมีสันติสุขเกิดขึ้นได้

สนับสนุนผู้อื่นให้เป็นผู้มีความดีพร้อมนั้น อย่างไร ข้อนี้ท่านสอนให้ลูกรู้จักยกย่องคนดี ท่านเปรียบเทียบว่า “หยกมีความงาม และความสำคัญขึ้นมาได้ เพราะฝีมือของมนุษย์เอง คนก็เช่นกัน ถ้ามีคนคอยช่วยเหลือให้คำแนะนำที่ดี คนธรรมดาๆ ก็จะกลายเป็นคนดีพร้อมไปได้ เพราะฉะนั้น ลูกจงใส่ใจในคนที่รักดี มุ่งมั่นจะเป็นคนดี ลูกจงให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ให้กำลังใจ ประคับประคอง เพื่อให้เขาเป็นคนดีพร้อมให้ได้” คนดีมักจะเป็นคนตรง และไม่กลัวตาย ไม่ชอบการแต่งตัวที่หรูหราไม่ชอบมีความเป็นอยู่ที่ฟุ่มเฟือย จึงมักตกเป็นขี้ปากคนชั่ว ท่านจึงให้ลูก “ช่วยปกป้องคนดี และช่วยชี้ทางให้คนชั่วกลับใจเป็นคนดีเสีย” เพราะนี่คือมหากุศล

ชี้ทางให้ผู้อื่นทำความดีนั้นอย่างไร ข้อนี้ท่านสอนถึงแนวทางการชี้ทางให้ผู้อื่นทำความดีโดยให้ใช้คำพูด ใช้หนังสือเป็นตัวอย่าง “ลูกก็จะต้องใช้ให้เหมาะสม มิฉะนั้นก็จะไม่ได้ผลเลยดุจดั่งคนป่วย ถ้าได้ยาตรงกับโรค ก็จะหายวันหายคืน เหมือนคนที่มีนิสัยแข็งกระด้าง ถ้าเราใช้คำพูดตักเตือน เขาจะไม่เชื่อโดยง่ายพูดไปก็เสีย เวลาเปล่า ถ้าเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน การตักเตือนด้วยคำพูดมักจะได้ผล ลูกไม่ควรพลาดโอกาสอันดีนี้เสีย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ลูกต้องดูคนเป็น ต้องอ่านนิสัยได้ถูกต้อง แล้วจึงจะวินิจฉัยได้ว่า คนเช่นไรสมควรตักเตือนด้วยคำพูด คนเช่นไรสมควรให้เขาอ่านหนังสือ

จะช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในความคับขันได้อย่างไร เพราะท่านเห็นว่าเคราะห์กรรมอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้จึงสอนลูกว่า “หากลูกพบเห็นคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ลูกจะต้องเข้าช่วยเหลือให้ทันท่วงทีและจะต้องช่วยแก้ไขสถานการณ์ ด้วยสติปัญญาของลูกอย่างรอบคอบ เพื่อให้การช่วยนั้น ประสบความสำเร็จ”

กระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างไร ข้อนี้ท่านสอนให้ลูกมีจิตสาธารณะ ให้เข้าไปช่วยผู้อื่นทำงานเพื่อส่วนรวม “ไม่ว่าลูกจะอยู่ในชนบทเล็กๆ หรือในเมืองใหญ่ๆ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ประโยชน์สุขของส่วนรวมแล้ว ลูกจะต้องไม่ท้อถอยในการเป็นอาสาสมัคร” และยังสอนอีกว่า “หากใครมาว่าร้าย ลูกก็จงอย่าใส่ใจ ถ้าเราทำดีโดยสุจริตแล้ว ใครๆ ก็ย่อมเข้าใจและช่วยป้องกันลูกเสียอีก ลูกจงอย่าท้อถอยไม่ว่าจะประสบอุปสรรคใดๆอย่าได้วางมือเป็นอันขาด”

ไม่ทำตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หมั่นบริจาค อย่างไร ข้อนี้ท่านสอนให้ลูกรู้จักเสียสละ คำสอนในพระพุทธศาสนานั้นมากมาย พระผู้มีพระภาค ทรงแนะนำให้รู้จักให้ทานเสียก่อน การให้คือการเสียสละ ผู้ที่ไม่สามารถเสียสละได้ทั้งหมด ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการให้ทานบริจาคทรัพย์เสียก่อน

ธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมได้อย่างไร ข้อนี้ท่านสอนให้ลูกใกล้ชิดความดีด้วยการปฏิบัติธรรมยึดมั่นในธรรม เคารพผู้ประพฤติธรรม เพราะธรรมะ คือ ประทีปที่ส่องวิถีทางแห่งชีวิต ธรรมะ คือ การธำรงไว้ซึ่งฟ้าดินและมนุษย์ ธรรมะทำให้ชีวิตหลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ ท่านจึงสอนว่า “ฉะนั้น เมื่อลูกเห็นศาลที่บูชานักปราชญ์ราชบัณฑิต หรือเห็นคัมภีร์โบราณ ที่เป็นธรรมะอันสูงส่ง ลูกจะต้องถนอมด้วยความเคารพ หากมีสิ่งขาดตกบกพร่องลูกจะต้องซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีดังเดิม เพื่อเป็นประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป ลูกจะต้องเผยแผ่ธรรมะ ธำรงไว้ซึ่งธรรมะ ปฏิบัติตนด้วยธรรมะ สอนให้ผู้อื่นรู้จักธรรมะ”

เคารพผู้มีอาวุโสกว่าอย่างไร ท่านสอนให้ดูแลตั้งแต่คนในครอบครัวไปจนถึงฮ่องเต้ โดยสอนว่า “ในครอบครัว ย่อมมีบิดามารดา พี่ชายพี่สาว ที่มีอาวุโสกว่าเรา เราต้องเคารพรักรู้จักปรนนิบัติเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุข ในประเทศ ย่อมมีฮ่องเต้เป็นประมุข ที่เราจะต้องแสดงความจงรักภักดี รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักษากฎหมายยิ่งกว่าชีวิตของลูกเอง”

รักชีวิตผู้อื่นดุจรักชีวิตตนเองอย่างไร ข้อนี้ท่านสอนให้มีเมตตา เพราะการเอาชนะสิ่งที่ยากที่สุด คือ ใจของตนเอง ต้องเริ่มปลูกฝังจิต ให้มีเมตตากรุณาก่อน การสั่งสมคุณธรรมใดๆ ท่านผู้ใหญ่แต่กาลก่อน จึงไม่ยอมบริโภคเนื้อสัตว์สี่ประเภท คือ ๑. สัตว์ที่ได้ยินเสียงเขาฆ่า ๒. สัตว์ที่เห็นเขากำลังฆ่า ๓. สัดว์ที่เลี้ยงอยู่เอง ๔. สัตว์ที่เขาจงใจฆ่าเพื่อให้เราบริโภค

ที่สุดท่านสรุปว่า “การทำความดีนั้นไม่มีที่สิ้นสุด อธิบายเท่าไรก็คงไม่หมด
จงถือหลักสิบประการนี้แล้ว ลูกก็จะแผ่ขยายการทำดีให้กว้างขวางออกไปเอง
การสั่งสมคุณธรรม ให้ครบหนึ่งหมื่นครั้ง ก็จะอยู่เพียงแค่เอื้อม

ขออภัยที่เขียนต่อช้าเป็นที่รำคาญใจแก่ผู้ที่รออ่าน เพราะกำลังเขียนแก้อุทธรณ์และเตรียมตัวบรรยายครับ อาทิตย์หน้าทุกอย่างจะเบาขึ้น จะรีบมาเขียนโอวาทข้อสุดท้ายครับ

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : ไปถ่ายภาพเขากระโดดกัน อิอิ

Next : หาดใหญ่วันนี้ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 สุวรรณา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 มิถุนายน 2010 เวลา 7:46

    สวัสดีค่ะพี่อัยการ โอวาทท่านนี้สุดยอดคำสอนเชียวนะคะ ถ้าฝังสิ่งนี้ในตัวตนได้ โลกนี้สันติสุขยั่งยืนนะคะพี่

  • #2 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 มิถุนายน 2010 เวลา 17:39

    ขอบพระคุณพี่อัยการมากๆค่ะ  ป้าหวานชอบมาก เจอเป็นหนังสือออนไลน์ และเพื่อนให้ไฟล์เสียงมาให้เปิดฟังได้อีก  แต่ป้าหวานว่า  รายละเอียดมาก  เรื่องยาว  ก็ต้องใช้เวลา ใช้สมาธิ  และความสนใจที่ตั้งใจมากตามไปด้วย  จึงต้องขอขอบพระคุณที่พี่ช่วยดึงเอาออกมา ทำให้ได้ใจความเร็วขึ้น  กระชับในสิ่งที่เป็นจุดสำคัญ แล้วค่อยไปตามรายละเอียดอีกก็ได้ หรือ รับจากพี่ก็ได้มากอีกแบบหนึ่งแล้วค่ะ  ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ให้ลูกหลานหรือผู้อื่นๆที่สนใจต่อนะคะ

  • #3 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 มิถุนายน 2010 เวลา 9:00

    ขอบคุณพี่นิด การปลูกฝังสิ่งดีๆให้ผู้อื่นเป็นเรื่องที่ท่านเหลี่ยวฝานสอนไว้ครับ

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 มิถุนายน 2010 เวลา 9:02

    ขอบคุณป้าหวานครับ
    อ่านที่ผมย่อแล้วพอใจก็ไปตามอ่านรายละเอียดได้อีกจะได้อรรถรสเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าได้อ่านความเห็นของคนที่เข้าไปอ่านก็จะยิ่งเพิ่มข้อมูลความรู้ ความเข้าใจ หรืออาจมีความคิดเห็นเพิ่มเติมได้อีกครับ

  • #5 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มิถุนายน 2010 เวลา 18:44

    จะได้ยืมอ่านมั้ยค้า ^ ^

  • #6 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มิถุนายน 2010 เวลา 20:04

    กลับจากหาดใหญ่จะส่งไปให้จ้า..ยังอยู่หาดใหญ่อยู่เลย กลับพรุ่งนี้ อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.13236498832703 sec
Sidebar: 0.35262393951416 sec