ประสบการณ์ชีวิตจากการเป็นเด็กปั๊ม

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 26 ตุลาคม 2009 เวลา 7:56 ในหมวดหมู่ นักกฎหมายอย่างผม, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 3047

ชึวิตการทำงานของผมวนเวียนอยู่ที่ศาล สำนักงานอัยการ เช้าหอบสำนวนวันละ ๔-๕ เรื่องไปศาล บ่ายหรือเย็นกลับมาที่สำนักงานอัยการ เซ็นรับสำนวน นั่งพิจารณาสำนวนเขียนความเห็น ๖ โมงเย็นกลับบ้าน เอาสำนวนกลับมาด้วย อาบน้ำทานข้าวเสร็จดูทีวีสักพัก จากนั้นก็นั่งพิจารณาสำนวน เช้าไปว่าความ วนเวียนอยู่อย่างนี้ เสาร์อาทิตย์ก็อยู่กับกองสำนวน พาลูกไปนั่งรถเล่นบ้าง การที่ต้องว่าความทุกวันแทบไม่มีเวลาพิจารณาสำนวนได้ละเอียดเลย ถ้าอ่านละเอียดหมายความว่าเวลาพักผ่อนก็หายไปด้วย

สำนวนอัยการมีสำนวนคดีแพ่ง คดีอาญาซึ่งยังแยกย่อยออกไปว่าปกเหลือง(ความจิงเป็นปกน้ำตาล คือคดีที่ตำรวจมีความเห็นควรสั่งฟ้องและส่งตัวผู้ต้องหามา) ปกขาว (อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นหนังสือนะ..อิอิ แต่มันเป็นสำนวนประเภทที่ตำรวจมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาหรือควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาแต่ยังจับตัวผู้ต้องหาไม่ได้) กับสำนวนมุมดำ(สำนวนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด) เราก็ต้องหยิบปกเหลืองมาทำก่อนเพราะมีระยะเวลาครบฝากขังหรือครบประกันเป็นตัวกำหนด ส่วนปกขาวไว้ทำทีหลังเพียงต้องสั่งสำนวนให้ทันภายในเวลาที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนด เช่น สำนวนทุกสำนวนต้องสั่งให้เสร็จภายใน ๔ วันทำการของเดือนถัดไป ถ้าไม่เสร็จสำนวนค้างเพราะอะไรก็ต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ผมมีความรู้สึกว่าวันๆหนึ่งผมแทบไม่มีเวลาว่างเลย แถมบางทีชาวบ้านมาขอปรึกษาหารือข้อกฎหมาย เราออกไปบรรยายบ่อยชาวบ้านรู้จักเยอะ เวลาจะปรึกษาเขาก็จะพุ่งมาหาผม บางคนบอกเกรงใจไม่อยากไปพบที่ที่ทำงานมาขอพบที่บ้าน แรกๆก็พอไหวแต่พอนานๆเข้าแทบทุกวันเราก็ยิ่งล้าและเหนื่อย มีอยู่วันหนึ่งผมเหนื่อยมากแต่มีคนมาปรึกษาโดยไม่นัดล่วงหน้าก่อน มาถึงไม่ได้ดูหรอกว่าเราเหนื่อยแค่ไหน บอกว่าพี่ครับ ผมขอปรึกษาหน่อยจะไปหาที่ทำงานก็เกรงใจ จนผมต้องพูดตรงๆว่า “ผมทำงานเหนื่อยมาทั้งวันกว่าจะออกที่ทำงานก็ ๖ โมงเย็น มาถึงบ้านแทนที่จะได้พักผ่อนคุณมาบอกว่าเกรงใจไม่อยากไปพบที่ทำงาน คุณไม่นึกเลยหรือว่าผมก็เหนื่อยเป็น” เลยเอาสะอึกกันไปหลายคน อิอิ ผมบอกเขาว่าถ้าเกรงใจผมขอให้ไปพบที่ทำงานเถอะ เพราะมาที่บ้านถ้าผมไม่เหนื่อยมากผมก็อธิบายให้ฟังได้ แต่วันนี้ผมอยู่กับมาแล้วกฎหมายทั้งวันขอให้ผมได้อยู่กับลูกกับเมียบ้างเถอะ…ฮา..ถามว่าเขาโกรธไหม เขากลับไม่โกรธผมและคนๆนั้นกลายมาเป็นเพื่อนสนิท เวลาจะมาหาก็จะโทร.มาก่อนวันนี้ว่างไหมจะขอปรึกษาหน่อย ฮา…

ผมทำคดีมากมาย ถ้าหยิบทีละคดีมาเล่าสงสัยว่าบันทึกนี้จะจบไม่ลง แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะบอกนักกฎหมายรุ่นใหม่ ผู้ที่อยากเป็นนักกฎหมาย ผู้ที่อยากรู้จักนักกฎหมาย ว่า นักกฎหมายที่ดีจะต้องเรียนรู้เรื่องราวรอบตัวให้มาก เรียนรู้วิทยาการใหม่ๆให้มาก เรียนรู้ทุกสาขาวิชาให้มากที่สุด เพราะทุกวิชาชีพจะต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายถ้าเราไม่มีความรอบรู้ในวิชาการต่างๆ การว่าความให้ดีนั้นเป็นไปได้ยาก

ผมจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความรู้รอบตัวเรื่องหนึ่ง สมัยก่อนผมไปช่วยคุณพ่อคุมปั๊มน้ำมันทำให้รู้ว่าผู้จัดการแอบปลอมปนน้ำมันและยักยอกเงินขายน้ำมัน ผมจับตาดูการปลอมปนน้ำมันว่าเขาทำอย่างไร สมัยก่อนน้ำมันเบนซินธรรมดาสีออกเหลือง น้ำมันเบนซินพิเศษสีออกแดง (ทางการบังคับให้ใส่สี) การปลอมปนจึงทำง่ายเพราะเอาน้ำมันเบนซินธรรมดาไปผสมเบนซินพิเศษ ดูด้วยตาจะไม่รู้(ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงน้ำมันเบนซินพิเศษมีสีอ่อน น้ำมันเบนซินธรรมดาสีเข้ม หากปลอมปนจะเห็นชัด) ขั้นตอนในการปลอมก็คือเวลาพนักงานขับรถบรรทุกน้ำมันมาจอด เขาจะเอาท่อน้ำมันซึ่งมีหัวสวมมาสวมที่ปากหลุมน้ำมันซึ่งแยกประเภทแยกสีเอาไว้แล้ว คนขับรถบรรทุกร่วมมือกับผู้จัดการเอาน้ำมันจากถังบนรถซึ่งแบ่งเป็นช่องๆละ ๓,๐๐๐ ลิตรบ้าง ๔,๐๐๐ ลิตรบ้าง ๕,๐๐๐ ลิตรบ้าง แล้วแต่ว่ารถคันดังกล่าวบรรทุกครั้งละกี่ลิตร เช่น ๑๒,๐๐๐ ลิตร ถ้าช่องละ ๓,๐๐๐ ลิตรก็จะมี ๔ ช่อง ถ้าเป็นช่องละ ๔,๐๐๐ ลิตรก็จะมี ๓ ช่อง เป็นต้น เขาก็จะเอาท่อที่จะปล่อยน้ำมันเบนซินธรรมดาลงถังเก็บใต้ดิน มาสวมหัวช่องที่ปล่อยลงถังเก็บน้ำมันพิเศษแล้วกะประมาณว่าปล่อยน้ำมันสักช่วงหนึ่งแล้วหยุด เปลี่ยนไปสวมหัวท่อลงถังเก็บเบนซินธรรมดาที่ถูกต้องจนหมด จากนั้นก็จะปล่อยน้ำมันเบนซินพิเศษลงถังเก็บ คราวนี้ก็จะทำให้น้ำมันในถังเก็บเบนซินขาดจำนวน แต่จะไปเกินอยู่ที่เบนซินพิเศษ

คราวนี้เขามีวิธีการต่อ ถังเก็บน้ำมันใต้ดินทุกถังจะมีรูวัดน้ำมันขนาดเท่านิ้วก้อย ไม้วัดจะเป็นอลูมิเนียมมีขีดบอกจำนวน เวลาจะวัดน้ำมันก็จะเอาชอล์คมาถูที่ไม้วัด แล้วหย่อนไม้วัดลงไป ชอล์คที่ไม่ถูกน้ำมันก็ยังคงติดอยู่ที่ไม้วัด เราก็จะเอามาดูในตารางว่าตำแหน่งของชอล์คขนาดนี้มีน้ำมันอยู่ในถังจำนวนเท่าไร ผู้จัดการก็จะจัดการต่อที่การ์ดปริมาณน้ำมันคงเหลือ เขียนปริมาณน้ำมันที่ลงจริง วัดน้ำมันได้ก็ระบุให้จำนวนน้ำมันตรงตามปริมาณที่ใส่ลงไป(แต่อาจไม่ตรงตามค่าที่อ่านจากไม้วัด) คราวนี้พอขายน้ำมันได้ก็เอาค่าน้ำมันส่วนเกินเป็นประโยชน์ส่วนตัว แต่วิธีการนี้จะเจอการทุจริตได้ก็ต่อเมื่อเจ้าของปั๊มมาตรวจบ่อยๆ มาวัดน้ำมันเอง ก็จะพบสิ่งผิดปกติกับการ์ดจำนวนปริมาณน้ำมันคงเหลือ

ผู้จัดการเป็นคนรู้จักกันและแต่งงานกับญาติห่างๆ เราจึงไว้ใจ ผมเห็นวิธีการทำอย่างนี้รู้สึกว่ามันแปลกๆจึงไปบอกพ่อ พ่อมาจับทุจริตได้ก็เลยให้เขาออกจากงาน ผมได้ความรู้ตรงนี้ว่าการทุจริตไม่ได้มีแค่นี้ บางทีคนขับรถบรรทุกน้ำมันโกงส่วนตัวโดยทำวาว์ลพิเศษไว้ที่ตัวรถ เวลาจะปล่อยน้ำมันลงถังให้เราก็แอบไปโยกวาว์ลพิเศษน้ำมันส่วนหนึ่งก็จะไหลไปที่ท่อเก็บที่ทำซ่อนไว้ครั้งละประมาณ ๑๐๐ ลิตร ดูมันทำ….

นอกจากนี้ยังมีวิธีโกงอีกโดยลักน้ำมันระหว่างทาง วิธีการตรวจสอบทั้งแบบนี้และแบบทำวาว์ลพิเศษ ก่อนเอาน้ำมันจากรถบรรทุกลงถังเราต้องขึ้นไปเปิดฝาช่องน้ำมันบนรถด้วยตัวเอง ถังน้ำมันบนรถทุกถังจะมีแป้นวัดน้ำมัน น้ำมันที่มาจากสถานีใหญ่จะอยู่ที่ระดับแป้นที่ว่าปริมาณที่ถูกต้องจะท่วมแป้นพอดีหักลบได้ต้องไม่ต่ำกว่าแป้น เพราะถ้าต่ำกว่าแป้นแสดงว่าปริมาณน้ำมันขาดหายไป ผมได้ความรู้ตรงนี้จากการอบรมของบริษัทให้เราตรวจซีลทุกจุดของรถส่งน้ำมัน ถ้าซีลขาดเราจะไม่รับน้ำมัน เราต้องตัดซีลของเราเอง และก่อนที่จะให้เขาปล่อยน้ำมันเราจะโยกคันโยกเองทุกครั้งโดยวิธีโยกลงและผลักกลับทุกวาว์ล จากนั้นจึงปีนขึ้นไปเปิดฝาถังน้ำมันดูแป้นวัดน้ำมัน วิธีนี้ก็จะแก้ปัญหาได้ (ยังมีต่อ..)

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : คดีแพ่งแห่งความระกำ

Next : ลักใช้โทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ ทำอย่างไร… » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.082834005355835 sec
Sidebar: 0.14203906059265 sec