ผมเป็นอัยการแล้ว

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 19 ตุลาคม 2009 เวลา 7:24 ในหมวดหมู่ นักกฎหมายอย่างผม, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 5761

ผมเป็นทนายตามใบอนุญาตว่าความ ๔ ปี แต่ว่าความจริงๆสามปี ระหว่างนั้นผมก็ทบทวนตัวเองตลอดมาว่าผมชอบที่จะเป็นทนายความหรือไม่ ในขณะเรียนนิติศาสตร์บัณฑิตและเนติบัณฑิต ประมวลกฎหมายของผมทุกเล่มจะเขียนว่า “ข้าฯจะเป็นผู้พิพากษาให้ได้” และภาพถ่ายรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมเขียนไว้ว่า “ความสำเร็จของลูก คือความสุขของพ่อแม่” ให้กำลังใจตัวเองที่จะทำให้พ่อแม่มีความสุข

ผมเลือกที่จะรับราชการ แต่ว่าความสร้างสมประสบการณ์ไปก่อน ในเบื้องต้นอัยการไม่ได้อยู่ในเป้าหมายที่ผมจะเป็น ผมอยากมีเกียรติมีศักดิ์ศรี อยากให้เขาเรียกว่า “ท่าน” เพราะสมัยผมเป็นเด็ก ใครเรียกชื่อผมเฉยๆผมจะไม่หันไปทักทาย ถ้าจะคุยกับผมต้องเรียก “คุณบัณฑูร” เท่านั้น ฮา… แต่แล้วผมก็เกิดความรู้สึกขัดแย้งกับตัวเอง เพราะนิสัยของเราไม่ได้อยากใหญ่กว่าชาวบ้าน เราไม่ชอบนั่งบนหอคอยงาช้าง เราชอบลุยแบบถึงลูกถึงคน แต่แล้วดวงพาวาสนาส่งที่จะได้เป็นอัยการ เมื่อสอบเนติบัณฑิตได้ในสมัย ๓๔ ในปี ๒๕๒๔ อัยการเปิดสอบปี ๒๕๒๕ ประกาศผลปรากฏว่าผมสอบได้และรายงานตัว ๑ กรกฎาคม ๒๕๒๖ เป็นการบรรจุรุ่นแรกในสามรุ่น

ผมถูกฝึกอยู่ในกรมอัยการ ที่หลักเมือง อยู่ในกอง ๑ มีท่านดิเรก สุนทรเกตุ เป็นหัวหน้ากอง ท่านได้ชื่อว่าเป็นอัยการมือดีมือสะอาดของกรมอัยการในสมัยนั้น วันแรกที่เข้าไปอยู่ในกองที่นั่งแทบจะไม่มี พวกผมกับเพื่อนห้าคนถูกจัดให้ฝึกกับอัยการรุ่นพี่สามท่าน แต่ท่านไม่ให้ออกไปว่าความ แต่ให้นั่งอ่านระเบียบกรมอัยการเกี่ยวกับเรื่องการทำงาน ท่านให้อ่านอยู่ ๑ เดือน พวกที่ผ่านกอง ๑ ไปจะแม่นระเบียบทุกคนเพราะนั่งอ่านแต่ระเบียบทุกวัน ฮา…เห็นเพื่อนได้ออกไปว่าความกระเหี้ยนกระหืออยากออกไปว่าความบ้าง แต่ท่านบอกว่าไม่ว่าคุณจะเป็นทนายฝีมือดีมาจากไหน คุณก็ต้องอ่านระเบียบให้เข้าใจ ตอนนี้คุณมารับราชการ คุณมาเป็นอัยการ การทำงานไม่เหมือนทนายความ ถึงเวลาผมจะให้คุณไปว่าความเอง จ๋อยกันไปตามระเบียบ…อิอิ

อยู่ในกอง ๑ มีอยู่วันหนึ่งตำรวจมาพบท่านเอาซองขาวมาให้ ท่านถามว่าอะไรเขาบอกว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ต้องหาให้มา ท่านเรียกเจ้าของสำนวนให้ไปพบแล้วพูดดังๆว่า นี่ตำรวจเขามาพบและเอาเงินมาให้แสนหนึ่ง คุณจะรับไหม ถ้ารับก็เอาไป ถ้าไม่รับดูให้ดีว่าคดีนี้ควรสั่งฟ้องหรือไม่ อัยการรุ่นพี่เจ้าของสำนวนตอบดังๆว่าไม่รับครับ ท่านก็หันไปพูดกับตำรวจว่าที่กองนี้เขาไม่รับเงินกันหรอก ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีก ท่านไม่ต้องบอกไม่ต้องสอนพวกเราถึงเรื่องนี้อีกเลย วิธีการนี้เห็นชัดว่าเมื่อหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิกครับ อัยการท่านไหนทำท่าไม่ดีท่านก็จะจ่ายสำนวนง่ายๆไม่ให้ต้องไปว่าความ ผมนั่งสังเกตวิธีการทำงานไปเรื่อย นึกในใจว่า เออ…อัยการมันต้องยังงี้ อย่าให้เขาเอาเงินฟาดหัวได้ ศักดิ์ศรีเราจะเป็นอย่างไรเมื่อรับเงินพวกนั้นมาบำรุงชีวิต ชีวิตเราจะเป็นสุขหรือ

ทุกวันเวลาผมเซ็นชื่อลงเวลามาทำงาน ผมเห็นหัวหน้ากองลงเวลา ๐๖.๓๐ น. ผมนึกในใจว่าข้าราชการที่ไหนก็เหมือนกันใครมาก่อนก็มักเซ็นชื่อเผื่อคนอื่น หัวหน้ากองเราก็เซ็นเผื่อลูกน้องเหมือนกัน อิอิ แต่ที่ไหนได้ เป็นอัยการผู้ช่วยต้องไปนอนเวรเหมือนข้าราชการอื่น วันที่ผมนอนเวรผมตื่นหกโมงเช้า หน้าต่างห้องนอนเวรมองไปที่ประตูกอง ๑ ได้ชัด เวลา ๖.๓๐ น.ผมรอดูอยู่ ผมเห็นหัวหน้ากองเดินมาเปิดประตูกองเข้าไปนั่งทำงาน ผมนึกขอโทษท่านในใจ ผมไม่รู้จักท่านดีพอ ผมตั้งใจว่าผมจะฝึกงานทุกอย่างในกองนี้ให้เต็มที่เพื่อเรียนรู้การเป็นอัยการที่ดีจากท่านให้ได้ ผมมีท่านเป็นแม่แบบที่ดี

ผมมีติวเตอร์ที่เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของท่านดิเรกฯ ชื่ออรรถพิทย์ ณ นคร หรือพี่แดง ท่านเป็นคนพูดเร็วแต่เขียนสำนวนยาวเฟื้อย เพราะท่านหัวหน้ากองเป็นคนละเอียด ผมก็เลยติดวิธีการเขียนสำนวนอย่างละเอียดจนปัจจุบัน ซึ่งมีผลให้ผมรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาสองสามครั้งด้วยความมีเหตุผลในสำนวน แต่ความเป็นคุณละเอียดทำให้ผมถูกเรียกไปพบท่านฝ่าย(อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา) ผมก็งงว่าผมทำผิดอะไรก็เลยไปเรียนหัวหน้ากองว่าท่านฝ่ายฯ เรียกผมไปพบ ท่านบอกว่า “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไปให้ผมโทร.ไปก่อน” ได้ยินเสียงท่านพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอกพี่ ผมสั่งผู้ช่วยให้เขียนเองครับ เพราะจะฝึกให้เขารอบคอบในการทำงานเท่านั้น” สักพักท่านวางหูแล้วบอกว่าเสร็จแล้วไม่ต้องไปแล้ว ฝ่ายฯเรียกไปเพราะผมเขียนสั่งสำนวนละเอียดยิบถึงขนาดว่า พนักงานสอบสวนสรุปความเห็นว่าอย่างไร ผู้กำกับว่าอย่างไร ท่านฝ่ายเห็นว่าเยิ่นเย้อไม่จำเป็น แต่เมื่อท่านฝ่ายทราบวิธีฝึกผู้ช่วยของหัวหน้ากองผมก็รับได้ เรื่องนี้จบลงด้วยความละเอียดจริงๆ อิอิ

ต่อมาผมได้รับอนุญาตให้ไปว่าความคดีแรก ผมจำได้แม่นยำมากเพราะว่าความด้วยความตั้งใจ เตรียมคำถามไปก่อนล่วงหน้า แถมยังเตรียมด้วยว่าถ้าผมเป็นทนายจำเลยผมจะถามอย่างไร ผมจะวางแผนป้องกันจุดอ่อนของคดีอย่างไร คดีนั้นเป็นคดีวัยรุ่นสองคนถูกแทงที่ถนนราชดำเนิน ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ไปนั่งทานอาหารแล้วถูกพวกจำเลยซึ่งมี ๔-๕ คนเขม่นชกต่อยเตะ ถีบ กระทืบ ทำร้ายแล้วใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายไปหนึ่งคน ส่วนอีกคนหนึ่งแพทย์ช่วยไว้ทันรอดชีวิต ได้คนนี้ซึ่งเป็นพี่ผู้ตายและเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความ

ผมก็ว่าความละเอียดยิบ ถามรายละเอียดถึงขนาดว่าพี่ถูกทำร้ายอยู่มุมหนึ่งห่างจากน้องประมาณ ๔-๕ เมตร มีแสงสว่างมองเห็นกัน เห็นน้องถูกแทงทรุดลงไปกองกับพื้น ตัวพยานจะเข้าไปช่วยก็ถูกแทง ด้วยความเป็นห่วงน้องจะเข้าไปช่วยน้องก็ถูกแทงทรุดลงไปกับพื้น พยานคลานไปหาน้องเพียงแค่ได้แตะมือน้องก็ได้ยินเสียงว่าตำรวจมาก พวกจำเลยซึ่งจำหน้าได้ทุกคนพากันวิ่งหลบหนี ตำรวจก็ช่วยพาพยานไปโรงพยาบาลเข้ารับการรักษาได้ทัน พยานปากนี้ชี้ตัวคนร้ายได้ทุกคน ผมก็สรุปว่าหมดคำถามแล้ว กำลังจะเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ ลูกพี่ก็กระตุกเสื้อครุยแล้วบอกว่าถามอีกนิดสิว่าปกติพยานสวมแว่นสายตาหรือเปล่า พอถามคำถามนี้พยานตอบว่าผมสายตาปกติไม่ได้สวมแว่นครับ ผมก็นึกว่าจบได้แล้ว ถามได้เจ๋งแล้ว ลูกพี่กระตุกครุยอีกที ถามอีกสักนิดว่าตอนถูกแทงสายตาพร่าไหม เพื่อให้เห็นว่าจำหน้าคนร้ายได้ชัดเจนแจ่มแจ้งไม่มีอะไรให้เป็นข้อสงสัย ถ้าขูดหนังพยานได้ก็คงเลือดซิบๆแหละครับ ฮา….พยานปากนี้ทนายจำเลยถามค้านนานมากแต่ถามไม่แตกครับ

พยานคนต่อไปเป็นพ่อผู้ตาย ผมถามความไปตามรูปคดีแล้วถามว่าวันนี้คุณแม่ผู้ตายไม่มาด้วยหรือ คุณพ่อเขาตอบว่ามาไม่ได้แล้ว (น้ำตาคลอ)เขาตายแล้ว ตรอมใจที่ลูกที่ถูกแทงตายเป็นเด็กเรียบร้อยติดจะเป็นกระเทยเสียด้วยซ้ำ ยังมาถูกแทงตาย นอนร้องไห้คิดถึงลูกหลายคืน แกเพิ่งผูกคอตายเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ผมแถลงจบคำถาม ทนายจำเลยลุกขึ้นมาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วบอกศาลว่า “ไม่ถามครับ”

ออกจากห้องพิจารณามา ทนายจำเลยถามผมว่าไอ้น้อง ก่อนมาเป็นอัยการนี่เป็นทนายมาก่อนหรือเปล่า ผมตอบว่าครับพี่ เขาก็พูดต่อว่า โอ้โห เอ็งเล่นถามแบบนี้จูงใจศาลนี่หว่า นึกแล้วว่าต้องเป็นทนายเก่า พี่ถามไม่ออกเลยว่ะ ติดคุกแน่ไอ้นี่…ฮา..และคดีนี้ศาลตัดสินจำคุกจำเลยทุกคน (ยังไม่จบง่ายๆหรอก อิอิ)

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : ผมว่าความแพ้….

Next : ออกไปลุยต่างจังหวัด » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

11 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.25212097167969 sec
Sidebar: 2.2356419563293 sec