รัฐบาลปล้นประชาชนแบบเงียบเชียบ?

โดย withwit เมื่อ 19 February 2012 เวลา 11:40 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1269

 

 

ผมพอเข้าใจได้ว่า ทำไมพลันที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้ามาทำงาน สิ่งแรกที่ทำคือ ลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 ให้เหลือร้อยละ 23 ในปี 2555 และลดลงร้อยละ 20 ในปี 2556 โดยอ้างง่ายๆว่า เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ

 

ที่ว่า “พอเข้าใจได้” ก็คือว่า มันเป็นประโยชน์ต่อกิจการค้าของวงศาคณาญาติของคนในรัฐบาล เท่ากับว่าแต่ละปีบางบริษัทอาจ “ได้กำไร” ภาษีขึ้นมาปีละหลายพันล้านทีเดียว

 

ที่ผมงงมากๆคือ สื่อสารมวลชนมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้น้อยมาก  แต่ที่งงมากที่สุดคือพรรคฝ่ายค้านเองก็ค้านน้อยมาก

 

วันนี้ผมเริ่มจะหายงง  อ๋อ..ไอ้พวกสื่อสารมวลชนมันก็ทำการค้า มันก็ได้ประโยชน์จากการนี้ด้วย   ส่วนพรรคฝ่ายค้านนั่นเล่า อ๋อ..ก็พวกพ่อค้าเสียมาก อีกทั้งพรรคฝ่ายค้านเองก็ได้รับเงินบริจาคจากพ่อค้ามากหลาย ถ้าไปค้านพรบ.ลดภาษีนี้เข้า พ่อค้าที่บริจาคเงินก้อนเล็กและก้อนโตเขาคงโกรธแน่

 

งานนี้เท่ากับรัฐบาลปล้นเงินชาติ โดยการสมรู้ร่วมคิดของทุกฝ่าย คือ สื่อ และพรรคฝ่ายค้าน ได้ไหม ถ้าได้แบบนี้ฟ้องศาลปกครองได้ไหม ขอให้พรบ.นี้เป็นโมฆะ  เพราะมันเข้าข่ายประโยชน์ซ้อนทับอย่างรุนแรง

 

ถามว่าชาติเสียหายเท่าไร  ผมไปค้นข้อมูลมาทราบว่าขณะนี้ (พศ. ๒๕๕๔) รัฐเก็บภาษีจากนิติบุคคลได้ประมาณปีละ 3.9 แสนล้านบาท ถ้าลดจากปัจจุบันในอัตรา 30 ไปเหลือ 20 รัฐจะสูญเสียรายได้ภาษีส่วนนี้ไปประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเงินไม่น้อย เกือบ 10% ของรายได้รัฐบาลนั่นเทียว  แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาทำงบประมาณที่ก็ไม่พอใช้อยู่แล้ว

 

ประเทศไทยมีรายได้ประชาชาติประมาณ 10 ล้านล้านบาท ดังนั้นเท่ากับว่าเรามีรายได้จากภาษี นิติฯ 3.9% ถือว่ามีรายได้ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานโลก ที่จะมีค่าประมาณ 3.5% (ผมไปค้นมาอีก)   ผมเข้าใจว่าภาษีนี้มาจากบริษัทต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ เพราะบริษัทพวกนี้มีรายได้ถึง 70% ของรายได้ประชาชาติทั้งหมด (คือ 7 ล้านล้านนั่นเอง)

 

แม้ต่างชาติจะต้องเสียภาษีในส่วนนี้ค่อนข้างสูงแต่พวกเขาก็ไม่บ่นสักกะหน่อย เห็นยังทะลักเข้ามาลงทุนกันจนประเทศไทยจะถล่มอยู่แล้ว

 

ดังนั้นถ้าจะลดภาษีจริงๆ ทำไมไม่ลดเฉพาะบริษัทของคนไทยเท่านั้น ส่วนต่างชาติเก็บเท่าเดิม  ..หรือนี่แสดงว่าทีมงานเศรษฐกิจชุดนี้ของเรามันทึ่ม จนทำให้ชาติเสียหายหลายแสนล้าน

 

อีกทั้งข้ออ้างที่ว่าต้องการให้บริษัทไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก แล้วผมถามว่าสัดส่วนของรายได้ของบริษัทไทย(ไม่นับต่างชาติ)ที่ขายในประเทศกับขายต่างประเทศเป็นเท่าใด ตัวเลขนี้ผมยังไม่ทราบ แต่เดาว่าขายในสัก 80 ส่งนอกสัก 20 โดยเฉพาะพวกอสังหาริมทรัพย์นั้นมันขายในประเทศล้วนๆ ไม่มีส่งออก ดังนั้นถ้าอ้างการแข่งขันกับต่างชาติก็ควรลดให้เฉพาะบริษัทไทยที่ทำการส่งออกเท่านั้นสิ ส่วนบริษัทไทยที่ขายในไทยก็ไม่ต้องลดเพราะแข่งขันกันเองด้วยกติกาที่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว

 

 

แต่เอ๊ะ..ถ้าทำแบบที่ผมว่ามา บริษัทไทยที่เป็นวงศาคณาญาติของคนในรัฐบาลก็ไม่ได้รับส่วนลดสิ

 

ผมอยากฝากให้นักเศรษฐศาสตร์ไปทำการวิจัยกันดูหน่อยว่า หลังจากรัฐประกาศลดภาษีนิติฯลงมา สินค้ามีราคาลดลงบ้างไหม (ตามหลักการค้าเสรีมันควรลดลง เพราะเสียภาษีน้อยลง กำไรมากขึ้น ก็เอาส่วนนี้มาตัดราคาลงเพื่อการชนะในการแข่งขัน)  แต่ผมดูจากก๋วยเตี๋ยวมันน่าตกใจว่ามันขึ้นพรวดเอาพรวดเอา ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ก๋วยเตี๋ยวขึ้นจาก 20 บาท เป็น 35 แล้ว คิดเป็น 75% …มันน่าตกใจมากๆ

 

ส่วนบ้านจัดสรร รถยนต์นั้นไม่ทราบ แต่พวกผู้เล่นรายใหญ่ๆแบบนี้เขามักมีสมาคม (ฮั้ว) ผมเดาว่ายากส์ที่ราคาจะลด นอกเสียจากมีกลไปแทรกซ้อนอื่น เช่น น้ำท่วม ทำให้ดีมานด์ลดลง  ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นเงินกำไรภาษีที่ลดลงนั้นก็ “หวานหมู” ของกลุ่มคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีคู่แข่งที่แข็งแรง เช่น พวกได้รับสัมปทาน  

 

 

…คนถางทาง (๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕)

« « Prev : เหลื่อมล้ำอย่างเท่าเทียม

Next : แก้มลิง..วิจารณ์นโยบายแก้น้ำท่วมรัฐบาล ๓ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "รัฐบาลปล้นประชาชนแบบเงียบเชียบ?"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.56419706344604 sec
Sidebar: 0.150062084198 sec