มารยาท หรือ มายาราด…ขมิบไว้เพื่อไทยเจริญ
คนมีมารยาทดี พูดจานุ่มนวล ไม่กร้าว ไม่ร้าว เดินค้อมๆ ตามหลังผู้ใหญ่ (ที่ตามก้นกำนันและนายอำเภออีกต่อ)
ยิ่งถ้าเอาใจเก่ง หมาก็ยิ่งไม่กัด แถมกระดิกหางเดินแถวต่อท้าย
คนแบบนี้ สังคมไทยไปโลด
มารยาท หรือ มายาราด ..มันออกเสียงคล้ายๆกัน
ถ้ามันออกมาจากใจจริงก็คงดี แต่บางทีมันมาจากการฝึกฝน เล่นกลทางสังคม
ปั้นหน้า กลั้นอด ไปถึงกลั้นตด (กลัวว่าจะเสียมารยาท)
ขนาดเข้าส้วมสาธารณะ ลองฟังเสียงดู
ส้วมฝรั่งมันปล่อยกันสุดๆ ปรู้ด ปร้าด วี๊ด ตุ้มๆๆๆ เสียงดังสนั่น แถมกลิ่นตุๆให้ดมฟรีๆ
ส่วนไทยเรา ขมิบ กลั้นเสียง แม้ปวดสุดๆ จนขนลุกไปหมด แล้วเปิดชักโครกกลบเสียง
นี่มันส่อถึงอะไร …โปร่งใส ตรวจสอบได้ มารยาทสังคมที่ปิดบัง ที่ขมิบไว้เอาไปปล่อยลับหลัง
พอเก็บกดเอาไว้ยามอยู่ต่อหน้า ก็เอามานินทากันลับหลัง หรือเอามา”คิดบัญชี”กันด้วยอาการป่วยแบบไข้โป้ง ส่วนฝรั่งมันโซ้ยกันต่อหน้าด้วยวาจาแบบตรงๆ ปลดปล่อยอารมณ์กันไปให้แจ้งๆ ก็เลยไม่ต้องมาแทงกันลับหลัง
สำหรับผม ถ้าพอมีสติ ผมจะใช้คาถามาม่าของผมที่ฟังมาจากยายขอมแห่งลโวทยฺปุระอีกต่อ..ว่า…
ด่าให้ด่าต่อหน้า ชมให้ชมลับหลัง
สมัยผมเป็นผู้น้อย ผมด่าแมร่นแหลก ต่อหน้า กลางลาน โดยเฉพาะนายใหญ่ๆ คนเกลียดผมตรึม (โดยเฉพาะไอ้พวกลูกน้องของไอ้นายใหญ่)
..อยู่มาวันหนึ่งพอผมเป็นนายใหญ่ มีลูกน้องมาสารภาพว่า เมื่อก่อนเกลียดผมมากๆ ทำนองว่ายิ่งกว่าคี่ แต่วันนี้รักสุดๆ เพราะเพิ่งเข้าใจ
(ผมก็ได้แต่นึกในใจว่า don’t cry for me เลยนะฉันทนา)
คาถาอาม่าผมมันขลังจริงๆ
แต่อย่างว่าแหละ ผมมักเป็นคนที่ทำคุณคนไม่ค่อยขึ้น มักถูกชมต่อหน้าแล้วนินทาลับหลังให้ได้แว่วยินเสมอ ..
อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย (แม้ท่านภู่ก็ยังว่า)
อันชะอมขมลิ้นแล้วสิ้นไป
แต่ขมใจด้วยลมปากยากจะลืม (คนถางทาง มาต่อ ล้อเลียนไว้..ตามสะไต คนเกิด วันเดียวกัน)
« « Prev : ขอเชิญร่วมบริจาคปัญญาฝากไว้ให้ลูกหลาน
Next : ปลาทูนึ่งและไก่ปิ้ง » »
3 ความคิดเห็น
ขมิบ อั้นตด ถือเป็นวัฒนธรรมไทย จึงแก้ยาก ที่จะให้ไทยตดเปิดเผย อายตายเล๊ยยยยยยย
งั้นก็แฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลังค่ะอาจารย์
แล้วลูกน้องอาจารย์รู้จักคาถาอาม่าของอาจารย์ตั้งแต่เมื่อไหร่่เหรอคะ เดาว่าคงก่อนหน้าที่จะรับสารภาพแป๊บนึงนะคะ
ลูกน้องคนนี้แกเถียงนายฉอดๆ ไม่เคยชมนายเลย ยิ่งตอนเราละอ่อนเข้ารับหน้าที่ใหม่มีหนังสือให้เกษียณวันละประมาณ 200 เกษียณไปเบลอๆ เธอก็เข้ามาดุฉอดๆ อยู่กันมาสองปี ก่อนจะลาออกจากหน้าที่ เธอจึงให้ของขวัญชิ้นนี้ เพราะว่าหมดอำนาจในการบัญชาเธอแล้ว
ก่อนจากกันเธอเข้ามาลา แล้วบอกว่าอาจารย์หมดหน้าที่แล้ว แต่หนูก็ยังเป็นลูกน้องอาจารย์ตลอดไปนะคะ มีอะไรเรียกใช้ได้เสมอ (แหมมาหวานแหววเอาตอนจบ ที่ตอนอยู่ได้แต่ตะแว้ดๆ ) ลูกน้องคนนี้ถ้าผมมีอำนาจมากๆ ต้องเรียกตัวมาใช้แน่ๆ เธอมืออาชีพมากๆ เธอเป็นหัวหน้าสำนักเลขาของผม มีลูกน้องใต้เธออีก 20 คน ทำงานมือระวิงเพื่อกรองเรื่อง 200 เรื่องขึ้นมาให้ผมเกษียณแต่ละวัน