แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง
ทราบมาว่าทุกวันนี้ระบบการศึกษาไทยเขารังเกียจการเรียนแบบท่องจำ (ตามก้นฝรั่ง) โดยเฉพาะท่องอาขยาน สูญพันธุ์ไปหมดแล้วจากรร.ประถม มัธยม ซึ่งผมขอคัดค้านอย่างรุนแรง
เหตุผลของผมมีหลายประการ..เช่น
หนึ่ง การท่องอาขยานเป็นการพัฒนาสมองในด้านความจำ เราต้องอย่าไปเห่อการคิดวิเคราะห์จนเกินการณ์ไป การวิเคราะห์จะทำไม่ได้ดีถ้าจำอะไรไม่ได้เลย …เพราะคนจะวิเคราะห์เก่งได้ต้องจำเก่งก่อน
คนเราจะวิเคราะห์อะไรได้ หากจำอะไรไม่ได้เลย เช่นแม่สูตรคูณ สูตรฟิสิกส์ g=32.2 และความสอดคล้อง เชื่อมโยงของการจำเหล่านั้น ซึ่งคนแต่งกลอนเก่ง ก็เชื่อมโยงเก่ง …นี่ไง สมองขวา เชื่อมกับสมองซ้าย ที่ไอ้พวกเอี้ยไม่เคยคิดกันออก
สอง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ที่บรรพชนแต่งไว้ คืออารยธรรมและมรดกที่ล้ำค่าที่สุดของชาติไทยก็ว่าได้ เพราะเรานำโลกทางด้านนี้เพียงด้านเดียวเท่านั้นก็ว่าได้ ถ้าเราไม่ส่งทอดต่อไปยังเด็กๆ ก็เท่ากับว่าเรากำลังทำลายมรดกนี้อย่างโง่เง่าที่สุด
การท่องกลอนร่วมกันได้เป็นสิ่งที่ร้อยรัดความเป็นไทยเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียนที่สุด ไม่เชื่อไปหาฟังตามงานเลี้ยงรุ่นของคนแก่ๆได้เสมอ
สาม การท่องกลอน จะช่วยพัฒนาสมองด้านขวา เอามาเสริมสมองด้านซ้าย (การวิเคราะห์) ซึ่งจะทำให้เด็กของเรา คิดอะไรคิดรอบด้าน และคิดเก่งกว่าคนอื่นในโลก
สี่ จะช่วยพัฒนาเด็กให้โตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่ใช่เนื้อหนังที่ถูกโปรแกรมอัตโนมัติ (Automaton)
อาขยานวัยเด็กที่ผมชอบมากที่สุด ที่ระลึกได้ในวันนี้คือ กลอนชมนก (สงสัยจะเป็นอินทรวิเชียรฉันท์ 16 หรือว่าเป็นกาพย์ยานี หรือกาพย์ฉบัง ก็ไม่ทราบ วานท่านผู้รู้ช่วยเฉลยด้วยครับ )
……
กะลิงกะลางนางนวลนอนเรียง พญาลอคลอเคียง
แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง
ค้อนทองเสียงร้องป๋องเป๋ง เพลินฟังวังเวง
ซอเจ้งจำเรียงเวียงวัง
ยูงทองร้องกระโต้งโห่งดัง เพียงฆ้องกลองระฆัง
แตรสังข์กังสดารขานเสียง
ช่างไพเราะจับใจ และเป็นแรงบันดาลใจในหลายเรื่องไม่รู้สร่างมาจนบัดนี้
ไอ้ใครหนอที่มันเป็นคนสั่งการให้เลิกการท่องอาขยานในโรงเรียน ใครรู้ช่วยบอกที ผมจะได้จำชื่อไว้บอกลูกหลานต่อไป
…ดำเนินทราย (พศ. ๒๕๔๐)
« « Prev : นายปรีดีกับทหารเรือ…ความสัมพันธ์ล้ำลึกที่ประวัติศาสตร์ลืมจารึก (ตอนที่ ๑)
Next : ไทยโง่รำพัน (๑)…เยิงเข้าไป » »
ความคิดเห็นสำหรับ "แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง"