นายปรีดีกับทหารเรือ…ความสัมพันธ์ล้ำลึกที่ประวัติศาสตร์ลืมจารึก (ตอนที่ ๑)

โดย withwit เมื่อ 24 June 2011 เวลา 9:43 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2059

นายปรีดีกับทหารเรือ…ความสัมพันธ์ล้ำลึกที่ประวัติศาสตร์ลืมจารึก (ตอนที่ ๑)

 

นายทหารเรือในยุค พศ. ๒๔๗๕ นั้น ดูเหมือนว่าเป็นนายทหารที่มีหัวก้าวหน้าทางการเมืองเป็นอย่างมาก อาจเป็นเพราะว่าต่างก็จบการศึกษามาจากยุโรป เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส   ดังจะเห็นได้ว่าในประดาสมาชิกคณะราษฎ์นั้น มี “ทหาร” เรืออยู่หลายคนทีเดียว (เฉพาะพวกกล้าแสดงตัว)

 

 

ปัญญาชนคนทหารเรือช่วงนั้น มี นาวาตรี หลวงสินธ์สงครามชัย เป็นต้น (ซึ่งจบมาจากฝรั่งเศส น่าจะเป็นเพื่อนสนิทกับนายปรีดี ..หลวงสินธิ์ฯนี้แต่งตำราตรีโกนฯทรงกลมได้ดีนัก ผู้เขียนเองยังมีโอกาสได้เรียนวิชานี้จากตำราที่ท่านเขียนไว้แต่ก่อนกึ่งพุทธกาล (เรียนเมื่อพศ. ๒๕๑๕ ขณะเป็นนักเรียนนายเรือ ปีที่ ๑…โคตรยากส์)

 

เดาได้ว่า ทหารเรือรุ่นโน้น  มีจิตใจเสรีประชาธิปไตยสูงมาก (โน้มตามผู้นำกองทัพ)  จนกลายเป็นกองทัพที่ค้ำจุนกิจการประชาธิปไตยของนายปรีดี พนมยงค์… อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

 

ดังจะเห็นได้ว่า..นายทหารประจำตัวนายปรีดีก็เป็นทหารเรือทั้งสิ้น  จนติดร่างแหคดีลอบปลงพระชนม์ตามที่ถูกใส่ร้ายจากฝ่ายตรงข้ามไปตามๆกัน

 

จวบจนถึงวาระสุดท้ายทางการเมืองของนายปรีดี เมื่อ ๒๖ กุมภา ๒๔๙๒ ทหารเรือก็ร่วมก่อการยึดอำนาจรัฐกับท่านปรีดี  โดยมีพลเรือตรี ทหาร ขำหิรัญ (ผบ. กองกำลังนาวิกโยธิน)  เป็นแกนนำ ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่ล้มเหลว จึงกลายเป็น “กบฏ” ในที่สุด (เรียกกันว่า “กบฏวังหลวง”)

 

บุญของประเทศไทยคงทำมาน้อย จึงปล่อยให้กบฏนี้ไม่สำเร็จ เพียงเพราะน้ำลงที่ปากแม่น้ำบางปะกง ทำให้ทหารนาวิกโยธินจากสัตหีบเข้ามาเสริมกำลังในพระนครไม่ทันกาล

 

ในขณะกุมอำนาจบริหารประเทศ ก่อนพศ. ๒๔๙๐  แม้ในระยะอันสั้น แต่นายปรีดีก็ดูเหมือนว่าได้มอบให้ทหารเรือเป็นแกนนำในการสร้างรากฐานอุตสาหกรรมให้แก่ประเทศไทยมากหลาย (ไม่มีเอกสารอ้างอิง ..ได้ยินมาจากทหารเรือรุ่นก่อนๆ บอกกันต่อมา) … เช่นการจัดตั้ง องค์การอาหารสำเร็จรูป (อสร. ..หรืออาหารกระป๋องนั่นเอง…เป็นครั้งแรกของประเทศไทย)  องค์การแบตเตอรี่ องค์การเชื้อเพลิง โรงงานไม้อัดไทย (บางนา)  โรงงานแก้ว โรงงานกระดาษ เป็นต้น ล้วนจัดตั้งโดยนักวิชาการทหารเรือไทยทั้งสิ้น …ยังไม่นับหอดูดาว ท้องฟ้าจำลอง กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมอุทกศาสตร์ (อันหลังนี้ยังเป็นของทหารเรือจนทุกวันนี้)

 

ถือได้ว่านายปรีดีเป็นผู้บริหารประเทศเพียงคนเดียวที่มีวิสัยทัศน์ด้านอุตสาหกรรม และด้านวิชาการแบบ “ไทยทำไทยใช้ไทยเจริญ”  ซึ่งแม้จนทุกวันนี้ (พศ. ๒๕๕๒) ก็ยังขาดวิสัยทัศน์อันสำคัญยิ่งนี้ โดยคิดทำกันง่ายๆแต่เพียงแบมือขอให้ต่างชาติมาช่วยทั้งด้านสมองและกำลังเงิน

 

นี่หากว่าประวัติศาสตร์การเมืองไทยยุคนั้นพลิกผันจนนายปรีดีผู้มีทั้งวิสัยทัศน์และคุณธรรมได้กุมอำนาจบริหารประเทศในช่วงนั้นเป็นเวลานาน ..ป่านนี้ประเทศไทยเราอาจพัฒนาเทียมบ่าไหล่ญี่ปุ่นแล้วก็เป็นได้ โดยมีทหารเรือเป็นแกนนำในการปฏิบัติ

 

 อย่าลืมด้วยว่าประเทศพัฒนาแล้วทุกวันนี้ล้วนแต่พัฒนามาได้ด้วยการทหารเป็นแกนนำทั้งสิ้น ไม่ว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อเมริกา หรือ ญี่ปุ่นก็ตาม ..จะมีแต่ประเทศเราเท่านั้นแหละที่หาว่าทหารมันโง่ (มันก็เลยแกล้งโง่ให้สมใจไปเสียเลย เช่น ไปตีกอล์ฟ ออฟแคดดี้ แทนที่จะเอาพลังมาสร้างประเทศแบบคนอื่นเขา )

 

          นับแต่ปฏิบัติการยึดอำนาจรัฐที่ไม่สำเร็จของพลเรือตรีทหาร และ ท้ายสุดปฏิบัติการแมนฮัตตัน ของนายทหารเรือชั้นผู้น้อย บทบาทของทหารเรือที่ค้ำจุนประชาธิปไตยก็ถูกลดทอนลงเป็นลำดับ ส่งผลให้การเมืองไทยขาดการถ่วงดุล ทำให้ทหารบกมีอำนาจมากขึ้นและกุมอำนาจการเมืองแบบเผด็จการเป็นเวลายาวนานถึงประมาณ 25 ปี (จอมพลแปลก จอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม พลเอกเปรม ) 

 

ช่วงเวลาดังกล่าว กินเวลาประมาณ 30 ปี นับเป็นช่วงสะดุดของการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะด้านปัญญา  ส่วนการเมืองเราถูกครอบงำโดยสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน ไม่สามารถคิดเองทำเองในสิ่งใดได้เลย รวมทั้งต้องเป็นฐานทัพและเข้าร่วมรบในสงครามเวียตนามกับมหามิตรนี้ด้วย (ไนท์คลับ บาร์ อาบอบนวด ก็เกิดขึ้นและเบ่งบานในช่วงนั้น เพื่อรองรับการ rest and relaxation ของเหล่าทหารผู้มีเงินสกุลดอลเต็มกระเป๋า จนแพร่สะพัดอยู่เป็นเสนียดแก่สังคมไทยจนทุกวันนี้)

 

ผู้เขียนเชื่อว่าหากนายปรีดีและทหารเรือทำการปฏิวัติได้สำเร็จ และยังคงกุมอำนาจรัฐอยู่ในช่วงนั้น ประเทศเราจักไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างเช่นนั้นแน่นอน และเชื่อว่าสังคมไทยวันนี้จะต้องดีกว่าปัจจุบันนี้แน่นอน

 

อนิจจา…ทหารเรือ ถ้าจะเข้มแข็งกว่านั้นสักนิดอาจช่วยประเทศได้มากอักโขทีเดียว

 

…ทวิช จิตรสมบูรณ์ (นนร. รุ่น ๗๐)

 

« « Prev : นโยบายพรรคการเมืองคิดมาให้แจกฟรี (จะมีใครรับไหมหนอ)

Next : แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 June 2011 เวลา 1:03 am

    เอาประวัติศาตร์มากระตุกบ้างก็ดีนะครับ

  • #2 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 June 2011 เวลา 3:58 am

    ดีแน่ครับพี่บางทราย…ภาษิตฝรั่ง(ที่ดีๆ) สอนว่าว่า those who don’t study history are condemned to repeat it.

    (ต้องเอาภาษาอังกฤษมาขู่กันบ้างโนะพี่ ไม่งั้นคนไทยมันไม่สนกันหรอก มันสนแต่อนาคตอันบรรเจิดตามที่ฝรั่ง(กระจอกบางคน) มันสอน)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.13191699981689 sec
Sidebar: 0.012051820755005 sec