คิดถึงเตี่ย (๒)..คนสวนเพี้ยน
เตี่ยเล่าว่า แท้จริงแล้ว วิญญาณเกิดในเมืองไทย เพราะคุณแม่ตั้งท้องในเมืองไทย แต่ไปคลอดในเมืองจีน เพราะคุณแม่ไม่ไว้ใจการแพทย์ของเมืองไทยในการทำคลอด (นี่แสดงว่ารวยมากทีเดียว มีเงินเดินทางไปทำคลอดแบบนี้)
ก็เลยพำนักอยู่เมืองจีนจนอายุได้ประมาณห้าขวบ จึงย้ายมาอยู่เมืองไทย อีกครา
นอกจากการคิดค้นอุปกรณ์วิศวกรรมต่างๆ แล้ว เตี่ยยังคิด และสร้างอุปกรณ์อะไรจิปาถะอีกมากหลาย จนลูกๆ ทั้งห้าคน ตั้งฉายาให้ว่า “โดเรมอน”
ห้าคน? …ทั้งที่เตี่ยมีลูก 6 คน …ที่หายไปหนึ่งคือผมเอง เพราะไปอยู่เมืองนอก 18 ปี จนไม่ได้มีส่วนร่วมในการตั้งชื่อกะเขา …โดเรม่อน คืออะไร ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ต้องมาถามเอากับพี่ๆน้องๆ
ตอนแก่ ..เตี่ยหันมาทำสวน ก็มาทำอะไรเพี้ยนๆ อีกหลากหลาย เช่น เอาลำใยเมืองเหนือ มาปลูกที่ภาคตะวันออกเป็นคนแรก ใครๆก็หาว่าเพี้ยน แต่ลำใยปราจีนออกลูกก่อนเชียงใหม่ 1 เดือน ได้ราคาดี เป็นที่ฮือฮา ออกหนังสือ ออกทีวี เป็นว่าเล่น …ในที่สุดได้รับคัดเลือกเป็น พ่อดีเด่นแห่งชาติ รุ่นแรก กะเขาไปด้วย
อยู่กะสวนยุคโน้น ท่านก็ฉีดพ่นสารเคมี ไปตามกระแสโลภาภิวัฒน์ สูดควันอะไรไปมาก รวมทั้งควันบุหรี่ อ้อ ที่ท่านคิดจนได้ลง นสพ. มีอีกอย่างคือเอาไฟล่อแมลง ให้มาตกบ่อน้ำ
สำบุกสำบัน อบร่ำควันทั้งหลายมามากมายอย่างท่าน มีสิริรวมอายุมาได้ ๖๙ ก็นับว่าอยู่มาได้นานพอดู
เตี่ยเล่าด้วยว่า สมัยเป็นเด็กอยู่เมืองจีน เคยพบกับเมาเซตุง ขณะเดินทัพผ่านหมู่บ้าน ท่านและพี่ชายเอาข้าวโพดใส่กระบุงไปขายให้ทหารที่เดินทัพ ปรากฏว่าขายหมด ได้เงินมากหลาย
หมู่บ้านชาวแคะ ตั้งอยู่บนเนินเขา มีกำแพงล้อมรอบ กันโจรปล้น พอหน้าแล้ง ขาดแคลนน้ำ บางทีต้องเอาลูกหญ้ามาต้มกินแทนข้าว บางครั้งต้องรบกับหมู่บ้านข้างเคียงเพื่อแย่งน้ำกัน
ผู้ใหญ่ก็ถือดาบรบกับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กๆ ก็รบกับเด็กด้วยกัน โดยใช้ไม้ และ หิน และ หนังกะติ๊ก (หนังกะติ๊ก?) ยิงเข้าใส่กัน
วันนี้ล็อกอินเข้าไปดูหมู่บ้าน hakka แล้ว โอ้ …มันอลังการ์ จริงๆ น่ายกเป็นมรดกโลกได้เลย เป็นไปตามที่เตี่ยเล่า
…คนถางทาง (พค. ๒๕๕๔)
« « Prev : คิดถึงเตี่ย (๑)..ตะเกียงแก๊สแห่งชีวิต
6 ความคิดเห็น
ขอโทษ ที่สะกดผิด ฮากก้า (แคะ) ต้องสะกดว่า hakka (ไม่ใช่ hagga อย่างที่สะกดตอนต้น) ลองคลิกดู อาจไม่”แคระ” อย่างที่เคยรู้มานะครับ
แคะ กับ แคระ มันต่างกันนะ ผมเคยคุยกับคนจีนใน usa ที่เป็นคนแคะเหมือนกัน เขาบอกว่า เป็นคน เคอะเจี้ย …ภาษาจีนเนี่ย มันหลากหลายจริงๆ แต่ ฮากก้า เนี่ย เป็นภาษากลาง
พระยาอนุมานราชธน เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งของท่าน ทำนองว่า…การจะศึกษาความเกี่ยวข้องระหว่างไทยกับจีน ต้องศึกษาภาษาแคะ กับภาษากวางตุ้ง ซึ่งเป็นภาษาเก่าแก่ที่สุดของจีน
ผมอ่านหนังสือนี่มาแต่เมื่ออายุก่อน 16 ที่ห้องสมุดรร. เตรียมทหาร ภายหลังมาคิดได้ …เออ จริง
เช่น การนับเลข 1-10 ของไทย และจีนแคะ (กวางตุ้งด้วย) คล้ายกันมากอย่างเหลือเชื่อ
หงิด หยี่ ซำ สี่ อึ้ม ดุก ขิด ปัด เก้า ซิบ
หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ
หยี่…ก็คือยี่ ของเรา เช่น เดือนยี่
ดุก กับ หก ก็แม่กก เหมือนกัน
ขิด กับ เจ็ด ก็แม่กด เหมือนกัน แถม tone ก็เหมือนกัน ทังหก และ เจ็ด ส่วน แปด เก้า สิบ นั้น ไม่ต้องถาม
ส่วนเขมร นับแค่ห้า พอ 6 ก็ออกเสียงเป็น ห้า หนึ่ง
เจ็ด เป็น ห้าสอง
แปดเป็น ห้าสาม เก้าเป็น ห้าสี่
คนแคะที่ดังๆ ที่ท่านอาจไม่รู้จ้ก เช่น ซุนยัดเซ็น เต้งเสี่ยผิง ลีกวนยิว ฮูเยาบัง (เลขาธิการพรรคคอมจีนฯ) ทักสิน …และแม่น่างเกยุราฯ
ธักซิน โอ้ …ร่วมสายเลือดกับผมด้วยเลยนะเนี่ย เอ้า เชียร์ส
มาอ่านค่า เขียนต่อๆ อีกค่ะ
อาหารจีนแคะอร่อยนะคะ อย่างเต้าหู้ยัดไส้
สมัยเด็ก เขาเล่าว่าว่าคนแคะคบได้เพราะใจกว้าง ส่วนคนแต้จิ๋วยากจนแต่ซื่อสัตย์ คนไหหลำร่ำรวยแต่ ฯลฯ
สมัยนี้มันคงเปลี่ยนไปหมดแล้วค่ะ
เตี่ยของอาจารย์เก่งนะคะ
อาจารย์ได้รับวิทยายุทธ์ความเก่งด้วย ใช่ไหมคะ
เตี่ยจะมีอะไรคล้ายผมมากคือ ถนัดด้านเทคนิค แต่การค้า ไม่เป็นเอาเสียเลย ทำอะไรเจ๊งหมด เรียกว่าเป็นอาเสี่ยไม่ได้ แต่ถ้าเป็นลูกน้องเขา กินเงินเดือนแหละดี
คล้ายกับผม ที่คิดค้นอะไรได้มากหลาย แต่เอาไปขายไม่เป็น ส่วนบางคน (อ.มหาลัย) มันกลวงมากๆเอาไปขายหาเงินกันได้เป็นสิบ ร้อย บางคนเป็นพันล้าน ก็มี (ภาษีเราทั้งน้าน)