เขื่อนกักความคิด
คนไทยเรานี้แปลก ประเทศทั้งประเทศแสนสกปรก ขยะมูลฝอยเต็มบ้านเมือง คลองก็เน่า ถนนก็สกปรก สายไฟฟ้ารุงรัง สถาปัตยกรรมริมถนนดูไม่ได้ ระเกะระกะไปหมด
แต่พอมาถึงเรื่องมลภาวะจากโรงไฟฟ้า ไทยเราต้องสะอาดที่สุดในโลก นิวเคลียร์ก็ไม่เอา ถ่านหินก็ไม่เอา เขื่อนก็ไม่เอา แต่ว่าใช้ไฟฟ้ากันเป็นว่าเล่น คือจะเอาแต่สบายแต่ไม่ยอมลำบาก นี่คือไทยแท้จริง
ในขณะที่อเมริกาเขาเลิกใช้แก๊สธรรมชาติแล้ว หันมาใช้ถ่านหินเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า ทั้งที่แก๊สสะอาดกว่าถ่านหินมาก แต่เขาถนอมแก๊สเอาไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ในครัวเรือน เช่น หุงต้ม และการทำความอบอุ่นในหน้าหนาว (ประวิงเวลาไว้จนกว่าจะค้นพบเทคโนโลยีใหม่)
แต่ของเรารวยจัด ใช้แก๊สธรรมชาติเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า เท่ากับว่าเราทำตัวเป็นรวยกว่าเมกันเสียอีก เพราะการใช้แก๊สนั้นมันสะอาดกว่าก็จริงแต่มันแพง และมันตัดตอนอนาคตลูกหลานของเราที่จะไม่มีแก๊สใช้หุงต้มในครัวเรือน (ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ)
ผมเห็นว่าเขื่อนน่ะเลวน้อยที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น เพราะมีข้อดีมาก มีข้อเสียน้อย แต่จะสร้างเขื่อนทีไรก็มีคนออกมาเดินขบวนต่อต้านจนพับฐานไปทุกที (ทั้งที่พวกนี้ก็ใช้ไฟฟ้ากันทุกคน…เช่นดูละครน้ำเน่า เข้าเน็ต รีดผ้า ไฟนีออน ตู้เย็น พัดลม แอร์ ปิ้งหนมปัง)
สัตว์บางชนิดเช่น ตัวบีเวอร์ (beaver) ก็สร้างเขื่อนเพื่อกักน้ำ ทำไมไม่ไปเดินขบวนต่อต้านสัตว์พวกนี้กันบ้างเล่าครับ
ผมเห็นว่าในประเทศไทยเรายังมีพื้นที่ดีๆ ที่จะสร้างเขื่อนได้อีกหลายแห่ง เช่น หุบเขาจากแม่สะเรียงลงมาถึง โอบหลวง (อ. ฮอด) เพราะเป็นเขาสูงกั้นทั้งสองด้าน มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน (แม่น้ำแม่แจ่ม) การสร้างจะเสียพื้นที่น้อยมาก แถมได้ความสูงน้ำมาก (ได้ไฟแรง)
แถวอุตรดิถก็ดี ทางใต้ก็มีทำเลแบบนี้หลายแห่ง แต่ตอนนี้กฟผ.ไทยเราถอดใจหมดแล้ว ไม่มีใครกล้าคิดเรื่องสร้างเขื่อนเลย หันมาใช้แก๊สธรรมชาติกันหมด ก็มันง่ายดี คนด่าน้อย
ผมเอาไปวิจารณ์จนผู้บริหารเขาเห็นด้วย เป็นผลให้วางแผนจะสร้างโรงงานถ่านหินมากหลายใน 15 ปีนี้
« « Prev : ไก่จิกเด็กตายบนปากโอ่ง
3 ความคิดเห็น
ค่าโง่โดยอ้อมที่รัฐบาลไปชักศึกเข้าบ้านด้วยการเชิญต่างชาติมาลงทุนก็คือ ค่าโง่โรงไฟฟ้านี่แหละครับ ที่เราต้องสร้างให้ต่างชาติใช้ในราคาถูกๆ แล้วคนไทยเรารับมลพิษไปเต็มๆ แถมก๊าซธรรมชาติหมดทะเลอีกต่างหาก
ไอ้ที่ไม่รู้ก็ไม่รู้เนาะคะ ไม่ค่อยจะเกี่ยวและคงไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้เท่าไหร่ ก็ช่วยไม่ได้เนาะคะบ้านเรามันดันมีคนไม่รู้มากกว่านี่นา
ปัญหาส่วนใหญ่จึงต้องหวังพึ่งคนที่รู้แล้วกระมังคะ ขอให้รู้แล้วก็ลงมือทำเสนอแนะอย่างจริงใจเพื่อการแก้ไข ทำไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็อาจกระจายการรับรู้ได้ ทำไปเรื่อย ๆ ทำพร้อม ๆ กัน วันหนึ่งอาจมีพลังถึงขั้นสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ กระมังคะ
จาก ผู้ไม่รู้ (แล้วยังอยาก(สู่)รู้) ก๊ากๆๆๆ
จับประเทศใส่กรงให้คนมาดูของแปลกเก็บกะตังค์ดีไหมครับ อิอิ