กัดดาฟี..คนเลวที่แสนดี
กัดดาฟี..คนเลวที่แสนดี
คนไทยเรามักได้ข้อมูลทางเดียวตามที่ สรอ. บงการเสมอ จึงไม่น่าแปลกที่เราต่างพากันประณาม มูอัมมาร์ กัดดาฟิ ณ ตริโปลี ลิเบีย ว่าเป็นคนเลวสุด โหด อำมหิต และครองอำนาจมานาน ๔๐ ปี ไม่ต่างอะไรนักจาก ฟิเดล คาสโตร
สรุปคือ ใครที่ต่อต้านอเมริกา เลวหมด แต่ผมเห็นว่า เราอาจเรียนอะไรได้มากจากกัดดาฟี อย่างน้อยก็ในความกล้าของเขา ที่กล้าสวนกระแส ส่วนเราเดินตามโลภาภิวัตน์เชื่องๆ
-เขาทำการปฏิวัติเมื่ออายุ 40 ปีตอนเป็นนายพันเอก บัดนี้ เขามีอำนาจล้นเหลือ และมีอายุ 80 แล้ว แต่เขาก็ยังมียศ พันเอก ดังเดิม ถ้าเป็นในประเทศอื่น เป็นจอมพล อัครมหาเสนาบดี เตโช ใส่สายสะพายหมดแล้ว เขา “ทำได้ไง” เคยมีใครคิดบ้างไหม
-เขาผู้นี้ติดดินมากๆ ไปนอนกลางดินกินกลาง “ทะเล” ทราย เป็นเดือนๆ อยู่บ่อยๆ ด้วยการนอนเต้นท์
-ออกกฎหมายห้ามขายเหล้า และ บุหรี่ ในประเทศ (บุหรี่สรอ. ก็ห้ามด้วยนะ) …สาธุ ๆ ๆ
-แต่งกายแบบชาวบ้านมุสลิมทั่วไป ไม่กระแดะใส่สูต ผูกไท ตามก้นฝรั่งเหมือนนักการเมืองไทย
-รักชาติ สร้างโครงการผันน้ำจืดใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน หวังให้ประเทศอันแห้งแล้งกึ่งทะเลทรายของเขาได้ทำการเกษตร เขียวชอุ่มไปทั่ว (ส่วนประเทศไทยเขียวชอุ่มดีๆ รัฐมารอยากทำให้เป็นทะเลทรายด้วยการเชื้อเชิญต่างชาติให้เข้ามาทำนำร่องด้วยอุตสาหเวร)
-ต่อต้านทุนนิยม แต่เอาอิสลามไปผสมกับสังคมนิยม ทำประเทศให้เป็นรัฐสวัสดิการ
ความเลวของเขาก็มีอยู่ แต่เมกาขยายให้เว่อไปสิบเท่า ส่วนความดีของเขามีมาก แต่เมกาย่อลงสิบเท่า มันเลยเกิดช่องว่างแห่งความเข้าใจไป 10×10 = 100 เท่า
วันนี้คนไทยไปทำงานอยู่ในลิเบีย 2 หมื่นกว่าคน แสดงว่า เขาให้ค่าแรงสูงมากใช่ไหม ส่วนรัฐมารไทยกดค่าแรงแสนต่ำเพื่อเอาใจนักลงทุนต่างชาติ
แบบนี้..ไม่อายกัดดาฟีบ้างหรือ
…สองชาติ ใจเต็ม (๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔)
« « Prev : ขอมนครวัดคือสยาม..ไม่ใช่เขมร (หลักฐานเพิ่มเติมครั้งที่ ๔)
3 ความคิดเห็น
มองคนละมุม อย่างเที่ยงธรรม
ข้อมูลเชิงลึกอย่างนี้ไม่ค่อยมีใครเสนอ
เบื่้องหลังการถ่ายทำไม่ค่อยมีใครรู้ อิ
อาจารย์พอจะแนะนำสื่ออะไรที่เสนอข่าวสองด้านไหมคะ
แม้แต่คนในเมกาเองก็ถูกสื่อด้านเดียวสร้างทัศนคติต่อประเทศอื่นด้วย คำ ที่แสดงถึงความไร้อำนาจ เช่นคำว่า ประเทศกำลังพัฒนา ประเทศโลกที่สาม และยอมรับว่าเมื่อก่อนก็ใช้คำเหล่านั้นอย่างไม่เคยไตร่ตรองเหมือนกันค่ะ
ผมเองก็อ่านมาจากสื่อกระแสหลักนี่แหละครับ แล้วเราสกัดเอาในสิ่งที่เราต้องการ เหมือนกับดอกบัวอยู่กลางน้ำเน่า แต่สกัดสารเอามาสร้างเกสรอันหอมได้ฉะนั้น …แหมพูดยังกะพระธรรมบทเลยนะเนี่ย