ลดพุงโดยกินแต่ผัก : ประสบการณ์ของพ่อครูสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

อ่าน: 2130

หลังจากทิ้งห่างการไปเยือนสวนป่าซะเป็นปี  เมื่อต้นเดือนที่เพิ่งผ่านพ้น ได้มีโอกาสแวะไปสวนป่าเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้

ครั้งแรกที่ไปเยือน  พ่อครูเริ่มต้นให้ธรรมชาติบำบัดเป็นครูแล้ว  เมนูประจำวันที่จัดไว้มักจะเป็น เป็นชาสะระแหน่มื้อเช้า สลัดผักมื้อสาย ข้าวและซุปผักมื้อเที่ยง  ผลไม้มื้อเย็น  บางวันระหว่างมื้อมีผลไม้บ้าง งดเนื้อสัตว์ และบางวันปรับ 3 มื้อเหลือ 2 มื้อ

ครั้งที่ 2 ที่ไปเยือนเป็นวาระครบรอบเวลาที่พ่อครูตั้งใจสรุปบทเรียนพอดี

สิ่งที่ได้เห็น คือ ขนาดพุงที่ลดลงไป และสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป  อารมณ์แจ่มใสยังอยู่

เชื่อว่าตัวเองตาไม่ฝาดที่เห็นความสดใสของร่างกายพ่อครูหายไป  สิ่งที่เห็นมาแทนที่คือร่างกายที่บอกอดีตว่า ในวัยยังฉกรรจ์ เจ้าของใช้ร่างกายอย่างเคี่ยวกรำและตรากตรำมากมาย

เห็นเจ้าหน้าที่ที่ลดพุงด้วยการปรับอาหารแบบเดียวกับพ่อครูมาก่อน  จึงฉุกให้นึกถึงสมดุลความร้อนในร่างกายพ่อครูที่ไม่พอดี

เช้าวันแรกของทริปสวนป่าคราวนี้ จึงเกิดกิจกรรมตรวจสุขภาพกันขึ้นแบบง่ายๆ ใช้เครื่องวัดที่น้องสร้อยพาติดไป  แทนสายวัดเอวที่พ่อครูใช้

ผลตรวจยืนยันเรื่องที่ฉุกคิดว่าแม่นแล้ว สมดุลความร้อนในร่างกายของพ่อครูมีเรื่องต้องปรับ  สัญญาณจากร่างกายที่พ่อครูประสบยืนยันว่ามีเรื่องต้องปรับ

ด้วยเป็นเรื่องความร้อนก็ควรกรอง สุขภาพแปรปรวนที่มีความร้อนเป็นเหตุ ออกไปก่อน ก็ได้รับรู้ว่ามีประเด็นที่คล้ายกันอยู่ 3 สัญญาณ

“ตะคริวจับ”   : อาการนี้จะเกิดกับพ่อครูในยามค่ำคืน กล้ามเนื้อแข็งจนปวดนอนไม่หลับ บีบนวดนานกว่าจะหยุดปวด

“เดินแล้วเหมือนเพลีย อ่อนแรงขา”  :  พ่อครูบอกว่าอาการนี้จะเกิดกับขาข้างที่สั้น

“น้ำหนักลดเร็ว ผิวหนังแห้ง”  :  อาการนี้ถูกสภาพพุงที่หดตัวลงอำพรางให้มองไม่เห็น  ความสดใสที่หายไป น้ำหนักที่ลดเร็วเป็นสัญญาณบอกให้รู้

ในมุมมองของความเป็นหมอ ทั้งหมดนี้เป็นอาการที่เกิดจากน้ำและเกลือแร่ในร่างกายเสียดุล แต่ที่สวนป่าไม่ร้อน จะเป็นเรื่องความร้อนไปได้ยังไง ก็ต้องแยกแยะ

ก็นึกได้เมื่อเห็นอาหารเช้า รอบแรกที่มาเยือนสวนป่าแล้วได้เจอกับน้องน้ำฝน มีผักอยู่ 2-3 ชนิดกินแล้ววิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำเร็วกว่าที่เคย คราวนี้ได้เห็นเมนูอีก ก็ได้คำตอบยืนยัน พ่อครูเสียน้ำไปกับการจู๊ดๆเร็ว จู๊ดๆวันละหลายครั้งนี่เอง

เมื่อไรที่ร่างกายปล่อยของเสียแบบจู๊ดๆ น้ำถูกพาออกนอกร่างกายพร้อมเกลือแร่อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะกลไกนี้เป็นกลไกตามธรรมชาติของการปรับดุลของเสียในร่างกาย

น้ำมะขามผสมน้ำผึ้งสูตรแม่หวีที่ใช้เป็นน้ำสลัด ดอกชมจันทร์สด-ลวก  มะเขือเทศ งา  วอร์เตอร์เครส ตำลึง เหล่านี้เป็นผักที่เพิ่มจำนวนครั้งของการระบายท้อง เมื่อบริโภคจำนวนมาก เป็นเหตุสูญเสียน้ำและเกลือแร่ออกจากร่างกาย จนเกิดตะคริว

ก็ขอสรุปประเด็นที่ควรปรับเพื่อปลดปัญหาตะคริวว่า ใช้ธรรมชาติบำบัดตามเมนูที่จัดตามคำสอนของครูใหญ่อาจารย์สมบูรณ์ได้  แต่ให้ปรับเพิ่มการดื่มน้ำ ฝึกการหายใจ เพิ่มเวลาของการใช้กล้ามเนื้อ จะยืด-เหยียด หรือเดินให้ไกลขึ้น นานขึ้นได้ทั้งนั้น ทำเพื่อเพิ่มช่องทางถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย

การบริโภคงาดำแ้ก้ตะคริวสำหรับพ่อครูจึงเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ และการย่อยงาดำซึ่งมีไขมันสูงก็ต้องใช้ความร้อนในการเผาผลาญสูง  ก็ยิ่งต้องการน้ำ งาดำกินเยอะก็ท้องเสียด้วย ยิ่งแก้ยิ่งยุ่งได้

วอร์เตอเครส ผักโขม ลดตะคริวดีกว่างาดำในแง่ไม่เพิ่มความร้อนให้ร่างกาย และไม่เพิ่มไขมัน

ไม่อยากดื่มน้ำมาก เพราะเรื่องฉี่บ่อย ก็ให้ลองปรับสัดส่วนของผักในแต่ละเมนู เลี่ยงการกินผักที่มีฤทธิ์ระบายท้องในมื้อเดียวกันหลายๆชนิดก็ได้ หรือไม่ก็เติมกล้วยดิบฝานทั้งเปลือก กระถิน กระโดน ขนุนอ่อนซึ่งมีฤทธิ์แก้ท้องเสียเข้าไปในเมนูด้วย

ดอกชมจันทร์ มะเขือพวงก็มีแคลเซียมเยอะค่ะ

« « Prev : สุขภาพแปรปรวนที่มีความร้อนเป็นเหตุได้

Next : คนก็จำศีลนะ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 มีนาคม 2012 เวลา 12:42 (เย็น)

    วัวควายบางตัวมันกินแต่หญ้า พุงมันก็ใหญ่ได้เหมือนกันนะครับ อิอิ
    ส่วนเสือบางตัวกินแต่เนื้อแล้วตัวผอมก็มี
    พวกแขกมังสะวิรัต ก็เห็นพุงโตๆกันมาก
    ผมว่ากินอะไรถ้ามากเกินก็อ้วนไปทั้งนั้นแหละ

  • #2 putarn ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 มีนาคม 2012 เวลา 6:27 (เช้า)

    ดิฉันใช้น้ำมะขามเปียกเป็นยาระบายเวลาที่จำเป็นค่ะ เพิ่งทราบว่าใช้ทำน้ำสลัดได้ด้วย

  • #3 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 มีนาคม 2012 เวลา 20:44 (เย็น)

    เห็นด้วยกับอาจารย์ทุกประการว่า กินพืชเป็นอาหารก็สามารถมีพุงโตได้

    เสือกินเนื้อแล้วผอม เป็นเสือที่มีภาวะเผาผลาญในร่างกายสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสือที่ไม่ใคร่ได้ล่าเหยื่อกินเองมากกว่า ส่วนเสือที่ล่าเหยื่อกินเองแล้วผอม มักจะเป็นเสือที่ได้เนื้อมากินไม่พอมากกว่า

    แขกมังสะวิรัต พุงโต เพราะกินพืชที่มีไขมันสูงเข้าไปเยอะมากกว่าพืชใบเขียว กินแป้งเยอะ กินแล้วใช้ไม่หมด เหลือเก็บเป็นพุงมาก

    เรื่องเกินพอดี มี 2 ด้าน ด้านหนึ่งอ้วนอย่างที่อาจารย์ว่า อีกด้านก็คือผอม เรื่องของพ่อครู เป็นเรื่องหลัง เมื่อไรกลับมากินแบบมื้อปกติ จะกลายเป็นเกินแบบแรก แล้วทีนี้พุงจะลงยากมาก ก็เลยต้องหาวิธีปรับมาให้ก่อนจะเกิดค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.026313066482544 sec
Sidebar: 0.062469005584717 sec