น้ำส้มควันไม้กับน้ำส้มสายชู
คุยกันเรื่องนโยบายงานสาธารณสุขในยุคที่เปลี่ยนเจ้านายคนใหม่ ซึ่งยังเดาใจไม่ออกว่าจะเอายังไงต่อกับสุขภาพของเกษตรกรที่ดำเนินมาร่วมปี ลงเอยกันว่าถึงนายใหม่ไม่เอาด้วย ก็จะยังจับงานนี้สานต่อ ใช้แนวหมู่บ้านสีเขียวเป็นความหวังเดินไปข้างหน้า นำร่องในพื้นที่ที่มีงบของสสส.อยู่แล้ว บูรณาการลงในพื้นที่ ถ้าคนพื้นที่เอาด้วย
คุยกันถึงการเกษตรปลอดสารพิษ แล้วภาพน้ำส้มควันไม้ที่น้องโสทรเคยให้มาใช้ก็แวบเข้ามา น้ำกับดินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการเกษตร ปลอดสารพิษกับการไม่ใช้ยาฆ่าแมลงนั้นไปด้วยกัน วันนี้เกษตรกรยังมีการใช้ยาฆ่าแมลง อาจจะไปเสนอทางเลือกให้ใช้น้ำส้มควันไม้แทนได้
แต่น้ำส้มควันไม้มีสารอะไรอยู่ มีผลต่อสุขภาพอย่างไรหรือเปล่า แม้ว่าทางเกษตรจะเชิญชวนให้มีการใช้แล้วก็เหอะ ก็ต้องรู้ก่อนไปเสนอให้ใช้
น้ำส้มควันไม้เป็นของเหลวที่ควบแน่นจากไอน้ำที่ระเหยอยู่ในกระบวนการเผาไม้ในสภาพอับอากาศ ไม้อะไรก็เผาแล้วให้น้ำส้มควันไม้ได้
จะได้น้ำส้มมากน้อยก็อยู่ที่ความสดแห้งของไม้ ไม้สดตัดมาใหม่ๆแล้วเผาจะนานกว่าไม้ที่ตัดมาทิ้งไว้หลายวันก่อนเผา
เพิ่งรู้ว่าที่เรียกว่า “น้ำส้ม” เป็นเพราะว่าตัวสารหลัก คือ กรดน้ำส้ม สารอื่นยังมีน้ำมัน และน้ำมันดิน ตัวหลังนี้เป็นสารก่อมะเร็ง
เกษตรกรจึงปล่อยให้ตะกอนในของเหลวตกแยกจากน้ำก่อนนำมาใช้ ระยะเวลาที่ปล่อยให้ตกตะกอนนี้นานราว 3 เดือน ของเหลวที่แยกได้จะมีสีน้ำตาลแดง ดมแล้วได้กลิ่นควันปนเปรี้ยวๆ
เกษตรกรใช้น้ำส้มควันไม้ผ่านวิธีพ่นเป็นละอองฝอย คลุกดิน ผสมน้ำรดตรงๆ
ถ้าใช้เลี้ยงสัตว์ด้วยก็จะคลุกลงในอาหารสัตว์ ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อรา จัดการไส้เดือนฝอย ไล่แมลง เช่น มด ตะขาบ แมงป่อง ปลวก
ใช้แล้วฤทธิ์ของปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้นจึงเสมือนทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนให้พืช ความถี่ของการใช้ 15-20 วันต่อรอบ
ความเข้มข้นที่ใช้ น้ำ 1 ส่วน น้ำส้มควันไม้ 300 - 1000 ส่วน แล้วแต่จุดประสงค์การใช้งาน
มีการใช้เป็นสารดับกลิ่นขยะ ห้องน้ำ รักษาแผลสด น้ำร้อนลวก ไฟลวก น้ำกัดเท้า และเชื้อราที่ผิวหนังด้วย
น้ำมันดินที่แยกออกมาเขาใช้รดไม้ป้องกันปลวก/มดทำลาย
ที่มีฤทธิ์หลากหลายก็เพราะสารเคมีตัวสำคัญที่ละลายอยู่ ได้แก่ กรดน้ำส้ม ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปตัสเซี่ยม ฟอร์มาลดีไฮด์ เมธานอล น้ำมันดิน เอธิล เอ็น วาลอเรต ฟีนอล
กรดอะซิติก ฟอร์มาลดีไฮด์ และเมธานอลที่ปนอยู่ทำให้มีฤทธิ์ทำลายสิ่งมีชีวิตได้
องค์ประกอบที่เป็นกรดจะมีอยู่ราว 3% สารอินทรีย์ 12% ที่เหลือเป็น น้ำ pH 3 ความถ่วงจำเพาะ 1.012-1.024
รายละเอียดของส่วนประกอบอื่นๆพอจะรู้ได้จากน้ำส้มควันไม้ไผ่ ดังนี้
น้ำ 80 % กรด 32% ฟีนอล 40% แอลดีไฮด์ 3% แอลโคน (Alkone) 5% แอลกอฮอล์ 5% แอสเตอร์ 4% และอื่นๆ 5%
กรดน้ำส้มแรงพอๆกับโค๊ก เทียบกับกรดตัวอื่นพอเห็นภาพความแรงได้ (ตัวเลขในวงเล็บข้างล่าง คือค่า pH)
กรดจากแบตเตอรี (0.5) กรดในกระเพาะอาหาร (1.5 - 2.0)
มะนาว (2.4) โค๊ก (2.5) น้ำส้มสายชู (2.9)
ส้ม หรือ แอปเปิล (3.5) เบียร์ (4.5)
ฝนกรด (< 5.0)
กาแฟ (5) ชา (5.5) นม (6.5)
น้ำบริสุทธิ์ (7)
น้ำลายมนุษย์ (6.5 - 7.4) เลือด (7.34 - 7.45) น้ำทะเล (8)
สบู่ล้างมือ (9.0 - 10.0) แอมโมเนีย (ยาสามัญประจำบ้าน) (11.5)
น้ำยาปรับผ้านุ่ม (12.5) โซดาไฟ (13.5)
ถ้าแยกน้ำมันดินออก ก็ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง ปลอดภัยกว่าใช้ยาฆ่าแมลงที่เป็นสารเคมีตรงๆ แต่ยังไงจะใช้ก็สมควรป้องกันการจับต้องตรงๆอยู่ดี
« « Prev : อาหารและน้ำดื่มกับโลหะหนัก
Next : ทำอะไรอยู่บ้างกับอาหารปลอดภัย » »
ความคิดเห็นสำหรับ "น้ำส้มควันไม้กับน้ำส้มสายชู"