ฺไนไตรท์กับโรคเบาหวาน

อ่าน: 3456

ด้วยบ้านเราใช้ปุ๋ยและสารเคมีในภาคการเกษตรติดอันดับต้นๆของโลกมาในระยะหนึ่ง วันนี้สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ก็รับผลหลังจากการใช้สารเคมีมันกันมายาวนานมากขึ้นทีละน้อยๆ

การใช้ในปริมาณที่เกินความจำเป็น มีการรั่วซึมของปุ๋ยและสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำของชุมชนและสร้างปัญหาขึ้น พื้นที่ที่เป็นตัวอย่างของ เรื่อง อยู่ที่  เชียงใหม่ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี

แหล่งน้ำและน้ำบาดาลของชุมชนใน 3 จังหวัดนี้มีสารไนเตรทปนเปื้อนในปริมาณที่เกินมาตรฐานน้ำดื่มที่ใช้อ้างอิงกันอยู่ทั่วโลก

ที่พบแล้วทำให้ห่วงกันก็คือ แค่น้ำไหลผ่านแปลงหน่อไม้ฝรั่ง 3 นาที  น้ำในแหล่งน้ำและน้ำบาดาลในพื้นที่แปลงเกษตรนั้นก็มีสารไนเตรทปนเปื้อนแล้วใน 6-10 ชั่วโมงต่อมา

นี่ขนาดแช่สั้นๆนะนี่ “การใส่ปุ๋ยทุกวัน ให้ฮอร์โมนและใส่ยาฆ่าแมลงทุกสัปดาห์” เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้ไนเตรทปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำทั้งผิวดินและใต้ดินได้ จำไว้นะเออ

การปนเปื้อนที่เขาไปพบนี้มาจากการใช้ปุ๋ยเกินขนาดเป็นสิบๆเท่าของที่จำเป็น เกษตรกรตั้งใจใช้ด้วยเข้าใจว่าจะทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นหรือดี แรงจูงใจนี้ดึงให้ผู้ปลูกใช้ปุ๋ยมากมายขนาดนี้แหละ

แล้วทำไมยังไม่สบายใจ ในเมื่อปลูกพืชต้องให้น้ำ มีไนเตรทในน้ำเยอะก็เท่ากับน้ำมีสารอาหารให้พืชเยอะ

เหตุผลอยู่ตรงไนเตรทเยอะทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง ไม่เพียงพอต่อการหายใจของสิ่งมีชีวิตในน้ำ  สัตว์น้ำตายมาก ความหลากหลายทางชีวภาพจะลดลง สาหร่ายพิษในหนองน้ำจะเพิ่มขึ้น

คนรับผลด้วย น้ำปนเปื้อนไนเตรทแล้วคนก็ต้องดื่มน้ำไม่ให้ขาดน้ำ  คนที่ไวที่สุดจึงเป็นทารก พิษไนเตรทจะทำให้เด็กทารกที่อาศัยอยู่ในครรภ์แม่เกิดโรค “Blue-baby syndrome” หรือ methemoglobinemia  ได้ อายุต่ำกว่า 4 เดือนเป็นอายุที่เกิดง่ายที่สุด  ตรงนี้น่ากลัว

น้ำดื่มที่มีไนเตรทเจือปนในปริมาณสูงเป็นต้นเหตุของการป่วย เมื่อไนไตรท์ที่เปลี่ยนรูปจากไนเตรทเมื่อเข้าไปในลำไส้จะไปรวมตัวกับโปรตีนในเลือดที่ทำให้เลือดมีสีแดงและทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนให้ร่างกาย กลายเป็นโปรตีนตัวใหม่ที่ไม่สามารถลำเลียงออกซิเจน

ผลที่เกิดขึ้นทำให้เป็นลมหมดสติ เนื้อตัวเขียว ถึงตายได้เพราะออกซิเจนหมดไปจากร่างกาย

ตรงนี้ก็ขอบอกซะเลย แบคทีเรียในลำไส้คนเปลี่ยนไนเตรทจากอาหารและน้ำที่รับเข้าไปเป็นไนไตรท์ได้

วันนี้ไม่มีข้อมูลว่า เด็กไทยเสียชีวิตจากน้ำที่ปนเปื้อนไนเตรทมากแค่ไหน แต่การที่ยังพบว่าเด็กไทยยังมีภาวะซีด ทั้งๆที่เรื่องของการเข้าไม่ถึงอาหารลดซีดน้อยลงกว่าในอดีตมากมาย  อัตราการเสียชีวิตก็ยังสูง เตือนใจให้คอยระวังเรื่องของไนไตรท์ในคน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการทำการเกษตร

ไม่ใช่เด็กเท่านั้นที่ได้รับผลจากการดื่มน้ำที่มีไนเตรทปนเปื้อน ผู้ใหญ่ก็เหอะ ถ้าดื่มน้ำที่มีคุณสมบัติเยี่ยงนี้นานๆจะเสี่ยงกับการเป็นโรคมะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด NHL มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งรังไข่  เบาหวาน ฯลฯ

วันนี้มาชวนให้สังเกตอาการก่อนมะเร็งที่อาจจะเกิดหลังการรับประทานสัตว์น้ำหรือผักที่มีไนเตรทสะสมอยู่ในปริมาณสูง เพราะพิษที่ตกค้างในร่างกาย

อาการทางประสาท เช่น มึนงง สูญเสียความทรงจำ เป็นอัมพาต คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง เหล่านี้มีความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวข้องกับอาหารที่ปนเปื้อนสารไนไตรท์

หญิงมีครรภ์ที่ได้รับไนเตรตจากอาหารและน้ำดื่มสูง จะทำให้ทารกในครรภ์คลอดก่อนกำหนด หรือแท้งบุตรได้

อาการอื่นๆที่พบในคนอีกก็มี ปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ริมฝีปาก มีสีเขียวคล้ำ หายใจสั้นๆ ปวดศีรษะ วิงเวียน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ช็อก หมดสติ ชักกระตุกของกล้ามเนื้อ หรือสมองได้รับอันตรายจากการขาดออกซิเจนและเสียชีวิต

เกณฑ์การรับไนเตรทจากน้ำดื่มที่ไม่ปลอดภัยสำหรับทารก อยู่ที่การดื่มน้ำที่มีปริมาณ nitrate เกินกว่า ๑๑ มก./ล.ต่อครั้งเข้าไปในร่างกาย หรือได้รับปริมาณรวมของไนเตรตและไนไตรท์เกินกว่า ๑ มก. ต่อวัน

อาการที่เกิดจากได้รับไนเตรทและไนไตรท์เข้าร่างกายอาจจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ เช่น ท้องเสีย มีการสะสมแป้ง (starchy deposits) เพิ่มขึ้น มีจ้ำเลือด มีเลือดออกที่ม้าม

วัยทารกมีโปรตีนฮีมเข้มข้นกว่าวัยอื่น และสารย่อยสำหรับจัดการกับโปรตีนใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวของฮีมกับไนไตรท์ทำงานยังไม่เต็มประสิทธิภาพ วัยเด็กจึงไวต่อพิษไนไทรท์มาก

เวลาเห็นเด็กตัวเขียวๆ ม่วงๆ โดยไม่มีโรคหัวใจเขียวแต่กำเนิด อย่าลืมซักถึงการดื่มน้ำหรือกินอาหารที่ให้ไนไตรท์ได้นะคะ

« « Prev : เรื่องยุ่งๆของยุง

Next : หลักการของระบบบำบัดน้ำเสีย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ฺไนไตรท์กับโรคเบาหวาน"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.025782823562622 sec
Sidebar: 0.093476057052612 sec