หมอเจ๊เล่าเรื่อง

ในข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขให้กับสังคม มีการเอ่ยถึงการแท้งบุตร การตายของบุตรในครรภ์หญิงตั้งครรภ์  เมื่อให้ข้อมูลเรื่องการขาดสารไอโอดีน  ตรงนี้คนที่กำลังเป็นพ่อแม่คนก็คงยังไม่กระจ่างว่า ไอโอดีนมาเกี่ยวอะไร

ได้เล่าให้ฟังแล้วว่า ไอโอดีนสำคัญเพราะเป็นวัตถุดิบจำเป็นสำหรับนำไปใช้ สร้างฮอร์โมนที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์ประสาทในสมอง

วันนี้ขอมาบอกเพิ่มว่า เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ไม่ได้มีความสำคัญอยู่แค่นี้ มันยังเกี่ยวข้องไปถึงการมีพลังงานชีวิตให้อยู่รอดด้วยนะคะ เพราะมันทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการสารอาหารที่จำเป็น สำหรับการสร้างความเข้มแข็งให้ร่างกาย และการมีพลังงานชีวิตที่เพียงพอในร่างกายด้วย

บทบาทของมันเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำตาล โปรตีนและไขมันจำเป็นของร่างกาย ซึ่งรู้จักกันอยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้คือถ่านที่ให้พลังงานชีวิต

ผม ผิวหนัง เล็บ ฟัน เส้นประสาท กระดูก การทำงานของหัวใจ การจัดการน้ำในร่างกายจะเป็นอย่างไร ฮอร์โมนตัวนี้ก็เข้าไปมีเอี่ยวด้วยทุกครั้งไป

ความอยู่รอดของชีวิตขึ้นกับพลังชีวิตที่ได้จากอาหาร  ฮอร์โมนที่บกพร่อง ก็ไม่สามารถจัดการพลังชีวิตนี้ให้ได้ดุลกับการเติบโตได้

ตัวอ่อนของคนเมื่อถือกำเนิดขึ้นมาจึงได้รับผลเสียหายได้เลยแต่แรก เมื่อพบกับฮอร์โมนที่บกพร่อง และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เกิดการตายของบุตรในครรภ์ของสตรีตั้งครรภ์

เมื่อไม่สามารถเติบโตต่อไป สภาวะของธรรมชาติได้จัดการส่งสัญญาณไว้แล้วว่า ให้ถือเป็นสิ่งแปลกปลอม ต้องกำจัดออกไป  การแท้งบุตรจึงเป็นสัญญาณบอกการตายของตัวอ่อนที่เกิดขึ้น

การแท้งบุตรในช่วงตั้งครรภ์ ๓ เดือนแรก จึงใช้เป็นสัญญาณที่ชวนให้นึกถึงการขาดสารไอโอดีนในแม่ได้ด้วยสำหรับสตรีที่ตั้งครรภ์แล้วแท้งบ่อย

๓ เดือนแรกนั้นเป็นนาทีทองของการสร้างตัวอ่อนของคนให้สมบูรณ์ที่ธรรมชาติกำหนดไว้แล้ว

หากตัวอ่อนมีโอกาสอยู่รอดจนเป็นทารกในครรภ์ แต่ภาวะขาดไอโอดีนยังคงอยู่ ฮอร์โมนที่บกพร่องบ้าง ดีบ้าง ก็ให้พลังงานชีวิตที่ไม่สม่ำเสมอ ก็ส่งผลให้เกิดความพิการเหล่านี้  สมองบกพร่อง เส้นประสาทบกพร่องทำให้เป็นใบ้ หูหนวก ขาแข็ง กระตุก ตาเหล่  ตัวแคระเกร็นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่

หากอยู่รอดจนคลอดได้ ก็จะเจอความพิการอย่างที่เล่าข้างต้นแล้ว ถ้ายังขาดไอโอดีนต่ออีก ไอคิวก็ต่ำลงไปอีก สมองบกพร่องต่อไป เติบโตแล้วก็ปัญญาพร่อง จนถึงระดับที่เรียกกันว่า “เอ๋อ” หรือ “ใบ้งั่ง”

อวัยวะที่พร่องอยู่แล้วก็กลายเป็นฐานร่างกายที่ไม่แข็งแรง จะส่งผลให้ป่วยง่าย ตายง่าย

การเคลื่อนไหวก็มีข้อจำกัด จากเส้นประสาทและกล้ามเนื้อไม่สัมพันธ์กัน เคลื่อนไหวแล้วกระตุก แบบ “เซอะมะ”

หากโตขึ้นต่อไปได้ สมองที่บกพร่องก็ทำให้ความสามารถในการดำรงตนโดยไม่พึ่งพาหดหาย จึงต้องพึ่งพาคนอื่น

ถ้าจะไม่ให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้ ก็ต้องป้องกันก่อนเกิดเท่านั้นค่ะ

« « Prev : อาหารเจกับไอคิว

Next : ซื้อเกลือ อย่าลืมดูฉลากอย.เน้อ » »