รู้ได้ยังไงว่าเกิดพิษไดออกซิน
90 % ของไดออกซินที่เข้าสู่ร่างกายคนผ่านทางปาก อาหารปนเปื้อนคือแหล่งหลักๆที่พาเข้าไป โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์นม
ระหว่างเนื้อวัว หมู ไก่ ปลา ผลิตภัณฑ์นม นมสด ไข่ เนื้อวัวจะพบสารไดออกซินในปริมาณมากที่สุดและบ่อยที่สุด
คนที่นอนบนดินที่ปนเปื้อนไดออกซิน สามารถรับไดออกซินเข้าตัวได้ทางผิวหนัง
ไดออกซินผ่านรกและน้ำนมได้ แม่ที่กินอาหารปนเปื้อนไดออกซินจึงส่งผ่านพิษนี้ไปให้ลูกได้
เมื่อไดออกซินเข้าไปในตัวคนแล้ว จะค้างอยู่ได้นาน
ร่างกายเก็บมันไว้ในตับและไขมัน แม้ตับจะสามารถขจัดมันได้ แต่ก็ขจัดได้ไม่หมดนะ พอเก็บได้ 7 ปี จำนวนที่เก็บจะลดเหลือแค่ครึ่งหนึ่ง ไม่หายไปนะ จึงอย่าประมาทกับเรื่องการเลือกอาหารกินเชียวนะ
จะรู้ว่าเกิดพิษจากไดออกซินแล้ว ต้องหาข้อมูลมาสนับสนุน ไม่ใช่นึกเอา ข้อมูลที่ต้องการมีเหล่านี้แหละ
1. มีอาการ Chloracne (ผิวหนามีสิวรุนแรง) wasting syndrome ( คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักลด ผอม กล้ามเนื้อไม่มีแรง) แพ้แสงรุนแรงจนผิวพองน้ำ (Porphyria , Photosensitivity ) โลหิตจาง เกร็ดเลือดต่ำ หรือเม็ดเลือดทุกชนิดต่ำ
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
2. ตรวจเนื้อเยื่อตับ ไต ไขมัน หาไดออกซินด้วยวิธีเทียบสี และเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกัน
3. ถ้าสงสัยว่าเกิดจากการคลุกคลีเพราะทำงาน ก็ควรวัดระดับไดออกซินในสิ่งแวดล้อมมาคำนวณหา TEQ ของสารออกฤทธิ์คล้ายไดออกซิน
ข้อมูลไดออกซินจากร้านของชำอเมริกาตามในภาพ ช่วยสอนให้รู้จักสังเกตแหล่งอาหารที่นำเข้ามาบ้านเราได้ จึงนำมาบอกกัน
TEQ ย่อมาจาก Total equivalent quality คำนวณได้จาก TEF x จำนวนสารที่ออกฤทธิ์คล้ายไดออกซินที่วัดได้ในบรรยากาศ
TEF ย่อมาจาก Toxicity equivalents factor เป็นค่าที่หมายถึง จำนวนของ TCDD ที่ทำให้เกิดพิษได้เท่ากับสารที่ออกฤทธิ์คล้ายกับตัวมันที่วัดได้
TEF ของ 1,2,3,7,8 PreCDD = 0.5
TEF ของ OCDD = 0.001
อุตสาหกรรมที่มีการใช้คลอรีน ได้แก่ อุตสาหกรรมยาฆ่าแมลง อุตสาหกรรมการหลอมโลหะ โรงงานถลุงแร่ อุตสาหกรรมการฟอกสีกระดาษ
« « Prev : รู้จักไดออกซินขึ้นอีกหน่อยเหอะ
Next : ฟีแนนทรีน….ของแถมที่ไม่อยากได้…จัดการยังไง » »
2 ความคิดเห็น
ความรู้พื้นฐานที่ประชาชนควรทราบเพื่อเท่าทัน และป้องกันนั้นจำเป็นอย่างยิ่งเลย และ……
ในขณะที่สังคมเป็นนักวิ่งลมกรดไปแล้ว เรื่องบางเรื่องบ้านเรายังเตาะแตะมาก การตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญช่วยคน แผนยุทธศาสตร์ด้านนี้ยังไม่มีใครเป็นเจ้าภาพให้ประชาชนเลยค่ะ สาธารณสุขทำได้แค่เรียนไปทีละบท ไม่สามารถจัดการทั้งระบบได้ค่ะพี่
การทำให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานซึ่งเป็นเรื่องควรทำอย่างยิ่ง เจ้าภาพตัวจริงยังขยับได้แบบเตาะแตะ เพราะไม่สามารถรวบรวมภาคีเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามาได้มากพอค่ะ