ยางระเบิดฉุกเฉินระหว่างขับรถ ทำอะไรได้บ้าง
สัปดาห์ก่อนหลวงพี่เพื่อนร่วมรุ่น สสสส.๒ ได้รับบาดเจ็บจากการเดินทางระหว่างลงไปภาคใต้ สาเหตุมาจากการใช้รถ ใช้ถนนในที่แคบ คับขัน ไม่ได้เกิดจากยางรถระเบิด การบาดเจ็บก็เลยไม่มาก นึกได้ว่ามีคนให้คำแนะนำไว้ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างให้ปลอดภัยหากระหว่างขับรถเกิดยางรถระเบิด จึงนำมาบอกต่อ เพื่อจะได้เข้าใจและปรับตัวเองให้พร้อม เพราะปฏิกิริยาตอบสนองในระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉิน สั่งกันไม่ได้ แต่สามารถทำให้เกิดความปลอดภัยได้ หากเข้าใจพฤติกรรมตอบสนองของตัวเอง แล้วฝึกฝน “พฤติกรรมที่จะทำให้เสีย(อวัยวะและทรัพย์สิน) หาย (ชีวิต)” นั้นซะใหม่
เมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถ สิ่งที่ควรปฏิบัติมีดังนี้
๑. มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคง - ใครชอบขับรถมือเดียว ควรฝึกตัวเองให้มือที่ไม่ใคร่ใช้ไวพอและสามารถจับสิ่งของได้อย่างแม่นยำ เวลาตกใจนะคะ
๒. ถอนคันเร่งออก - พฤติกรรมนี้ต้องฝึกเท้าแล้วละคะ จะผ่อนอย่างไรให้เร็ว แม้ในขณะที่ตกใจก็ยังเป็นอัติโนมัติว่า “ยังเป็นผ่อน”
๓. ควบคุมสติให้ดี อย่าตกใจมองกระจกหลังเพื่อให้ทราบว่ามีรถใดตามมาบ้าง - จะฝึกอย่างไรก็แล้วแต่ถนัด ที่จะทำให้เมื่อมองหลังแล้วการตัดสินใจไม่ทำให้กลัว หรือ ลืมตัวแตะเบรค
4. แตะเบรคอย่างแผ่วเบาและถี่ๆ - การแตะแรงทำให้รถหมุนค่ะ
5. ห้ามเหยียบคลัตช์ - การเหยียบคลัตช์ทำให้รถลอยตัว ไม่เกาะถนน บังคับรถได้ยากขึ้น และทำให้เสียหลักได้เพราะไปตัดแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ขาดจากเพลา
6. ห้ามดึงเบรคมือ - การดึงเบรคมือทำให้รถหมุน
7. ให้สัญญาณเข้าข้างทางซ้ายมือเมื่อความเร็วรถลดลงพอประมาณแล้ว - คนที่ตามหลังจะได้รับรู้ว่ารถข้างหน้ากำลังขอทางเพื่อจอด
8. เปลี่ยนเกียร์ต่ำลงเมื่อความเร็วลดลงระดับควบคุมได้
รู้ได้อย่างไรระหว่างขับรถว่ายางระเบิด หากไม่ได้ยินเสียง :
เมื่อยางระเบิด ไม่ว่าด้านใด จะล้อหน้าหรือล้อหลังก็ตาม รถจะแฉลบไปด้านที่ยางระเบิดก่อนแล้วสะบัดกลับเป็นด้านตรงข้าม กลับไปกลับมา
9. ถ้าหากขับรถด้วยความเร็วสูงมากๆ คำแนะนำ 1-8 ก็ไม่สามารถให้ความปลอดภัยได้ - พอยางระเบิดขึ้นมาในขณะรถวิ่งด้วยความเร็วสูง รถจะกลิ้งทันที เหมือนที่เห็นในสนามแข่งรถ
ความเร็วที่คำแนะนำ 1-8 สามารถช่วยให้ปลอดภัยได้และถือว่าปลอดภัยในเชิงป้องกันระหว่างขับรถ คือ ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
« « Prev : ลองตรวจดูซะแต่ตอนนี้เหอะ
Next : รถตกน้ำ ทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ปลอดภัย » »
4 ความคิดเห็น
การพลิกคว่ำเกิดจากการไม่สมดุลของแรงที่กระทำต่อล้อ ซ้าย ขวา หน้า หลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
อย่าขับเร็วเกิน 100 (ยกเว้นถ้าจะรีบมาโพสต์ให้ทันก็ว่าไป) เพราะแรงที่ไม่สมดุลนี้แปรผันโดยตรงกับความเร็ว …อย่าทรนงว่าข้าขับเก่ง รถก็ดีเช่น เบนซ์ บีเอ็ม มันดีตอนยางไม่แตก แต่พอยางแตกแล้ว เบนซ์ ฮูนได ตาต้า ก็แย่พอกันแหละ
อย่าแตะเบรคเป็นอันขาด (เพราะเบรกจะชะลอรถลง ซึ่งยิ่งเพิ่มแรงที่กระทำต่อล้อรถที่อาจไม่สมดุล เพราะล้อหนึ่งต่างไปจากอีกสามล้อ)
อย่าหักพวงมาลัยเร็วมาก (หันซ้ายป่ายขวา เพราะจะยิ่งเพิ่มแรงเข้าไปที่ล้อ ที่จะทำให้รถหมุนและพลิกคว่ำได้)
ตั้งใจตรง ดำรงสติมั่น ค่อยๆหักพวงมาลัย ปล่อยให้รถไหลจนช้าลงประมาณ 80 แล้วจึงค่อยๆเหยียบเบรคช้าๆ ประคองรถเข้าริมถนน
…กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
(แต่ทำไมบางคนมันเลว โกงชาติ โกงเลือกตั้งเจือกยางไม่เคยแตก ตายโหงกลางถนนแบบเราท่านบ้างเลยนะ)
ขอบคุณอาจารย์ที่มาช่วยเติมเต็มให้เกิดความเข้าใจค่ะ
ผมมีประสบการณ์ ขับ Toyota jeep รถล้อหน้าซ้ายหลุด หลุดจริงๆ
รถทรุดฮวบลง กะทะล้อที่หลุดลงไถกับพื้นซีเมนต์ เกิดสะเก็ดไฟ ซึ่งอันตรายมากหากน้ำมันหกจะเกิดเพลิงทันที โชคดีที่คุมพวงมาลัยเข้มแข็งจึงควบคุมรถได้และชะลอจนหยุดลงได้ ชาวบ้านข้างถนนวิ่งมากันเต็มเลย มาดูทะเบียนรถเอาไปซื้อหวย…อิอิ ไม่รู้ถูกหรือไม่
หน้าฝน น้ำที่นองพื้นแล้วรถต้องวิ่งผ่าน พึงระวังเกิดอุบัติเหตุ หากรถวิ่งมาเร็ว แล้วล้อข้างหนึ่งต้องผ่านน้ำ อีกข้างไม่ผ่านน้ำ พวงมาลัยจะสบัด ยิ่งวื่งมาเร็วยิ่งอันตราย
สำหรับยางระเบิดนั้น ไม่เคย แต่ยางแบน เคย คนขับรู้สึกได้ว่าพวงมาลัยผิดปกติต้องหยุดรถและลงสำรวจทันที ซึ่งปกติจะวิ่งทางไกลก็ต้องเข้าเชคลมยางและความสมบูรณ์ ทุกอย่างเบรค ลมยาง คุณภาพยาง น้ำมันเบรค หน้าร้อนหรือหน้าไหน วิ่งทางไกลใช้ลมยางที่แตกต่างกัน ปัจจุบันนิยมใส่ลมยางที่เป็น ไนโตรเจน เพราะคุณสมบัติ ไนโตรเจนไม่ขยายตัวมากเมื่อเกิดความร้อน
คนที่บ้านขับรถยางแบนมาเป็นกิโลยังไม่รู้สึกเลย มาถึงบ้านลงเปิดประตูจึงเห็นว่ายางแบน อิอิ ต้องเปลี่ยนยางใหม่เลยหมดสภาพ
#3 “”"เรื่องลมยางไนโตรเจน ผมยังไม่อยากเชื่อ มันแพงมาก คิดว่าเป็นการหลอกต้มเสียมากกว่า เพราะอากาศธรรมดานั้นก็มีไนโตรเจนในสัดส่วนปริมาตร (หรือจำนวนโมเลกุล) ประมาณ 80% อยู่แล้วครับ
พอเอา 20% ออก ซึ่งไอ้ที่เอาออกนั้นก็คือ ออกซิเจน ซึ่งมีสมบัติเชิงฟิสิกส์ไม่ต่างอะไรจากไนโตรเจนมากนัก แล้วมันจะทำให้อะไรดีเด่ ตามที่โฆษณาหลอกชาวบ้านกันนักหรือ
อิอิ ผมได้หัวข้อเอาให้ นศ. ป.ตรี ทำโครงงานอีกแล้ว ได้ข่าวอย่างไรจะเอามาแถลงครับ ขอเวลาอย่างน้อย 1 ปี เพราะระบบราชการ เร็วได้ปานนี้ก็บุญแล้วครับ งบเงิบอะไรก็ไม่มีอีกต่างหาก เพราะเราไปหลอกหาเงินกะใครเขาไม่เก่ง (ไม่ใช่ว่าไม่เป็นนะ หุหุ)