ของฝากคนไม่ชอบกินผัก
อ่าน: 6406เรื่องที่พูดชวนกันอึงก็คือเรื่องการกินอาหารที่เป็นซีเรียลและผัก เหตุผลที่ชวนกันก็เพราะว่าที่จะกล่าวในเรื่องนี้ก็คือเรื่องไฟเบอร์นี่แหละค่ะว่ามันทำประโยชน์อะไรบ้างถ้ากินมันเข้าไปในแง่ของการดูดซึมไขมันและน้ำตาล แล้วเจ้าไฟเบอร์นี้มันจะมีรสชาดอย่างไรนะ
เวลาสอนใครๆและสะท้อนคำถามเรื่องไฟเบอร์ ทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า กินมันเข้าไปเพื่อให้ถ่ายคล่อง ท้องไม่ผูก และแปลกที่ไม่มีคนตอบว่ามันมีประโยชน์อะไรอีก พอบอกให้รู้เขาก็ฮือฮากันใหญ่ เมื่อสะท้อนคำถามต่อว่ามันอยู่ที่ไหน ก็ยังมีใครๆที่ตอบไม่ได้และไม่รู้จักมัน
ก็ขอทำความรู้จักกับมันกันหน่อยปะไร เจ้าไฟเบอร์ที่ว่ามีอยู่ 2 รูปลักษณ์ รูปหนึ่งนั้นเป็นเส้นใยที่หยาบจนรู้สึกได้ถึงกากใยเวลาเคี้ยวกิน เคี้ยวไปเคี้ยวไปอาจจะเหลือเส้นใยคาอยู่กับฟัน จนต้องใช้ไม้จิ้มฟันแคะกันก็มี รูปหนึ่งนั้นละเอียดเนียนอยู่ในเนื้อ รู้สึกลื่นๆเหนียวๆเวลาเคี้ยวกิน ด้วยความที่เนียนเนื้อเวลาเคี้ยวไปเคี้ยวไปจะไม่รู้สึกว่ามีใย แต่จะรู้สึกเมือกๆเวลาที่กินเข้าไปเยอะๆค่ะ
ข้าวหอมมะลิแดงนั้นก็มีไฟเบอร์ สสส.บอกว่า มันคือตัวที่น่าจะเป็นสารลดน้ำหนัก ช่วยในการขับถ่าย ท้องไม่ผูก ลดการเกิดมะเร็งลำไส้กับมีสารบางตัวที่ยับยั้งการดูดซึมไขมันและน้ำตาลในข้าวชนิดนี้ค่ะ
ไฟเบอร์เป็นอะไรที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมไขมันและน้ำตาลได้ ไฟเบอร์ทำประโยชน์ในการกรองและอุ้มน้ำค่ะ เวลากินมันลงไปในท้อง มันจะทำหน้าที่อุ้มน้ำเอาไว้ แล้วน้ำนั่นแหละที่ทำให้มันอุ้มน้ำตาลและเกลือเอาไว้บางส่วน แถมเส้นใยยังทำให้มีไขมันติดเกาะไปด้วย เมื่อผ่านทางเดินอาหารลงมาต่ำเรื่อยๆ มันจึงติดเอาเกลือ น้ำตาล ไขมันที่กินเข้าไปผ่านตามออกมาด้วย มันเท่ากับได้ช่วยกรองเอาส่วนเกินของสิ่งเหล่านี้ออกมาโดยปริยายไปเลย นี่เองที่ไม่แปลกเมื่อได้พบว่าพืชซึ่งมีไฟเบอร์เยอะๆในตัวเองนั้นช่วยยับยั้งการดูดซึมไขมันและน้ำตาลได้
ธรรมชาติได้ให้ไฟเบอร์มาในอาหารจำพวกผักและผลไม้เพื่อประโยชน์และป้องกันภัยจากอาหารให้แล้ว ในแต่ละมื้อหากว่าเราได้กินมันเข้าไปร่วมกับอาหารอื่นๆ ความปลอดภัยก็จะมีเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรมากกว่าเดิม การปรับนิสัยให้รู้จักกินพืชจึงเป็นนิสัยทางบวกที่ควรสร้างให้ตัวเองและลูกหลานไว้เพื่อแลกกับสุขภาพที่ปลอดภัยมากขึ้นตลอดอายุขัย
ได้บอกกล่าวเรื่องกินพืช ผัก ผลไม้เอาไว้แล้วในธงโภชนาการ สิ่งที่ธงโภชนาการบอกไว้สำหรับเรื่องผักนั้นเป็นผักในรูปสุกนะค่ะ หากเป็นรูปผักสดก็ให้กินเป็นปริมาณ 2 เท่าของผักสุกค่ะ สิ่งที่ควรจะทำเวลากินผักคือ เลือกกินผักทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อว่าจะได้รับวิตามินจำเป็นเข้าไปเพียงพอ วิตามินทั้งหลายในธรรมชาตินั้นจะเอามาใช้ได้ต้องให้มันละลายตัวเองออกมา บางชนิดละลายในน้ำ บางชนิดละลายในไขมัน
ผักที่มีวิตามินละลายน้ำได้ เอาไปล้างมากๆนานๆ วิตามินจะหมดไป วิตามินที่ละลายในไขมัน ถ้าไม่ทำให้ผักสุกก็ไม่ได้วิตามินเหล่านี้ หรือไม่กินไขมันเข้าไปก็เอามันมาใช้ไม่ได้
ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ครอบครัวของฉันมักไปกินอาหารอีสานเป็นมื้อเที่ยง แม่ค้าตำส้มตำจะใส่ถั่วฝักยาวที่ตำไม่แตกมาให้เยอะแยะ ลูกชายกินไปบ่นไปว่าแข็งเคี้ยวไม่อร่อย แต่ฉันชอบกินอย่างที่เขาทำมาให้ แถมด้วยหยิบถั่วเป็นท่อนในถาดผักมาเคี้ยวกินอย่างอร่อยอีกด้วย ตอนกินมันนั่นนึกถึงตอนเด็ก รำลึกได้ว่าชอบกินเจ้าถั่วนี้เล่น คนแก่เขาให้มันมาเคียวแทนยางเวลาที่เด็กเล็กคันเหงือกก่อนฟันจะขึ้น มองย้อนกลับไปแล้วก็รู้สึกทึ่งในภูมิปัญญาคนโบราณที่เขามีวิธีเนียนใช้ถั่วฝักยาวนี้ไซร้แทนยางที่ใช้กัดแก้คันเหงือกโดยไม่ต้องไปซื้อหาให้เปลืองเงินทอง แล้วเด็กยังได้เรียนรู้กลิ่นผักจนเกิดความรู้สึกคุ้นชิน ทำให้กินผักง่ายมาตั้งแต่เด็กไม่รังเกียจมันเพราะกลิ่นเหม็นเขียว
เอ่ยมาข้างต้นว่าเวลากินจะไม่ใคร่รู้ว่า รสชาดของไฟเบอร์มันเป็นอย่างไร รสชาดแข็งๆนี่แหละที่บอกการมีไฟเบอร์มากน้อย อีกรสชาดที่บอกว่ามีไฟเบอร์มากน้อยก็คือ รสชาดลื่นๆเมือกๆหมือนมียางนะค่ะ
กระแสการกินผักในปัจจุบัน จะโน้มนำไปในเรื่องกินป้องกันมะเร็ง จึงแนะนำกันให้กินผัก ผลไม้ให้ได้ 5 สีต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารเคมีจากพืชที่มีประโยชน์(phytochemical) เวลากินผักให้ได้จำนวนเพียงพอจึงแนะนำไว้โดยรวมๆเกินจากที่ธงโภชนาการบอกไว้ กะๆเอาได้ว่าให้กินอย่างน้อยรวมทั้งวันให้ได้ 5 กำมือค่ะ
อย่าลืมกินเนียนๆให้เนียรทุกข์ ถามตัวเองนะว่าวันนี้ กินผักหรือยัง กินผักให้ได้ 5 กำมือต่อวัน ในรูปผักสดและผักสุกคละกันไป เพื่อให้ได้เส้นใยไฟเบอร์ที่ช่วยป้องกันโรคให้และได้วิตามินที่ร่างกายต้องการเพียงพอ และกินคละกันไปให้ครบ 5 สี
4 ความคิดเห็น
คุณหมอคะ คนที่กินผักเก่งที่สุดที่เห็นมา คือคุณหมอที่บ้านค่ะ
เช้าขึ้นมา ผักปั่น 2 แก้ว เที่ยง ถ้าอยู่บ้าน ก็ต้องมีผักสดอีก 1 จานแนม
ตอนเย็น มักกินข้าวบ้านก็ผักอีก 1 จาน
เรียกว่า สนุกกับการกินผักจริงๆ เพราะเห็นประโยชน์ และกินถ่ายโทษตัวเองมั๊งคะ ที่หลายปีก่อน เคยชอบกินพวกเนื้อสัตว์และของมันๆมากค่ะ
อาจารย์หมอจึงมีสุขภาพดีอย่างที่พี่เห็นยังไงละค่ะ กินผักเยอะแล้วใจเย็นลงด้วยนะค่ะพี่
โยมคุณหมอบรรยายได้เห็นภาพเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…. เวลา กินมันลงไปในท้อง มันจะทำหน้าที่อุ้มน้ำเอาไว้ แล้วน้ำนั่นแหละที่ทำให้มันอุ้มน้ำตาลและเกลือเอาไว้บางส่วน แถมเส้นใยยังทำให้มีไขมันติดเกาะไปด้วย เมื่อผ่านทางเดินอาหารลงมาต่ำเรื่อยๆ มันจึงติดเอาเกลือ น้ำตาล ไขมันที่กินเข้าไปผ่านตามออกมาด้วย มันเท่ากับได้ช่วยกรองเอาส่วนเกินของสิ่งเหล่านี้ออกมาโดยปริยายไปเลย …
สำหรับอาตมาเอง ปัจจุบันก็เน้นฉันผักเหมือนกัน แม้จะไม่ได้เลือกมาปรุงเองก็ตาม ธรรมชาติคนเรานั้น การเลือกกิน น่าจะเป็นไปตามทำนองว่า…
เป็นพระ-เณรนั้น โดยมากของที่มีอยู่จะเป็นไปในชีวิตประจำวัน… ของถูกใจของโปรดนั้น ไม่ค่อยได้เจอเพราะสภาพบังคับ… ของแปลกใหม่ หายาก หรือแพงนั้น ก็เจอบ้างตามวาสนา… ก็ได้แต่เพียงจัดการของที่มีอยู่ให้เป็นไปเพื่อสุขภาพตามสมควรเท่านั้น (……..)
เจริญพร
พระ-เณรนะอยู่ในสภาพบังคับให้ลำบากในเรื่อของสุขภาพจากอาหารมากนะค่ะ ตราบใดคนยังเข้าใจว่า อาหารเลิศค่าที่ควรทำถวายพระ-เณรนะ เป็นพวกเนื้อสัตว์เลิศหรู
เท่าที่อิฉันสังเกตดู ไม่ใคร่มีคนทำเมนูผัก ไปถวายพระ-เณรเท่าไรนะค่ะท่าน
อย่างนี้เวลาหลวงพี่ เทศน์โปรดญาติโยม สอนให้รู้เรื่องอาหารสุขภาพซะบ้างนะเจ้าค่ะ คนจะได้เข้าใจวิธีดูแลกายไปพร้อมกับใจเจ้าค่ะ
ถือโอกาสฝากหลวงพี่สอนเณรให้ด้วยซะเลยเจ้าค่ะ เณรเดี๋ยวนี้นะ ไม่ใคร่ฉันผักกันเท่าไรเลยค่ะ แม้ว่าจะมีให้ฉัน
กราบงามๆค่ะ