วัดตัวเองได้มีสารอะไรเกินรึเปล่า
เอารูปนี้มาให้ดู เพื่อให้จดจำกันไว้ว่า เมื่อร่างกายได้รับสารต่างๆในอาหาร ปริมาณที่มันอยู่ในร่างกายจะรวมกันอยู่คล้ายๆน้ำในเขื่อน ทำให้ร่างกายมีสภาพเป็นเหมือนอ่างเก็บน้ำเลยค่ะ ดังที่ได้เล่ามาแล้วว่า ร่างกายมีระบบจัดการสารในร่างกายอยู่ อย่างเช่นเรื่องการกินอาหารหมวดที่ให้ถ่านกลูโคส ถ่านกรดไขมัน และถ่านกรดอะมิโนที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอยู่
ระบบที่ร่างกายใช้ควบคุมถ่านทั้ง 3 ชนิดมีรูปแบบคล้ายกันเลยกับการจัดการน้ำในระบบของเขื่อนและฝาย การจะเกิดวิธีจัดการแบบใดขึ้นอยู่กับการเติมถ่านลงไปในเขื่อนหรือฝายของผู้เป็นเจ้าของร่างกาย และมีวิธีเดาว่ามันน่าจะเป็นรูปแบบใดได้โดยใช้ความรู้การดูโหวงเฮ้งเอวงาม หุ่นงามด๋ายด้วยค่ะ
คนที่มีเอวเกิน และหุ่นท้วมจนถึงอ้วน จะมีระบบการจัดการถ่านทั้ง 3 ชนิด ที่ใช้ทั้งระบบฝายและระบบเขื่อนค่ะ แต่คนที่มีเอวงาม หุ่นงาม ยังต้องมีความรู้การดูโหวงเฮ้งว่าเป็นเนื้อทองหรือเปล่าอีกค่ะ จะดูเนื้อทองยังไง ลองมาเรียนกันหน่อยมั๊ย
หาไม้บรรทัดมานะค่ะ ได้แล้วเอามาเลยค่ะ ใช้มือหนึ่งจับไปที่หนังเหี่ยวๆ เอ๊ย! ไม่ใช่ หนังที่อยู่ใต้ท้องแขนใกล้จักกะแร้ แล้วจับบีบเข้าหากันด้วยนิ้วมือ 2 นิ้ว จดจำระยะห่างระหว่างนิ้ว แล้วนำมาเทียบดูกับไม้บรรทัดว่าได้ค่าเท่าไร ใช่ค่ะใช่เลยค่ะ ฉันกำลังชวนท่านมาวัดค่าความหนาของหนังบริเวณนี้ค่ะ ค่าที่กำลังจะวัดความหนานี้ วัดความหนาของผิวหนังรวมไขมันใต้หนังด้วยค่ะ
ใครที่ไม่อยากจะใช้มือวัดหลังหยิบจับหนังขึ้นมา จะใช้วงเวียนวัดแทนก็ได้ค่ะ ก็แค่ต้องการความห่างของจุด 2 จุดที่วัดเองค่ะ ปกติในทางการแพทย์ เขาใช้แคลลิปเปอร์วัด ซึ่งฉันว่ามันไฮเทคไปหน่อย ชาวบ้านหามาวัดเองไม่ได้ จะให้ชาวบ้านดูแลตัวเองได้ ก็ต้องมีโลเทคมาให้เขาใช้ได้ที่ให้ผลได้คล้ายๆกัน เอาว่าวัดเพื่อแค่แปลว่ามันหนาบางอย่างไรแล้วกันค่ะ เป็นการวัดเพื่อประเมินว่าร่างกายที่เห็นหุ่นงามๆนั้น มันงามเพราะเนื้อทองแท้หรือเปล่าค่ะ คนที่มีเนื้อทองแท้จะเป็นคนที่มีสุขภาพดีแท้ค่ะ
เครื่องมือวัดไขมันใต้ผิวหนังแบบธรรมดา ต้องนำค่าที่วัดไปคำนวณต่อด้วยสูตรอีกต่อ
ความหมายของ เนื้อทองแท้ ที่ฉันกำลังเอ่ยถึงนี้ มันสื่อว่าท่านดูแลสุขภาพไว้ดีแล้ว มีความปลอดภัยมากขึ้นจากโรคหลายโรคทีเดียว โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูงค่ะ ความหมายของมันก็คือ ไม่มีไขมันแฝงอยู่จนล้นเกินและก่อโรคให้ รวมทั้งมีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นสำหรับใช้ถ่านพลังงานที่ได้กินเกินเข้าไปอยู่อย่างเพียงพอ
ในภาษาหมอๆอย่างฉัน การวัดอย่างนี้เขาเรียกกันว่า การวัดปริมาณไขมันใต้ผิวหนังค่ะ มีคนช่วยฉันอธิบายความสำคัญในการตรวจไขมันใต้ผิวหนังเอาไว้ที่นี่อยู่แล้ว จึงชวนท่านไปอ่านกันดูค่ะ http://www.theryo.com/2007/03/_body_fat_1/
จะบอกว่าด้วยประสบการณ์ที่ดูแลเจ้าหน้าที่ฉันอยู่นั้น เจ้าค่าไขมันใต้หนัง มันช่วยฉันดูโหวงเฮ้งเขาได้ว่า คนนี้มีไขมันในเลือดเกิน ก่อนเจาะเลือดมาดูค่าจริงๆค่ะ
ฉันขอสรุปเคล็ดไว้อีกครั้งนะค่ะในเรื่องการดูเนื้อทองด้วยโลเทคอ่ะค่ะ
สำหรับคนที่หุ่นงาม ให้วัดความหนาของหนังใต้ท้องแขนดู ว่ามีไขมันเยอะมากน้อยแค่ไหน ถ้าหนังเหี่ยวก็จะวัดได้ง่ายว่าหนาบางขนาดไหน ส่วนคนที่หนังเต่งตึง ยิ่งดึงแล้วมีสปริงเยอะและจับได้หนา ยิ่งบอกว่ามีไขมันเยอะอยู่ในร่างกายนะค่ะ ทริกการวัดก็คือการไม่หลอกตัวเองด้วยการขยำเอากล้ามเนื้อที่จับได้เป็นลำมาวัดไปด้วย หากใครพบว่าไขมันหนา ให้รีบหาวิธีเพิ่มกล้ามนะค่ะ โรคร้ายจะได้ไม่มาหาก่อนวัยที่ควรจะเป็น การเพิ่มกล้ามจะช่วยลดปัญหาของโรคที่เป็นอยู่แล้วให้ลดความร้ายกาจลงได้ด้วยค่ะ
สำหรับคนที่หุ่นท่านท้วม จับวัดความหนาก็เพื่อ จะได้รู้ว่าท่านได้ขยับแต้มต่อการดูแลตัวเองในการลดไขมัน น้ำตาลที่กิน ได้ผลมากน้อยอย่างไรได้ค่ะ แล้วให้รีบเพิ่มกล้ามให้มีไว้ในทุกๆที่โดยเร็วเลยค่ะ
หลายคนอาจจะบอกว่า ดูแลตัวเองอยู่แล้ว ด้วยการชั่งน้ำหนักตัวทุกวัน หากท่านทำอยู่อย่างนี้ ดีอยู่แล้วละค่ะท่านขา แต่ฉันขอเตือนค่ะว่า มันหลอกตัวท่านได้ค่ะ อันว่าน้ำหนักตัวนั้นมันชั่งน้ำหนักทั้งหมด ทั้งของเหลว กระดูก กล้ามเนื้อ และเครื่องในทั้งหลายในตัว ถ้าหากตัวท่านบวมน้ำ แล้วน้ำเหล่านั้นถูกขับออกทิ้งให้ลดลง หรือหากน้ำหนักที่ขึ้นเกิดจากไขมันที่กิน แล้วท่านลดการกิน ไขมันมันก็ลดลงมันหลอกท่านได้เลยค่ะว่า วิธีลดน้ำหนักของท่านได้ผลทำให้น้ำหนักท่านลดลงแล้ว แล้วท่านก็จะตายใจ ไม่ทำต่อในเรื่องที่ควรทำเพื่อสุขภาพที่ดีของท่านค่ะ
ตัวอย่างเครื่องมือวัดไขมันใต้ผิวหนังแบบพกพาได้ ซึ่งจะแปลผลเปอร์เซ็นต์ไขมันให้ทันที
ใครที่สนใจจะคำนวณค่าเพื่อประเมินการมีเนื้อทองแท้ ด้วยตัวเลข ก็มีสูตรให้ใช้ได้ค่ะ ไปลองเล่นดูได้ที่นี่ค่ะ
http://www.stevenscreek.com/goodies/pi.shtml ส่วนการแปลผลค่าที่ได้ว่ามันแปลความอย่างไร ไปอ่านต่อที่นี่นะค่ะ
http://www.ferris.edu/HTMLS/staff/webpages/bodyfatmeasurement.pdf
ค่าที่แปลผลในบทความที่ลิงค์มาให้เป็นค่าของคนอเมริกันนะค่ะ สำหรับคนไทยนั้นมีค่าอ้างอิงที่นำมาใช้อยู่ดังนี้ค่ะ
การแปลนั้นแปลตามอายุ แบ่งกันที่อายุ 35 ปี และ 55 ปี และเพศ ค่ะ
ระดับไขมันสำหรับผู้ชายที่นำมาใช้แปลค่าเพื่อเตือนเรื่องการกินอาหารที่ให้ถ่านทั้ง 3 ชนิด ไม่ให้ล้น ให้ระวังถ้าค่าไขมันที่ได้เข้าใกล้ค่าต่อไปนี้ค่ะ อายุต่ำกว่า 35 ปี ที่ค่าเข้าใกล้ 22% (เกินกว่า 22% ถือว่าอ้วน) อายุเกิน 55 ปี ที่ค่าเข้าใกล้ 23% (เกินกว่า 23% ถือว่าอ้วน) อายุ 35-55 ปี ที่ค่าเข้าใกล้ 25% (เกินกว่า 25% ถือว่าอ้วน)
ระดับไขมันสำหรับผู้หญิงที่นำมาใช้แปลค่าเพื่อเตือนเรื่องการกินอาหารที่ให้ถ่านทั้ง 3 ชนิด ไม่ให้ล้น ให้ระวังถ้าค่าไขมันที่ได้เข้าใกล้ค่าต่อไปนี้ค่ะ อายุต่ำกว่า 35 ปี และ อายุเกิน 55 ปี ที่ค่าเข้าใกล้ 35% (เกินกว่า 35% ถือว่าอ้วน) อายุ 35-55 ปี ที่ค่าเข้าใกล้ 38% (เกินกว่า 38% ถือว่าอ้วน)
ใช้เนื้อที่เรื่องเนื้อทองไปซะมากแล้ว จึงจำต้องยกยอดการเล่าเรื่องการใช้โหงวเฮ้งดูว่าร่างกายใช้ระบบเขื่อนหรือระบบฝายในการจัดการสารในร่างกายไปเล่าต่อในองค์อื่นแล้วค่ะ
Next : หวานเป็นลม ขมเป็นยา » »
5 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะ อาจารย์ ไม่กล้าวัดอ่ะค่ะ
โชคดี อายุเกินเกินไปมากๆๆๆๆ เลยไม่ต้องวัดค่าระดับไขมันที่ท้องแขน แต่ถ้าที่ท้องนี้ต้องรักษาไว้กว่าจะได้พุงสวยอย่างนี้ต้องใช้เวลา 65ปี นะจะบอกให้ ดูดีออกเต่งตึงดี 55555555555
#1 วัดอย่างนี้ดีกว่าเจ็บตัวไปเจาะเลือดนะค่ะป้าแดง
#2 คุณแม่ยกเจ้าขาจะอย่างไร อายุเท่าไรก็ให้วัดเอาไว้ค่ะ เพราะมันสื่อบอกคร่าวๆว่า ไขมันที่มีอยู่ในตัวมีเกินอยู่ในเลือดไหมได้ค่ะ
เป็นคนไม่กินของมันค่ะ ตรวจแล้ว ไขมันไม่เกินค่ะ