วิธีขับรถให้ปลอดภัย

โดย withwit เมื่อ 8 January 2012 เวลา 7:30 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2618

ผมได้อ่านบทความ “วิธีขับรถให้ปลอดภัยช่วงวันหยุดยาว”  จาก นสพ. ออนไลน์ฉบับหนึ่ง ซึ่งมีทั้งสิ้น ๑๐  ข้อ  ผมอ่านไปก็ขำไป เพราะ 10 ข้อนี้มีเพียงข้อ 6 ข้อเดียวเท่านั้นที่ตรงกับหัวข้อเรื่อง (วิธีขับรถ) แม้กระนั้นก็ตรงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะอีกครึ่งหนึ่งไปบอกให้พกใบขับขี่ ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับ “การขับรถให้ปลอดภัย”   ขอตัดตอนมาลงเฉพาะหัวข้อดังนี้ครับ

1.เข็มขัดนิรภัย
2.สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ ควรใช้ที่นั่งสำหรับเด็กและคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
3.ควรปรับที่ วางศีรษะให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และผู้นั่งรู้สึกสบายมากที่สุด

4.ไม่ควรวางสิ่งของด้านบนหรือรอบ ๆ ที่เก็บถุงลมนิรภัย
5.ผู้ขับขี่ควรทำความรู้จักและความคุ้นเคยกับรถและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยก่อน ออกเดินทาง
6.ขับรถอย่างมีความรับผิดชอบ เคารพกฎหมายและมีความรู้เรื่องระดับความเร็วของแต่ละสถานที่ นอกจากนี้ควรพกใบขับขี่และรายละเอียดของประกันติดรถไว้เสมอ
7.วางแผน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

8.จัดสิ่งของหรือกระเป๋าที่หนักที่สุดให้อยู่ใต้สุด หรือเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

9.ถึงแม้ว่าช่วงหยุดยาวจะเป็นช่วง แห่งการเฉลิมฉลองก็ตาม แต่กฎทองที่ ผู้ขับขี่ทุกคนควรจำไว้คือ “อย่าขับรถ ในขณะเมาเหล้า”

10.หากรู้สึกเหนื่อยให้หยุดพัก

ผมจะลองเสนอวิธีขับรถให้ปลอดภัยตามวิธีของผมบ้าง (ซึ่งใช้ได้เสมอแม้ในช่วงนอกวันหยุดยาว)

1. ขับรถแบบ “ระแวงภัยไว้ก่อน” ซึ่งหมายถึงขับไปก็คาดการณ์ล่วงหน้าถึงอันตรายตลอดเวลาจนเป็นนิสัย ซึ่งมันมีเรื่องที่จะต้องคาดการณ์นับร้อยเรื่องทีเดียว เช่น ทางเลี้ยวซ้ายข้างหน้า เป็นป่าทึบบดบังทัศนวิสัย ทำให้มองไม่เห็นระยะไกล อาจมีรถจอดตายอยู่ริมทาง (หรือมีหินกั้นล้อรถสิบล้อวางทิ้งไว้) ถ้าขับเร็วเกินไปและไม่ระวังเตรียมการณ์เบรกไว้ล่วงหน้าบ้าง พอเจอเข้า มันโผล่ท้ายออกมา รถอีกด้านก็สวนมาพอดี หักหลบขวาก็ไม่ได้ เบรกก็ไม่ทันแล้ว หรือเบรกทันรถก็เซ ก็ชนเปรี้ยง หรือ เช่น อย่าไปคิดว่ารถที่อยู่ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างๆ มันขับรถเก่ง เราจะปาดหน้ามันเร็วๆ มันก็คงเบรกทันหรอก แต่ควรคิดแบบปลอดภัยไว่ก่อนว่า เพื่อนร่วมถนนทุกคนเป็นมือใหม่หัดขับให้หมด ดังนั้นการทำอะไรต้องเผื่อความอ่อนหัดของผู้อื่นไว้ด้วย ดังนี้เป็นต้นแล

2. อย่าเปลี่ยนเลนโดยไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นให้ให้สัญญาณไฟเสมอเมื่อเปลี่ยนเลน (รถจำนวนมากเปลี่ยนเลนแซงแบบกะทันหันโดยไม่ให้สัญญาณ ก่ออันตรายได้มาก)

3. อย่าขับจี้ก้นคันหน้าเกินไป แต่ควรเว้นระยะห่าง สูตรของผมคือห่างคันหน้าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของความเร็วที่ขับ เช่น ถ้าขับมา 100 กม./ชม. ควรเว้นระยะอย่างน้อย 50 เมตร (ที่ usa เขามีกฎ 12 วินาที ซึ่งผมว่ามันมากเกินไป 6 เท่า) …นิสัยคนไทยชอบขับจี้ก้นกันมากจริงๆ แต่สภาพถนนเมืองไทยมีอะไรที่จะต้องเบรกตัวโก่งกระทันหันอยู่เสมอ เช่น หมาแมวไก่ตัดหน้า ถนนเป็นหลุมใหญ่ หมาเน่านอนตายกลางถนน ด่านตำรวจ พอคันหน้าเบรกกะทันหัน หรือหักหลบกระทันหันคันหลังก็ชนท้ายเพราะเบรกไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคันหน้าเป็นรถใหญ่เช่น รถบัส รถบรรทุก ที่บังทัศนวิสัยเราหมด

4. อย่าขับรถเร็วเกินไป..บางท่านคิดว่ารถตัวเองดีเหยียบ 120 ยังนิ่งเฉยเลย แต่การขับเร็วจะทำให้เบรกไม่ทันเช่น หมาตัดหน้า มอไซค์ตัดหน้า หรือเวลาหักหลบเลี้ยวแล้วรถเสียหลักได้ง่าย อีกทั้งถ้ายางแตกกะทันหันรถก็เสียหลักได้ง่าย นอกจากนี้ขับเร็วมากจะทำให้เปลืองน้ำมัน

5. อย่าขับรถช้าเกินไป …ขับเร็วเกินไปนั้นพอเข้าใจได้อยู่ว่าก่อเกิดอุบัติเหตุอย่างไร แต่ขับช้าเกินไปนั้นอาจก่ออบห.มากกว่าขับเร็วเสียอีก ทั้งนี้เพราะรถคันอื่นเขาต้องแซงเราบ่อยมาก ซึ่งการแซงนั้นทำให้ก่ออบห.ได้มาก โดยเฉพาะบนถนนสองเลนที่การจจ.แออัด การขับที่ดีที่สุดคือ “ไหลไปกับการจราจร” การขับช้าเกินไปก็เปลืองน้ำมันด้วยนะครับ (การขับที่ประหยัดน้ำมันที่สุดสำหรับรถเก๋งเครื่องเบนซินคือ ที่ความเร็วรอบเครื่องประมาณ 2500 รอบต่อนาที ซึ่งสำหรับโตย้าวิออสก็ประมาณ 90 กม.ต่อ ชม. พอดี)

6. อย่าเปิด “ไฟผ่าหมาก” เมื่อผ่านสี่แยก …สังเกตว่าคนไทยจำนวนมากมักมีนิสัยนี้ (โรคโง่ผนวกเห็นแก่ตัวระบาดหนัก) โดยหารู้ไม่ว่าคนที่อยู่ทางขวาคุณเขาจะเห็นแต่ไฟเลี้ยวขวา ส่วนคนอยู่ทางซ้ายก็จะเห็นแต่ไฟเลี้ยวซ้าย ดังนั้นเขาก็คิดว่าคุณจะเลี้ยวขวา หรือ ซ้าย ส่วนคุณคิดว่าเขาทั้งสองต่างรู้ชัดว่าคุณจะผ่าหมาก แบบนี้หมากแตกกระจายตายไปหลายพันรายแล้วนะ สิบอกให้เอาบุญ

7. อย่าเปิดไฟตัดหมอก ไฟอื่นๆ โดยไม่จำเป็น…เพราะมันแยงตาคนขับที่สวนมา พอเขามองเห็นไม่ชัดเพราะไฟแยงตาก็เกิดอบห.ได้มาก ไฟซีนอนสีขาวก็จ้ามากเกินไป (เพราะติดผิดหลักวิชาการ) ให้เลิกใช้ซะ คุณอาจมองเห็นได้ดีมากขึ้น แต่มันแยงตารถทีสวนมา ทำให้เขามองทางไม่เห็น ก็อาจหักหัวรถเข้ามาชนคุณตายได้นะ (กรรมตามสนองคนโง่ที่เห็นแก่ตัว แต่มันไปทำให้คนอื่นเขาตายด้วย ยิ่งบาปยกกำลังสองเลยนะ)

8. ให้ทางรถที่ออกมาจากถนนอื่น…เขามีทางเร่งนิดเดียวเพื่อเร่งตัวออกมาขนานกับถนนที่คุณกำลังขับ ถ้าเลนขวาว่าง ควรตีออกให้ทางเขา ถ้าไม่ว่างก็ควรชะลอ พร้อมตีไฟเลี้ยวซ้ายบอกเขาว่าให้ทางนะ ส่วนคนที่กำลังออกก็ควรเร่งความเร็วให้ขนานกันแล้วเปลี่ยนเลนออกไป ไม่ใช่มัวอ้อยอิ่งอยุ่นั่นแหละ ก็ยิ่งก่ออบห.ได้มาก

9. อย่าจอดรถตรงเลนเร่งตัว…เห็นมากจริงๆ ที่รถจอดตรงเลนเร่งตัว (ตามข้อ ๘) โดยเฉพาะรถบรรทุก สองแถว แต่รถเก๋งก็มีบ้างเช่น จอดส่งลูก ซื้อไก่ย่าง (เห็นรถตร.จจ.วิ่งผ่านไปมาก็ไม่ลงไปจับปรับ) การจอดแบบนี้มันอันตรายมากที่สุด เพราะเลนนี้เขาเอาไว้ให้รถเร่งตัว ซึ่งผู้ขับจะต้องจรดสายตามองกลับหลังไปที่รถเร็วที่วิ่งขนานมาด้านหลัง อาจมองไม่เห็นรถที่จอด หรือมองเห็นก็ทำให้เขาเร่งตัวไม่ได้ ทำให้ต้องตีออกแบบช้าๆ แล้วอาจไปชนกับรถเร็วบนถนนหลัก

10. การจอดรถข้างทาง ไม่จำเป็นไม่ควรจอด (เช่นผู้ชายจอดยืนเยี่ยวทั้งที่ปั๊มเขาก็มีเป็นระยะถี่ๆ อดกลั้นซักนิดก็ไม่ยอม มักง่ายเข้าว่า) หรือจอดซื้อผลไม้ ไข่ปิ้ง โรตีสายไหม ฯลฯ แต่ถ้าจำเป็นให้จอดให้ชิดซ้ายให้มากที่สุด อย่าให้ล้นออกมาบนผิวจราจร เห็นจำนวนมากจอดล้นออกมาครึ่งคัน ทั้งทียังมีไหล่ถนนเหลืออีกมาก อย่างนี้ต้องให้สิบล้อเมายาเสยเสียให้เข็ดหลาบจำ

11. เมื่อจอดรถแล้ว ก่อนเปิดประตูรถลงมาให้ดูด้วยว่ารถหลังเขาตามมาหรือเปล่า …คนไทยจำนวนมากมักง่าย และไม่ระแวงภัย เปิดประตูออกมาแบบกว้างๆ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ มีรถมอไซค์มาเสยประตูขณะกำลังเปิดอยู่บ่อยๆ

12. ก่อนเลี้ยวซ้ายออกจากซอย อย่ามองแต่รถทางขวา ให้ระวังรถมอไซค์และรถยนต์ที่วิ่งสวนทางมาตามไหล่ถนนทางซ้ายด้วย …ผมเองเกือบเสยไอ้พวกนี้บ่อยๆ เดี๋ยวนี้พัฒนานิสัยระแวงภัยได้แล้ว เราอยู่ในสังคมไร้วินัยและเห็นแก่ตัว ต้องรู้รักษาตัวรอดด้วยจะเป็นยอดดี

13. เมื่อเห็นไฟแดงข้างหน้า ให้ปล่อยคันเร่ง แล้วปล่อยให้รถไหล แตะเบรกแต่เนิ่นๆ ถ้าเบรกมีปัญหาเรายังมีเวลาแก้ไขสถานการณ์ เช่น ดึงเบรกมือ ใช้เกียร์ต่ำช่วยชะลอรถ ..สังเกตเห็นคนไทยส่วนใหญ่ จะเร่งรถ แล้วไปเบรกแรงๆ เอาที่ใกล้ๆ ไฟแดง ซึ่งมันโง่ได้ใจจริงๆ เพราะเร่งไปก็ไปไม่พ้นอยู่ดี ต้องติดเท่ากัน แถมเปลืองน้ำมัน เบรกสึกมาก และ ถ้าเบรกแตกก็ชนกันระเนนาด เพราะปรับตัวไม่ทัน เห็นมามากที่เบรกแตกชนกันที่สี่แยกไฟแดง

14. อย่าฟังวิทยุ เพลง คุยกัน กิน ในรถ …เพราะมันทำให้ด้อยสมาธิในการขับ ทำให้อาจหลบหลุมไม่ทัน หรือ ทับหมาเน่า หรือ ชนก้นค้นหน้าที่เขาเบรกอย่างกระทันหัน เพราะพอขาดสมาธิมันก็ทำให้เวลาในการสนองตอบน้อยลง …โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าอบห.ส่วนใหญ่เกิดจากผู้ขับที่ “ชำนาญ” เพียงส่วนน้อยที่เกิดจาก “มือใหม่หัดขับ”

15. อย่าขับรถกินเลน…โดยเฉพาะเข้าโค้งเลี้ยวขวา…นิสัยคนไทยชอบทำแบบนี้จริงๆ (ร้อยละ 80 ก็ว่าได้) ซึ่งมันอันตรายต่อรถที่เขาเลี้ยวซ้ายสวนมามาก โดยเฉพาะโค้งที่ทัศนวิสัยต่ำเช่น มีป่าไม้บัง

16. อย่าแซงคิวตรงที่วกกลับ (ยูเทิร์น) …การแซงคิวคันอื่นนั้นนอกจากเป็นมารยาทที่ทรามมากแล้ว ยังก่ออบห.ได้มากทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เพราะไปบังตารถคันอื่น (ที่เขามาก่อน) ทำให้เขามองไม่เห็นรถที่วิ่งมาทางซ้ายด้วยความเร็วสูง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอารมณ์ด้วยที่ถูกแซงคิวหน้าด้านๆ เช่นนั้น

17. เร่งตัวให้เร็วที่สุดเมื่อวกกลับ (ยูเทิร์น )…รถจำนวนมากพวกวกกลับเสร็จก็ทำอ้อยสร้อย ไม่รีบเร่งตัวออกไป ทำให้รถที่เขาตามมาต้องเบรกตัวโก่ง ในกรณีที่มือใหม่ หรือ ขาดสติ (เพราะฟังเพลง คุย เหม่อ) ก็ชนกันตายมามาก

18. เช่นเดียวกับข้อ 17 เวลาออกจากปั๊ม ก็ต้องรีบเร่งตัวด้วยนะ อย่าทำอ้อยสร้อย

19. ตัดสินใจแซงให้ดี..ให้ทันกาล โดยเฉพาะถนนสองเลน แล้วมีรถช้าขวางหน้า เราต้องแซงในขณะที่ควรแซง (กะระยะรถสวนมาให้กำลังพอดี) ถ้าเราแซงช้าเกินไปแบบว่า “กลัวอยู่นั่นแหละ” รถที่ตามหลังมาเขาจะรำคาญแล้วทำการแซงซ้อนคัน ซึ่งก่อเกิดอบห.ได้มาก แต่การแซงที่เร็วเกินไปก็ก่ออบห.ได้มากพอกัน ของแบบนี้ต้อง”สายกลาง” เป็นดีที่สุด

20. เปิดไฟหรี่ ไฟหน้า ในเวลาโพล้เพล้ แต่เนิ่นๆ (ทั้งตอนเย็นและตอนเช้า) ..สังเกตดูคนขับไทยส่วนใหญ่จะรอจนมืดสนิทแทบมองไม่เห็นทางจึงจะเปิดไฟหรี่หรือไฟหน้า ซึ่งเป็นอันตรายมาก การเปิดไฟแต่เนิ่นๆ นั้นไม่ใช่เพื่อให้เราเห็นทาง แต่เพื่อให้คนอื่นเขามองเห็นเรา โดยเฉพาะรถที่สีมืดๆ (ซึ่งเป็นที่นิยมมาก) ตามสถิติอบห. อบห. จำนวนมากเกิดเวลาโพล้เพล้ (ยิ่งเมืองไทยยิ่งมากกว่าปกติเพราะมีชาวนาชาวไร่เดินทางกันมากในช่วงนี้ ใช้รถอีแต๋น อีตุ้ย ที่ไม่มีไฟ วิ่งช้าจำนวนมาก รวมทั้งมอไซค์ไม่มีไฟ) ยามฝนตกก็เช่นกัน แม้ตกเบาๆ ก็ต้องเปิดไฟ เพราะกระจกรถจำนวนมากจำเป็นฝ้า ทำให้เขามองเห็นเราไม่ถนัด เปลี่ยนเลนออกไปชนกันได้ง่ายๆ

21. บีบแตรเตือนรถคันอื่น (โดยเฉพาะมอไซค์) อย่างพอดี สังเกตว่าคนไทยเราวันนี้มีแตรเอาไว้บีบด่า (เมื่อเหตุการณ์เกิดไปแล้ว) แทนที่จะเอาไว้บีบเตือนไม่ให้เหตุการณ์เกิด …มอไซค์ต้องบีบเตื่อนให้มากที่สุดเพราะพวกนี่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุนหรือชาวบ้านนอกที่ไม่ค่อยรู้และหรือเคารพกฎจราจร ..ทราบมาว่าอบห. 70% เกิดขึ้นจากรถมอไซค์เป็นสาเหตุ ผมเจอกับตา และ พบกับตนเองบ่อยๆ ที่รถมอไซค์เลี้ยวขวาจากเลนซ้ายอย่างกะทันหัน โดยไม่ให้สัญญาณใดๆ

22. ขับกลางคืน ถนนสองเลน รถสวนมาไฟสูงแยงตามาก มองทางไม่เห็น จะทำไงดี วิธีการของผมคือ ผ่อนเครื่องช้าลงไว้ก่อน เอาไฟลงต่ำ (อย่าไปเปิดสูงใส่มันจะยิ่งไปกันใหญ่ อย่างน้อยเรามองเห็นก็ยังดี ถ้ามันก็ไม่เห็นด้วยจะยิ่งไปกันใหญ่) จรดสายตาไปที่เส้นขาวขอบถนนด้านซ้าย แล้วรักษาทิศของรถด้วยเส้นขอบถนนนั้น (เสียแต่ว่าถนนไทยส่วนใหญ่นั้นไม่มีการทาสีเส้นถนนเมื่อมันจาง แบบนี้ก็ต้องหาแนวอื่นเป็นที่พักสายตา)

23. ขับกลางคืน ถนนสองเลน การแซงแล้วมีรถสวนมานั้น ต้องกะระยะรถที่สวนมาให้ดี บางท่านมีกฎว่า ให้มองที่ไฟหน้า ถ้าไฟหน้าคู่บีบตัวกันเป็นไฟดวงเดียว แสดงว่ามีระยะห่างพอ ให้แซงได้ ..อนึ่งควรระวังด้วยว่า รถไฟตาเดียวที่สวนมานั้นเป็นรถมอไซค์แน่ๆ ไม่ใช่รถสองตาแต่ตาบอดข้างหนึ่ง จนเหลือตาเดียว (แบบนี้ชนกันตายมาก็มาเหมือนกัน)

24. ขับกลางคืน ควรเรียนรู้การใช้ไฟสูงให้ถูกวิธี จะช่วยลดอบห.ได้มาก เช่น ขับคนเดียวไม่รบกวนผู้อื่นควรเปิดไฟสูง เข้าโค้งกลางป่าควรตีไฟสูงต่ำสลับกัน (เพื่อให้รถที่สวนมารับทราบ) ก่อนแซงควรกระพริบไฟสูงต่ำให้รถคันหน้ารับทราบ แต่พอเราถูกแซง เราต้องหลบไฟต่ำให้เขาด้วย (ไม่แยงตาเขาเข้ากระจกหลัง) ถ้าทัศนวิสัยข้างหน้าไม่ดี เราก็สามารถดึงไฟสูงเพื่อมองไกลสัก 1 วิ ก็ได้

25. เรียนรู้กฎจราจร เช่น ทำการตัดหน้าแบบรู้สิทธิตนเอง (กฎจราจร) เช่น ตรงสี่แยก หรือ สามแยก เราต้องการเลี้ยวขวาเข้าถนนอีกสายที่ตั้งฉากกัน แล้วมีรถจากฝั่งขวามือเราก็จอดรอเลี้ยวขวาอยู่ด้วย ซึ่งทำให้เส้นทางของทั้งสองตัดกัน (และชนกันบ่อยด้วย) ถามว่าถ้าไม่มีไฟสัญญาณใครควรให้ทางใคร (ถามมาหลายรายแล้ว ส่วนใหญ่ตอบว่าไม่รู้ หรือตอบผิด)

…เอาแค่นี้ก่อนนะครับ จริงๆแล้วยังมีอีกมากหลาย ทางที่ดีกรมการขนส่งทางบกและหรือตำรวจจราจรควรรณรงค์ผ่านทีวีให้คนไทยขับรถให้ปลอดภัยด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งควรกำหนดไว้ในข้อสอบใบขับขี่ด้วยก็จะดี

« « Prev : ดองเขมรด้วยเกลือสยาม

Next : เมืองไทยใหมเอี่ยม (๕..เริ่มต้นที่ไหนดี) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "วิธีขับรถให้ปลอดภัย"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.77237105369568 sec
Sidebar: 0.014465093612671 sec