การปฏิบัติธรรม ๑๖…ความจริงอย่างภววิสัย (objective reality)
คำว่า “ความจริงอย่างภววิสัย” นี้ เป็นการแปลอันแยบยลที่มาพร้อมกับลัทธิคอมมิวนิสต์
วันนี้ในเชิงวิทยาศาสตร์แบบฟิสิกส์ก็มีคนพูดกันมาก โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการด้าน quantum reality (ความจริงแบบควันตัม) ที่เป็น คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ชั้นสูงสุดในโลกในวันนี้ก็ว่าได้ (พศ. ๒๕๕๔)
ผู้เขียนเคยเรียนวิชา quantum mechanic กับท่านอาจารย์ผู้รจนาตำราด้านนี้ ในมหาวิทยาลัยระดับทอปไฟว์ของ usa มีนศ. ป.โทเอกเรียนกันเต็มห้องสัก 50 คน ..คณิตศาสตร์เต็มกระดานไปหมด ..ไอ้เราก็เพิ่งไปเรียนใหม่ ภาษาปรกิดก็ยังไม่เข้มแข็ง แต่ฟังท่านสอนไป ก็สงสัยไปว่า ทำไม Observer (ผู้สังเกตการณ์) จึ่งมีส่วนกำหนด “ความจริง” ด้วย ก็รวบรวมความกล้า ยกมือกลางห้อง ถามท่านว่า “Professor, but why a mere observation of an observer would change a physical reality?; it seems very unlikely to me; for things should have existed in its own natural conditions regardless of whether or not someone is observing it? “
ครูท่านยิ้ม (ปกติเป็นเสือยิ้มยากมากๆ ) และอธิบายยาวยืด (ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจความหมายอยู่ดี ทั้งที่เข้าใจภาษาอังกฤษทุกถ้อยกระทงความ )
ไม่น่าเชื่อว่าวิชานี้ทั้งวิชา มีข้าพเจ้าถามปัญหาอยู่เพียงคนเดียว และมีเพียงคำถามเดียว …ปกติวิชาอื่นๆ จะมีร้อยคำถาม ตามประสาฝรั่งผู้ใฝ่รู้ทั้งหลาย
………ผมขอวกกลับมาเรื่อง “ความจริง” ทางศาสนา (หรือไม่ศาสนาก็ตามที) ..ต่างฝ่ายต่างอ้างกันว่า “ของข้านี่สิจริงกว่าของเอ็ง” จนเป็นเหตุให้ได้รบ กำลังรบ และจะรบกันต่อไประงมทั่วโลก
ตายกันไปหลายสิบล้านในสงครามศาสนาทั้งหลาย เพียงเพื่อพิสูจน์ว่าของข้านี่สิจริงยิ่งกว่าเอ็ง …โดยที่ “ความจริง” คืออะไรก็ยังหาเข้าจิตคิดกันตกไม่
เพราะความจริงนั้นมันมีสองอย่างเป็นอย่างน้อย คือ แบบ อัตตวิสัย (subjective reality) และ ภววิสัย (objective reality) ส่วนไอ้ที่เบลอๆ อยู่ระหว่างโต่งทั้งสองมีอีกอนันต์
แม้วิทยาการด้าน quantum reality จะได้วิวัฒน์มาจนบัดนี้ เราก็ยังไม่รู้กันแน่ว่า “ความจริง” คืออะไร
แต่ พศ. ๐๐๐๐๐ นั้น สมณโคดม ได้พูดสอนไว้หลายหลากแล้วว่า “สรรพเพ ธัมมา อนัตตา ” ซึ่งในความเห็นของผู้เขียน คือการกำหนดความจริงอย่าง ภววิสัย (objective) มากที่สุด เท่าที่ภาษามนุษย์อำนวย …ก็คงต้องถามต่อว่า…อนัตตาคืออะไร …ซึ่งผู้ตอบส่วนใหญ่ก็ตอบแบบ อัตตวิสัย เสียอีก
…คนถางทาง (๙ สค. ๕๔)
« « Prev : พยงค์ มุกดา (๒) ..มหาคีตบุรุษไทย..แต่งเพลงอมตะทั้งคำร้องและทำนองไว้มากกว่า 1000
Next : ไพร่ฟ้าหน้าแดง (แกมเหลือง) » »
ความคิดเห็นสำหรับ "การปฏิบัติธรรม ๑๖…ความจริงอย่างภววิสัย (objective reality)"