ปฏิบัติธรรม ๙…กลเม็ดเพื่อทำสมาธิให้ได้ผลเร็ว

โดย withwit เมื่อ 3 August 2011 เวลา 7:06 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3520

(ช่วงเข้าพรรษานี้ตั้งใจว่าจะทำบุญด้วยการเอาประสบการณ์เท่าที่มีของตนมาบอกกล่าว อาจเป็นประโยชน์บ้าง เรื่องนี้ได้โพสต์ไว้แล้ว แต่สำรวจว่าหายไป ก็เลยเอามาโพสต์ใหม่ ท่านที่ไม่ได้อ่านแล้ว ก็อ่านอีกก็ได้นะครับ :-)

 

การทำสมาธิให้เกิดเร็วนั้น (หรืออย่างน้อยก็เกิดบ้างนานๆครั้งก็ยังดี)  มีกลเม็ดเล็กๆน้อยๆที่ค้นพบ จากการลองผิดลองถูกเอาด้วยตนเอง (เพราะส่วนใหญ่เราไม่มีอาจารย์สมาธิเป็นตัวตน อีกทั้งในตำราส่วนใหญ่ก็ไม่มีเขียนไว้ในเรื่องเหล่านี้)  จึงขอฝากไว้ให้สหายธรรมผู้สนใจลองนำไปปฏิบัติดู

 

  • 1) ฐานการนั่งต้องมั่นเสถียร (ไม่เอียงโอน) ดังนั้นผมไม่เอาทั้งขาขวาทับซ้ายหรือซ้ายทับขวาทั้งสิ้น แต่เอาขาทั้งสองข้างวางกับพื้น โดยซ้ายหลังขวา หรือ ขวาหลังซ้ายก็มั่นพอกัน ขาในขดเอาฝ่าเท้ามาแนบขาอ่อนของขาอีกข้างหนึ่ง ขานอกแนบขาในอีกที พบว่าฐานมั่นมาก ไม่เอียง และไม่ค่อยเกิดเหน็บชา ทำให้นั่งได้ทนนาน (แต่ถ้าเอาขาทับกัน ฐานจะเอียงซ้ายขวา นน.ตัวลงที่แก้มก้นข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างหนึ่ง แถมเกิดเหน็บชาได้ง่าย เพราะขาบนไปทับเส้นเลือดเส้นประสาทของขาล่าง)

 

  • 2) กายตรง…หมายถึงหลังตรง (ไม่นั่งหลังงอ) กระดูกสันหลังทุกข้อต่ออาการกันเต็มหน้าตัดกระดูก อันนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ เพราะถ้าข้อกระดูกสันหลังต่อไม่ตรง จะทำให้เกิดจุดสัมผัส จะทำให้ล้าที่จุดนั้นได้ เพราะรับแรงมาก ซึ่งการล้ากายจะส่งผลต่อจิตทำให้จิตถูกกระทบ ก็เกิดสมาธิได้ยาก (ลองคิดดูว่าการยืนเต็มฝ่าเท้า กับยืนแบบเขย่ง (เป็นจุด) อย่างไหนเมื่อยเร็วกว่ากัน) การนั่งแบบขาทับกันนั้น กระดูกสันหลังไม่ตรงโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะฐานเอียง

 

  • 3) หัวแม่โป้งมือชนกัน…หมายถึงมือทั้งสองที่ประสานกันอยู่บนหน้าตักน่ะครับ …เรื่องนี้เลียนแบบท่านอาจารย์ชา มา ท่านไม่ได้สอน แต่เห็นรูปถ่ายท่านนั่งท่านี้ หัวแม่โป้งชนกัน นิ้วเรียงชิดติดกันเป็นระเบียบแบบทหารอีกต่างหาก ก็เลยลองเอามาทำดู เอ..ดีแฮะ สงสัยมันมีหลักการอะไรสักอย่าง เช่น ต่อเชื่อมวงจรจิตประสาทให้เป็นวงจรปิด (ปกติผมไม่ชอบอะไรที่เป็นระเบียบมากนัก ชอบนอกคอก แต่กลเม็ดระเบียบตรงนี้รับรองว่าดีครับ)

 

  • 4) ไม่เกร็งกล้ามเนื้ออวัยวะต่างๆ: เวลาเริ่มนั่ง ตั้งจิตไว้แรงกล้ามาก ว่าเอาหละหวาวันนี้คงได้เห็นดำเห็นแดงกัน พอตั้งใจมาก สังเกตว่าธรรมชาติมักจะทำให้มีอาการ”เกร็ง” แบบไม่รู้ตัว เช่น กล้ามเนื้อ ขา แขน ซึ่งในช่วง “วอรม์อัพ” ก่อนเล่นธรรมกีฬานั้น ก็ควรเอาจิตกวาดไปทั่งสรรพกาย พร้อมกับสำรวจดูว่าเราเกร็งตรงไหนไหม ถ้ามีก็ผ่อนเสีย รอบสอง รอบสาม ตามดูไป …ที่เกร็งมากโดยอาจไม่รู้ตัวก็ที่ หน้าท้องครับ ดูให้มาก ต่อมาก็หน้าผาก และ หนังตา ที่จับตัวยากที่สุดน่าเป็นลิ้น (เช่นห่อลิ้น หรือเอาไปดันเพดานไว้) วิธีแก้เกร็งหนังตาคือแทนที่จะหลับตา ให้หรี่ตาแทน พอมันหายเกร็งแล้วจึงหลับ ความจริงหรี่ตาตลอดก็ดีเหมือนกันนะ เคยลองทำดู สนุกดีเหมือนกัน แต่อันนี้แล้วแต่จริตก็แล้วกัน เคยพิเรนลองเอาจิตไล่เข้าไปในปอดตับม้าม หัวใจ แล้วบอกให้มันเลิกเกร็งด้วย อาจเป็นวิถีแห่งจิตบำบัดต่อไปก็เป็นได้นะ (แต่อันนี้ต้องไปดูหนังสืออนาโตมีมาก่อน 55)

 

  • 5) ปราบลิงจ๋อ: ขวากหนามสำคัญที่สุดของนักเล่นธรรมกีฬาก็คือ ลูกมันออกสนามบ่อยๆ ต้องวิ่งไปเก็บลูก อ้าว ดอกไม้ริมสนามมันสวย ก็ไปชมดอกไม้เสียอีก กลับมา อ้าว หมดเวลาแล้ว ถูกจับแพ้ฟาล์วอีกนัด กล่าวคือ จิตมันว่อกแว่กเหมือนลิงจ๋อ ไม่อยู่กับที่ คิดโน่นคิดนี่จนเพลินไป ก็ไม่เกิดสมาธิ อาจารย์วิปัสสนาส่วนใหญ่ก็จะสอนทำนองว่า “ถ้ามันวิ่งออกไปเราก็มีสติเรียกมันกลับมาคืน…จบ” วิธีที่ผมคิดเองในการปราบลิงจ๋อให้หงอคือ ใช้การกลั้นหายใจ คือหายใจลึกๆ แล้วกักลมไว้ในปอดนานๆ ให้นานที่สุด จะบริกรรมคำอะไรด้วยก็ได้เช่น จากนี้ไปจิตเราจะไม่วอกแวกอีกหนอๆๆๆๆ กลั้นไว้จนแทบว่าจะหมดลมตาย แล้วปล่อยออก แล้วสูดเข้าเต็มปอดใหม่ทันที กลั้นอีก ..ทำแบบนี้สัก 3-10 เที่ยว พบว่าปราบพยศได้ดีนักแล

 

  • 6) ถ้าฝึกอยู่บ้านก็พอโอ..แต่บางคนไปฝึกแบบเข้าคอร์สเป็นกลุ่ม พอออกจากสมาธิก็เม้าท์แตกกันใหญ่ แบบนี้กำลังสมาธิที่สะสมไว้ก็มลายหายหมด ..ดังนั้นพอออกสมาธิแล้ว จิตต้องสำรวมต่อ เพื่อสะสม “โมเมนธรรม” เอาไว้ไปเป็นแรงเริ่มต้นในการฝึกครั้งต่อไป ดังนั้นในครั้งต่อไปเราก็ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ และในครั้งต่อๆ ไปก็ยิ่งเริ่มต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ..สมัยบวชสามเดือนผมเคยฝึกแบบนี้จนกระทั่งว่า พอนั่งปึ๊บสมาธิก็มาปั๊บภายใน สองสามวิ แต่วันนี้เสียดาย โมเมนธรรม มันหดหายไปมากแล้ว ชีวิตนี้จะสะสมคืนได้ทันก่อนกายแตกไหมหนอ

 

…คนตามธรรม (๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔)

 

« « Prev : ปฏิบัติธรรม..๘..หลวงพ่อทิวาอธิบายความ..ลมหายใจคือธาตุสี่

Next : ปฏิบัติธรรม ๑๐…การเดินจงกรม (my way) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น

  • #1 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 August 2011 เวลา 12:40 pm

    หาได้ยากจากตำราจริงๆ ครับ ยิ่งไม่มีอาจารย์สอนก็ยิ่งลำบากใหญ่ ขอบคุณมากครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.35398602485657 sec
Sidebar: 0.23154211044312 sec