ศรีสะเกษ ฟ้องศาลโลก กรณีเขาพระวิหาร

โดย withwit เมื่อ 14 June 2011 เวลา 8:03 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1212

ศรีสะเกษ ฟ้องศาลโลก กรณีเขาพระวิหาร

 

ผมไม่ทราบว่าทำได้หรือเปล่า แต่เชื่อว่ากฎหมายมีช่องโหว่ให้ทำอะไรแปลกๆได้เสมอ โดยเฉพาะกฎหมายโลก มันคงเขียนขึ้นมาแบบหลวมๆ กว้างๆ ไม่ได้รอบคอบอะไรนักหรอก ย่อมมีช่องโหว่มากเป็นพิเศษ  

 

มูลเหตุที่ทำให้กำเนิดศาลนี้เดาว่าก็คงเพื่อตัดสินคดีอันเป็นผลพวงของการล่าอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศสนั่นแหละ  เพราะสองชาตินี้มีอำนาจมากใน UN อีกทั้งได้ทำระยะตำบอนไว้มากในโลกนี้ ทำให้มีข้อพิพาทระหว่างกันมากในเรื่องของดินแดนที่ไปแด๊กซ์เขามา รวมทั้งในอินโดจีนที่ไทยเรารับกรรมมาเต็มๆ

 

ถ้าฝรั่งเศส ไม่เข้ามายึดดินแดนแบบหมาป่าลูกแกะ ป่านนี้ อย่าว่าแต่เขาพระวิหารเลย แม้แต่นครวัด ก็ยังเป็นของเรา

 

อีกทั้งคดีที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่มีอายุยาวนานนับพันปี มันยิ่งละเอียดอ่อน จะมาตัดสินกันด้วยเส้นเขตแดนที่รังวัดกันด้วยเวลาหนึ่งวันอย่างเดียวไม่ได้หรอก

 

 และถ้าวัดกันตามหลักสากลด้วยสันปันน้ำแล้วก็ยังน่าฉงนว่าจะเป็นของใครกันแน่ โดยเฉพาะเขตแดนดังกล่าวก็มีความอยุติธรรมอยู่มาก เนื่องจากเป็นผลพวงของการล่าอาณานิคมของมหาอำนาจ ซึ่งเป็นลัทธิที่เลวร้ายที่สุดในตัวของมันเองอยู่แล้ว  ดูสิ..ฝั่งขวาแม่น้ำโขง   (จังหวัดไชยบุรีของสปป.ลาว)  มันควรต้องเป็นของไทยตามหลักสากลของการแบ่งด้วยแม่น้ำหลัก คือแม่น้ำโขง แต่ฝรั่งเศสก็ใช้อำนาจปืนเรือ “ลามอตปิเกร์” ขีดเว้าเข้ามาแบ่งไปเป็นของฝรั่งเศสได้อย่างสบายใจ

 

ขอให้ลืมเรื่องเขตแดน สันปันน้ำ และอำนาจปืนเรืองี่เง่าไปสักครู่  ขอให้หันมาพิเคราะห์มิติด้านจิตวิญญาณบ้าง ผมเชื่อว่าปราสาทฯนี้สร้างโดยชาวศรีสะเกษโบราณอย่างแน่นอน เพื่อใช้เป็นศูนย์ยึดเหนี่ยวด้านจิตวิญญาณ เพราะคนเสียมราฐ (ในเขมร) ไม่มีทางปีนเขาขนหินก้อนใหญ่ขึ้นมาสร้างได้ อีกทั้งบันไดทางขึ้น ก็หันมาทางศรีสะเกษ ซึ่งแสดงว่าชาวศรีสะเกษโบราณเป็นผู้ใช้วิหารนี้

 

ดังนั้นโดยหลักสากล คนศรีสะเกษปัจจุบัน ซึ่งเป็นลูกหลานของผู้สร้างและผู้ใช้ปราสาทนี้ย่อมต้องเป็นเจ้าของปราสาทนี้ ตามหลักการสากลแห่งการรับมรดก ที่ฝรั่งเศสเองก็ใช้เป็นเหตุผลในการอ้างเอาเขมร และลาวไปจากไทย โดยอ้างว่าเป็นมรดกตกทอดมาจากเวียตนามซึ่งเคยปกครองลาวและเขมรมาก่อน

 

ตามมาตรา ๖๖ ของรธน.ไทย ได้ให้สิทธิท้องถิ่นในการพิทักษ์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหลักสากลอยู่แล้วด้วย เชื่อว่าศาลโลกจะฟังชาวศรีสะเกษในเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหารเป็นความกันในสมัยรัฐบาลเผด็จการที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของชาวศรีสะเกษอย่างแท้จริง ก็ยิ่งเป็นประเด็นที่สามารถใช้อ้างได้ว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นตัวแทนอันชอบธรรมในกรณีพิพาทนั้น

 

หลายท่านอาจโต้ว่า เรื่องมันแล้วไปแล้วอย่าไปรื้อฟื้นเลย มันจะเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกหลายท่านที่เป็นฝ่ายนกพิราบก็จะหาว่าผมเป็นเหยี่ยวที่น่ารังเกียจ ซึ่งมันไม่ใช่เลย ผมเป็นเพียงคนที่รักความถูกต้องยุติธรรมเท่านั้นเอง  เช่น

ผมคิดมานานนับ 30 ปีแล้วว่าเขตแดนประเทศในโลกนี้ไม่ควรจะมีด้วยซ้ำไป เพราะนกพิราบหรืออีเหยี่ยวจากฝั่งไทยหรือเขมรมันก็บินไปขี้รดปราสาทเขาพระวิหารได้เท่าเทียมกัน ไม่ว่าศาลโลกจะตัดสินคดีความได้งี่เง่าอะไรสักปานใดก็ตาม

 

เขาพระวิหารแห่งนี้            สร้างโดยคนศรี-

สะเกษในเขตแดนไทย

อีกทั้งทิศทางบันได           ก็ยังหันไป

สู่ในเขตแคว้นแดนเรา

ขะเหมนที่มาอ้างเอา          อยู่ต่ำตีนเขา

ไกลเงาเขาพระวิหาร

เผ่าไทยอยู่มานมนาน        บ้านเชียงโบราณ

สร้างบ้านแปงเมืองสืบมา

พิมายพนมรุ้งงามตา          นมนานหนักหนา

สร้างมาก่อนนะคอนวัด

คือเครื่องชี้เห็นชัดชัด         เป็นเครื่องผูกมัด

นครวัดนั้นสร้างตามเรา

บัดนี้รัฐไทยโง่เขลา            คิดแบบงี่เง่า

ยกเขาให้เป็นเจ้าของ

ตื่นเถิดเพื่อนไทยทั้งผอง    ตื่นมาเรียกร้อง

เอาของไทยเดิมคืนมาฯ

 

 

ทวิช จิตรสมบูรณ์

« « Prev : จากเขาพระวิหาร ถึงวัดภู และ ชัยบุรี

Next : ฟ้องศาลโลกขอหินคืน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ศรีสะเกษ ฟ้องศาลโลก กรณีเขาพระวิหาร"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่

*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word




Main: 0.050337076187134 sec
Sidebar: 0.0082390308380127 sec