ระบบอุปถัมป์กับสังคมและการเมืองไทย (โต้นายจักรภพ)

โดย withwit เมื่อ 13 June 2011 เวลา 10:18 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1327

ระบบอุปถัมป์กับสังคมและการเมืองไทย (โต้นายจักรภพ)

 

เมื่อประมาณ พศ. ๒๕๕๑ สมาคมนักข่าวต่างประเทศเชิญนายจักรภพ เพ็ญแขไปพูดเรื่องทำนองนี้ ซึ่งผมรู้จักฝรั่งดีพอควรจึงเดาใจนักข่าวได้ว่าเขาต้องการให้พูดเกี่ยวกับระบบการเมืองไทยในตัวของมันเอง ไม่ได้มีเจตนาจะโยงไปยังสถาบันอะไรเลย แต่เดาว่านายจักรภพเห็นช่องโหว่ตรงนี้ก็เลยสอดแทรกเชื่อมโยงไปจนได้ โดยโยงไปถึงปฐมกษัตริย์แห่งสุโขทัยนั่นเทียว

 

เรื่องระบบอุปถัมป์ในระบบการเมืองและราชการไทยนั้นตัวผมเอง (ซึ่งเป็นวิศวกร) ก็ได้ขบคิดเป็นการบ้านเล่นๆมานานแล้ว แน่นอนว่ามันเกี่ยวพันกับอดีตของไทยด้วย รวมไปถึงระบบกษัตริย์ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าทุกประเทศในโลกนี้รวมทั้งประเทศในยุโรปต่างก็อยู่ในอำนาจของกษัตริย์มาก่อนด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งกษัตริย์ทุกพระองค์ต่างก็ต้องอุปถัมป์ขุนนางด้วยกันทั้งนั้น ก็แล้วทำไมระบบอุปถัมป์จึงไม่รุนแรงในระบบการเมืองของฝรั่งยุโรปด้วยเล่า ดังนั้นระบบกษัตริย์จึงไม่น่าใช่เหตุผลหลักของต้นกำเนิดแห่งระบบอุปถัมป์

 

ผมมีความเห็นว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวโยงกับลักษณะนิสัยพื้นฐานประจำเผ่าพันธุ์คนไทยและคนเอเชียที่ไม่กินเนื้อกินนมเป็นหลักเลยก็ว่าได้ คนพวกนี้จะกินข้าวกินปลาเป็นหลัก คือ ไทย พม่า เขมร ญวน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินโด ฟิลิปินส์ จะเห็นว่าชนเผ่าเหล่านี้มีลักษณะเป็นสังคมอุปถัมป์เหมือนกันหมด ไม่มีนิสัยเป็นปัจเจกชนนิยม (individualism) แบบชาวตะวันตก

 

มีความเป็นไปได้ว่านิสัยนี้มีต้นกำเนิดมาจากอาหาร (ตามพังเพยฝรั่งที่ว่า you are what you eat) ไม่โดยตรงก็อ้อม แต่นั่นมันไกลเกินไป เอาไว้ให้เป็นหน้าที่ของนักวิจัยวิจารณ์ด้านมานุษยวิทยาท่านค้นคว้ากันต่อไปก็แล้วกัน แต่ที่เห็นๆคือพวกเผ่าพันธุ์เอเชียดังกล่าวนี้ได้พัฒนาสังคมขึ้นมาแบบรวมหมู่รวมกลุ่ม โดยมีผู้นำที่เข้มแข็งเป็นศูนย์กลางของสังคมมาแสนนานแล้ว จะทำงานอะไรก็นิยมทำเป็นกลุ่ม ไม่ทำเดี่ยว แม้แต่เกี่ยวข้าว สร้างบ้าน ก็ช่วยกันทำทั้งหมู่บ้าน แต่ฝรั่งไม่มีนิสัยทำงานรวมหมู่แบบนี้  ส่วนการเลี้ยงลูกของเราก็ประคบประหงมกันมาก ไม่สอนให้เขากล้าหาญทำอะไรด้วยตัวเอง ผิดกับฝรั่งที่เลี้ยงลูกแบบปล่อย แม้การกินข้าวของเรายังกินร่วมกันเป็นวง ใช้สำรับกับข้าวร่วมกัน ส่วนฝรั่งแยกกิน จานใครจานมัน ไม่เกี่ยวกัน มันยังมีประเด็นอื่นอีกมากที่ผมได้คิดไว้ แล้ววันหลังจะเอามาเล่าต่อนะครับ

 

ในความเห็นผม สิ่งละอันพันละน้อยของเราที่ต่างจากฝรั่งดังที่กล่าวมานี่แหละคือปฐมเหตุของระบบอุปถัมป์  เพราะมันค่อยๆหล่อหลอมให้เราขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าทำอะไรด้วยลำพังตนเอง ต้องพึ่งพาหมู่เหล่า  ตรงนี้จึงเป็นช่องโหว่ให้ระบบอุปถัมป์เจริญงอกงามขึ้นมาได้ เพราะระบบอุปถัมป์คือการที่ผู้มีอำนาจใช้อำนาจบงการทั้งโดยตรงและโดยอ้อมให้ผู้ที่ขาดความมั่นใจในตนเองกระทำโน่นกระทำนี่แทนตน โดยมีผลประโยชน์ร่วมกันนั่นเอง ส่วนฝรั่งเขามักทำอะไรด้วยตนเอง เดี่ยวๆ มาตลอด ตั้งแต่เด็กๆเล็กๆด้วยซ้ำ จึงหล่อหลอมให้พวกเขามีความกล้าฉายเดี่ยวมากกว่าเรา จึงไม่ต้องการให้ใครมาอุปถัมป์

 

ระบบอุปถัมป์ไม่จำเป็นต้องเป็นระบบที่เลวเสมอไป และระบบไม่อุปถัมป์แบบฝรั่งก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ดังจะเห็นได้ว่าระบบฝรั่งก็เอารัดเอาเปรียบคนอ่อนแอมาก ออกมาล่าอาณานิคมในอดีตสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลกแม้จนบัดนี้ก็ยังไม่เลิกนิสัยนี้ ส่วนระบบอุปถัมป์นั้นถ้าผู้ให้การอุปถัมป์เป็นผู้มีธรรมมันจะเป็นระบบที่ดีมากด้วยซ้ำไป ซึ่งในอดีตสังคมเราก็เป็นแบบนั้นเสียโดยมาก ไพร่ฟ้าจึงหน้าไส(เป็นส่วนมาก)

 

ผมไม่เชื่อว่าระบบอุปถัมป์จะหมดไปจากประเทศไทยในหนึ่งพันปีจากนี้ไป ผมจึงพยายามเขียนบทความเสมอว่า เราต้องสร้างระบบประชาธิปไตยแบบใหม่เป็นของเราเองที่ต่างจากระบบฝรั่ง ทั้งนี้เพราะลักษณะนิสัยพื้นฐานเราต่างจากเขามาก ถ้าไปเอาระบบวันแมนวันโหวตแบบเขามาใช้เราไปไม่รอดหรอกครับ การซื้อเสียงเลือกตั้งก็เชื่อมโยงกับระบบอุปถัมป์นี่เอง ดังนั้นเราต้องสร้างระบบให้สามารถใช้จุดแข็งของระบบอุปถัมป์ให้เป็นคุณต่อประชาธิปไตยให้ได้ ดังที่ผมได้เขียนไว้บ้างแล้วในเรื่อง “ประชาธิปไตยภูมิปัญญาไทย” (ชื่อเรื่องอาจตรงกันสิ่งที่อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ก็ได้พูดไว้ แต่เนื้อหาคงต่างกัน และของผมคิดและเขียนไว้ก่อนนั้นนานมาแล้ว)

 

ก่อนลอกฝรั่งคนไทยต้องรู้จักกำพืดของตนเอง ไม่ใช่อึกอักก็แบบนายจักรภพ ที่ง่าวไปหาว่าระบบฝรั่ง (ไม่อุปถัมป์) ดีกว่าระบบอุปถัมป์ ดูญี่ปุ่นซิ อุปถัมป์ยิ่งกว่าเราเสียอีกกระมัง ทำไมเจริญกว่าฝรั่งได้

 

…คนถางทาง

« « Prev : เผด็จการโดยธรรม ดีกว่าประชาธิปไตยโดยทุน

Next : เรื่องเหม็นๆ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 June 2011 เวลา 4:16 am

    หัวข้อนี้เข้าตา ผมคุ้นชินคำนี้มานานและสายสังคมก็เรียนเรื่องนี้มาด้วย นักวิชาการด้านสังคม หรือด้านอื่นที่สนใจเรื่องนี้ก็เขียนบทความ อภิปราย พูดจาถึงระบบอุปถัมภ์มามาก ส่วนใหญ่พูดในมุมที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนา จนไปถึงฉากขวางกั้นการเจริญเติบโตของสังคม

    คนที่พูดมุมนี้มักเป็นคนเมือง หรือเติบโตในต่างประเทศ ส่วนคนในชนบท หรือคนที่คลุกคลีชนบท หรือมีกำพืดมาจากชนบทนั้น ส่วนใหญ่คุ้นชินกับระบบอุปถัมภ์ในทุกแง่มุม ทั้งในด้านแสวงหาผลประโยชน์ พึ่งพิง และการเอื้อาทร น้ำใจ แสดงความพึงพอใจ ฯลฯ ซึ่งเข้าข่ายเกี่ยวโยงกับฐานรากของระบบอุปถัมภ์

    แม่ยายผมนอนป่วยบนเตียงมา 7 ปี ผมต้องดูแลโดยจ้างเด็กสาวที่เรียนหนังสือด้วยและรับจ้างดูแลผู้สูงอายุด้วย จนคุณแม่ยายจากไปหลายปีก่อน ปกติ เด็กสาวที่ดูแลแม่นั้นก็ต้องเลิกลากันไปเพราะหมดหน้าที่แล้ว แต่เราเห็นเธอทำหน้าที่ดูแลแม่อย่างดีแทนเราที่วิ่งทำงานหาตามหน้าที่ อยู่บ้านบ้างไม่อยู่บ้าง อยากทดแทนเธอโดยการส่งเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี จนพ่อแม่เธอยกให้เป็นลูกสาวเรา บอกว่าใครมาขอลูกสาวให้มาขอกับเรา

    เมื่อเธฮจบไปทำงานที่ภูเก็ตเป็นนักกฏหมาย เมื่อกลับบ้านขอนแก่นเธอก็มานอนที่บ้านก่อนไปบ้านพ่อแม่ตัวเอง เราเองก็ได้ปรึกษาหารือเธอเรื่องกฏหมายที่ดินที่เรามีปัญหาที่เชียงใหม่ เธอก็แนะนำได้ดีและรับภาระขึ้นไปจัดการให้ด้วย

    เรื่องนี้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นระบบอุปถัมภ์ ซึ่งผมก็ยอมรับแม่อุปถัมภ์หรือไม่อุปถัมภ์นั้นผมมองที่สาระจริงๆที่เราพึงปฏิบัติต่อกันนั้น เป็นน้ำใจ เป็นการเอื้ออาทร ช่วยเหลือ ทดทแน ตอบแทน ซึ่งเป็นรากฐานวัฒนธรรมไทยหรือสังคมตะวันออกอย่าที่อาจารย์กล่าวจริง และผมสรุปว่านี่คือมุมดี จุดดีเด่นของวัฒนธรรมของเรา

    แต่ในทำนองเดียวกันก็มีการใช้ความสัมพันธ์แบบนี้ไปในการหาผลประโนชน์โดยตรงและโดยอ้อม และพัฒนาไปสู่สิ่งอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อฐานความเป็นประชาธิปไตยในนัยยะ ของหลายคนที่มองมุมนี้ เช่น นักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ใช้ความสัมพันธ์เชิง วัฒนธรรมไทยเป็นฐานในการดึงคนให้มาสนับสนุนตัวเองในการรับเลือกตั้งเป็น สส คือ มีการเตรียมล่วงหน้าว่าสมัยหน้าจะลง สส เขาก็จะตระเวนไปพบผู้นำชาวบ้านที่เป็นผู้มีบารมีในท้องถิ่น สร้าความสนิทสนม และแสดงความจริงใจ ช่วยเหลือ เอื้ออาทรต่างๆนานา เช่น ลูกชายผู้นำชุมชนจะแต่งงานสาวบ้านไกล ก็อาสาเอารถตัวเองไปบริการงานมงคลนี้ สนับสนุนอาหารการกิน เข้ารว่มงาน ฯลฯ หากถึงสมัยการเลือกตั้ง ผู้นำชุมชนท่านนั้นก็ย่อมเลือกผู้มีน้ำใจคนนั้น และผู้นำยังมีอิทธิพลโน้นน้าวให้ญาติพี่น้อวเพื่อนบ้านลงคะแนนตามด้วย นี่คือความจริงที่เราก็รู้เห็นกัน

    ประเด็นนี้เลยลามปามไปถึง “นโยบายประชานิยม” ซึ่งก็คือรูปหนึ่งของการสร้างระบบอุปถัมภ์ที่มิติใหม่นั่นเอง ไม่เห็นมีใครพูดถึงมุมนี้ และได้ผลจริงๆ ผมคลุกคลีชนบทมีตัวอย่างชัดเจนทั่วไป พรรคการเมืองต่างๆเลยเอากันใหญ่ ต้นตำหรับก็คือ พท ที่นานจักรภพอยู่นั่นแหละ

    ผมเข้าป่าเข้าดอยบ่อย ก็เห็นธรรมชาติของต้นไม้ก็มีระบบอุปถัมภ์ ต้นไม้เล็กอาศัยต้นไม้ใหญ่ ผักหวานป่าต้องขึ้นใต้ต้นไม้ใหญ่ ไปปลูกกลางทุ่งนาไม่ได้ ตาย นี่ธรรมชาติของมัน ต้นเถาวัลย์ที่เป็นสมุนไพรวิเศษของเราก็เป็นไม้เลื้อยที่อิงอาศัยต้นไม้ใหญ่ นี่ก็ระบบอุปถัมภ์ในธรรมชาติ ตำลึง ฟักข้าว ฟังทอง บวบป่า ฯลฯ ทั้งอาหารและสมุนไพรล้วนเป็นพืชอิงอาศัยที่เกาะเหนี่ยว ในธรรมชาติคือต้นไม้ใหญ่ พวก รา มอส ไลเคน ฯลฯ ก็อิงอาศัยไม้ใหญ่ แล้วระบบก็อยู่ได้ต่างให้แก่กันและกัน

    ที่ไม่ดีมีแนวเดียวคือ คนหยิบเอาระบบนี้มาใช้ประโยชน์ส่วนตน พรรคพวกนั่นแหละ แต่รากเหง้านั้นคือฐานวัฒนธรรมของเรานะครับ
    พวกซ้ายจัด ลัทธิมาร์ค เลนินปฎิเสธระบบนี้ครับ เพราะผมผ่านตรงนี้มาก่อนแล้ว จึงพอเข้าใจเบื้องหลังแดงทั้งแผ่นดิน และอีตาจักรภพ
    อ้าวไปเฉียดการเมืองได้ไง จบก่อนดีกว่า อิอิ

  • #2 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 June 2011 เวลา 6:42 pm

    เรื่อง ต้นไม้ ใช้ระบบอุปภัมป์ เห็นตรงกันครับ ฝรั่งก็มีคำทางชีววิทยา ว่า symbiosis ต่างพึ่งพากัน

    คนให้การอุปถัมป์นั้น ก็ต้องพึ่งพาผู้ได้รับการอุปถัมป์ด้วย

    นี่คือตะวันออก ไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย จะคล้ายๆ กัน

    เกาหลี ญี่ปุ่น รอดไปได้จากการใช้ ปชต. ฝรั่งที่ไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรม เพราะมี “วินัย” และ “ความภูมิใจในเชื้อชาติ” มาชดเชย ส่วนไทย วินัย ก็หย่อน แถมยังดูถูกชนชาติตัวเอง อีสานมีดี..คิดจรวดได้เป็นแห่งแรกในโลก กลับถูกดูถูกไปทั่วประเทศว่า โง่เง่า แถมต้อท้าย ไอ้เสียวเอ๋ย กลับไปเล่นบั้งไฟที่อีสานบ้านมึงเถอะไป๊


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.06678295135498 sec
Sidebar: 0.0099890232086182 sec