จดหมายถึงพี่ (เรื่องรร.ไทย รร.นานาชาติ และครูไทย)
เรียน พี่ที่เคารพ
(เรื่องรร.นานาชาติแห่งหนึ่งที่ถามมานั้น)….ใครๆที่เชียงใหม่เขาก็เรียนที่นั่นกัน
ลูกเพื่อนๆที่จบจากอเมริกาก็ไปเรียนกันทั้งนั้น
หลานสาวทำงานเป็นเลขาอยู่กงศุลอเมริกันเชียงใหม่ก็ให้ลูกเรียนที่นั่น
ถ้าจะเข้าจริงๆก็ช่วยกันถามว่าพอใช้ได้ไหม หรือมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง
ที่จริงรร.นานาชาติร่วมฤดี…เคยไปดูบรรยากาศการอยู่และเรียน
เหมือนแตกต่างจากโลกของคนไทยมากๆๆๆๆๆ
อีกอันนึงคือรร.นานาชาติกรุงเทพ(ที่จริงอยู่ที่นนทบุรี)
ที่มีชือเสียงและมาตรฐาน บรรยากาศการอยู่และเรียนก็แตกต่างจากเราเช่นกัน
อย่างไรก็ตามคิดว่า เด็กๆ ควรเรียนที่NZนั่นแหละ
เพราะว่าเด็กไทยจำนวนมากที่เรียนในไทยไม่ได้แต่กลับไปเรียนในอเมริกาได้ดี
เรื่องที่หลานไม่ชอบครูไทยนั้นไม่แปลกเลยค่ะ
คนไทยด้อยคุณภาพเพราะครูไทยด้อยคุณภาพ
ไม่มีใจรักในอาชีพ มาทำอาชีพนี้เพราะสอบเข้าสาขาอื่นไม่ได้
รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า จึงซื้อหาวัตถุมาไว้จำนวนมากเพื่อแสดงฐานะ
ผลก็คือครูเป็นหนี้สินมาก
ทั้งๆที่อาชีพรับราชการอื่นๆ เขาก็ฐานเงินเดือนเดียวกัน
ทำไมเขาไม่มีหนี้สินมากเกินตัว
ครูไทยส่วนมากขี้เกียจสอน และรังเกียจเด็ก โดยอ้างว่าเป็นภาระของพ่อแม่
อันนี้ได้มาจากการประชุมผู้ปกครองของโรงเรียนต่างๆหลายที่
และจากพี่ๆน้องๆที่เป็นครู
ครูไม่ได้มีสำนึกว่าตนเองมีบุญมากที่มีโอกาสได้สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ด้วยการสร้างอนาคตแก่เด็ก
ถ้าหากเด็กที่เกิดมาในโลกนี้เป็นภาระของพ่อแม่เท่านั้นแล้วเราจะมีอาชีพครูไว้ทำไม
เราคงทำการสอนกันที่บ้านเหมือนยุกต์เก่า
แต่นี่กระแสสังคมเปลี่ยนไป ทุกคนในโลกต้องช่วยกันรับผิดชอบเด็ก
ไม่ว่าเขาจะเกิดจากกระบอกไม้ไผ่หรือไม่
พรรคปชป จึงสนใจกระทรวงศึกษามากเพราะเงินเยอะ
อันนี้ไม่ผิดค่ะธรรมดาของการเมือง
ด้วยความเคารพ
..ผมตอบน้องไปว่า
น้อง..ที่รัก
วิเคราะห์ประเด็นครูได้เยี่ยมมาก สำนวนการเขียนก็แจ๋วแหวว เสียดแทงดีมาก นี่ถ้าเอาดีทาง
เป็นนักเขียนคงไปโรจน์ (โลด)
แต่เรื่องพวกนี้ “ละเอืยดอ่อน” (แปลว่ากระเทือนซาง) ถ้าเอาไปลงที่ไหนรับรองโดนครูๆ ออก
มาแก้ตัวกันเช็ด ไม่ต่างอะไรกับที่ไปบอกว่า ตำรวจเลว ดังนั้นถ้ามีคำว่าครูตรงไหน อย่างน้อย
ควรแทนด้วยคำว่า ครูส่วนใหญ่ หรือ ครูเกือบทุกคน เพื่อเป็นการป้องกันตนไว้ก่อนหนึ่งชั้น
จากพี่
3 ความคิดเห็น
ผมสังเกตว่า ผอ. รร. บ้านนอกจำนวนหนึ่ง ที่เด็กส่วนใหญ่ยังไม่มีรองเท้าใส่ไปรร. แต่ผอ.(และครูที่เลียผอ. อีกจำนวนหนึ่ง) ต่างนิยมไปตีกอล์ฟกันเสมอ รถส่วนตัวก็หรูหรา แบบว่าแข่งกันรวย นาฬิกาก็เรือนทองราคาหลายหมื่น
โอย..ครูไทย จะไปไหนกันหนอ
ผมเห็นด้วยกับน้องว่า ครูเป็นอย่างไรประชาชนไทยก็เป็นแบบนั้น (แม่พิมพ์)
ครูมีอิทธิพลสูงกว่าพ่อแม่อย่างน้อย 100 เท่า
โดยเฉพาะกรณีของคนส่วนใหญ่ ที่พ่อแม่มีระดับการศึกษาต่ำกว่าครู
คริคริคริ เบิร์ดถึงสงสัยคำตอบในการพัฒนาครูว่า”ควรขึ้นเงินเดือน” ไงคะอาจารย์
มันเป็นการแแก้ปัญหาแบบสมการเชิงเส้นเหมือนเราประกันราคาผลผลิตยังไงยังงั้นเลยค่ะ พอขาดทุนก็ร้องขอขึ้นราคาประกัน ซึ่งจริงๆเค้าก็ขาดทุนจริงล่ะค่ะ แต่การแก้ไขมันต้องเป็นสมการเชิงเส้นแบบนี้ไปตลอดเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นคงไม่จำเป็นต้องมีการบริหารบ้านเมืองกันมั้งคะ เพราะขาดทุน ก็ขอขึ้นไปเรื่อยๆ
เงินเดือนก็เหมือนกันค่ะ มันเป็นคำตอบเดียวเหรอคะในการพัฒนาหรือแก้ปัญหาการศึกษาไทย? ฐานเงินเดือนครูก็เหมือนๆกับข้าราชการกลุ่มอื่นๆ แต่กลุ่มอื่นๆทำไมเค้าอยู่ได้? ตอนที่เบิร์ดเป็นข้าราชการทั้งๆที่เบิร์ดทำงานอื่นก่อนมาเป็นก็เพราะอยากรู้ว่าเงินเดือนข้าราชการมันไม่พอจริงหรือ!!
เมื่อเป็นข้าราชการเอง ถึงรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพอค่ะ ขึ้นอยู่กับเราอยู่อย่างไร มากกว่า”อยาก”อยู่อย่างไร
นี่แสดงว่า ขรก. ส่วนอื่นๆ ที่เงินเดือนเท่ากับครู มีปสภ.ดีแล้วใช่ไหม uu
ผมว่าในภาพรวมก็พอๆกับครูไทยแหละครับ เผลอๆยิ่งกว่าเสียอีก เพราะครูนั้นยังมีการอบรมช่วงปิดเทอมเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ขรก. แบบเดิมๆ จนเกษียณเป็นส่วนใหญ่
ที่ครูไทยมีหนี้สินมากนั้นผมว่าเป็นเพราะครู..แทนที่จะมีโลกทัศน์ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยขรก.ทั่วไป กลับต่ำกว่า เนื่องเพราะ…ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นความจริงที่สังคมไทยเราสร้างคุณค่ากันกระทั่ง ครูเป็นกลุ่มคนข้าราชการที่มีเกรดการศึกษามัธยมปลายต่ำที่สุด ซึ่งแม้ไม่เสมอไปแต่ตามหลักสถิติต้องยอมรับว่ามีนัยสัมพันธ์กับระดับโลกทัศน์ด้วย
ดังนั้นวิธีแก้วิธีหนึ่งคือ ให้เงินเดือนที่สูงขึ้น เพื่อดึงดูดให้คนที่เรียนเก่งขึ้นเข้ามาเป็นครูให้มากขึ้นไงเล่าครับ
เขียนไปคิดไป เพิ่งคิดได้ว่าการที่คนเก่งๆ ไม่ค่อยเลือกมาเรียนครูอาจเป็นเพราะโลกทัศน์แคบก็เป็นได้ คือไปคิดว่าหนทางข้างหน้าของอาชีพครูนั้นแคบมากๆ คนเป็นแสนๆ มีตำแหน่งปลัดกระทรวง อธิบดีเท่ากับกระทรวงอื่นๆ อีกทั้งงานก็เป็นงานใน ตจว เป็นส่วนใหญ่ แต่กระทรวงอื่นๆ มีทางไป เป็นใหญ่เป็นโต ทำมาหากินได้มากมายกว่ากันเยอะเลย ไม่ใช่หรือ
สำหรับผมนั้นฝันที่จะเป็นครู(มหาลัย)มานมนาน และยังคิดว่าตนคิดไม่ผิดที่เลือกอาชีพนี้ ถ้าให้เลือกใหม่ ก็คงไม่แคล้วเลือกอีก
อีก 4 ปีกว่าๆ จะเกษียณแล้ว อาจขอสมัครเป็นครูบ้านนอก ถ้าเขารับ เช่น มหาชีวาลัยอีสาน หรือจะให้ไปเป็นอธิการวิทยาเขตอุดมไสติดเวียตนามก็ยินดีครับ uu