ลานบ้านชลบถพิบูลย์

เมษายน 23, 2009

คลานเป็นเต่า

Filed under: Uncategorized — แท็ก: , — ออต @ 11:45

หลังสงกรานต์มาก็นานหลายวัน แต่งานปรับปรุงบ้านที่ขอนแก่นยังไม่ไปถึงไหน ความจริงก็เข้ามาอยู่ตั้งสี่เดือนแล้ว ยังไม่มีอะไรเสร็จเลยสักอย่าง เบื่อ จริง ๆ

ต้นไม้ที่พยายามปลูกเอาไว้ก็ตายทั้งยืน น้ำที่บ้านก็ไหลยังยางมะกอกหนืดดีเหลือเกินทั้งที่มันเป็นสาธารณูปโภคที่ท้องถิ่นต้องให้ความสนใจ รดน้ำตอนเช้าแ่เที่ยงดินก็แข็งกรังจนรากต้นไม้แทบจะแข็งตายเอาให้ได้ สงสารต้นไม้จริง ๆ  ทำไมมันร้อนนักเชียวงะ

แต่หญ้าหน้าบ้านซิ งามเอางามเอา เฮ้ย กลับตาลปัดกันจริง ๆ ไอ้ที่อยากให้งามไม่งาม ไอ้ที่ยังไม่อยากให้งามก็งามเอางามเอา คนเราเอาชนะธรรมชาติเนี่ยมันยากจริง ๆ

บันทึกแบบปลง ๆ เฮ้ย ร้อน หนีไปหลบร้านกาแฟดีกว่า จะอยู่ทั้งวันเลย ประชดความร้อน

กุมภาพันธ 18, 2009

คุณภาพความรักและการแสดงออก ใน HUG EXHIBITION

Filed under: Uncategorized — แท็ก: , , — ออต @ 20:24

HUG EXHIBITION เป็นกิจกรรมของมวลมิตรที่พอจะเจอะหน้ากันและมาปั้นคำหาเรื่องทำกิจกรรมร่วมกัน ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วเหล่ามวลมิตรกลุ่มนี้ รวมตัวกันแบบไม่เป็นทางการแสดงออกในเรื่องความรักในมิติของงานศิลปะตามแต่ละคนจะสร้างสรรค์ ปีนั้นงานศิลปะของหลายคนแบ่งบาน สดใส ซึ่งนับเป็นการแสดงออกของความรักที่มีคุณภาพตามแต่นิยามความรักของแต่ละคน

เทศกาลแห่งความรักของปีนี้ แม้เพื่อนฝูงมวลมิตรที่เคยรวมตัวกันจะแยกตัวไปอยู่ที่อื่น เพื่อสร้างครอบครัวของตนเองหลังจากความรักเบ่งบาน ส่วนคนที่ยังทำงานบริหารความรักที่พำนักอยู่ขอนแก่น ก็ยังคงรวมตัวกันอีกเช่นเดิม ด้วยแนวคิดแบบเดิม ที่แต่ละคนสร้างสรรค์ความรักในมิติของตน

เกริกศักดิ์ วรภูมิ หรือพี่เกริก หัวเรือใหญ่ของ HUG EXHIBITION นำผลงานวาดเส้นบนคอมพิวเตอร์มาอวดด้วยสีสันที่ศิลปะแบบกราพฟิตี้จะต้องยอม สีสันที่มีอยู่ในโลกใบนี้และสีที่คนศิลปะยังไม่เคยเอามาใช้ สีที่อยู่คนละฝั่งคนละวรรณะถูกนำมาจัดรวมกันในหลายภาพ ซึ่งคล้ายกับศิลปะของศิลปินข้างถนน ซึ่งไม่ต้องสูงส่งแต่คนเดินถนนใช้กันอย่างไม่เขินอาย ดังนั้นเราจะพบความพิลึกกึกกือได้ในงานวาดเส้นของเกริกศักดิ์ชุดนี้ งานนี้ทำให้นึกถึงงานเพ้นส์รองเท้าและงานสกรีนเสื้อแนวศิลปะข้างถนนที่เขาใช้มันเป็นเครื่องทำมาหากินอยู่ในปัจจุบันขณะ และดูท่ามันจะสร้างอาชีพในฐานะศิลปะที่ประยุกต์เข้ากับวิถีวัฒนธรรมใหม่ได้ดีที่เดียว ในฐานะศิลปะของชนชั้นที่ต้องใช้ชีวิตอย่างสามัญชนทั่วไป

ดิเรก กิ่งนอก หรืออาจารย์โก๊ะ เจ้าพ่อสีน้ำประเภทหวานฉ่ำมากับงานจิตรกรรมสีน้ำ ปีนี้เล่าเรื่องของเรือ ทะเล และคลื่นที่ซัดถาโถมเข้ามาที่นาวาอันลอยล่องในทะเล สื่อให้รู้ถึงความรักที่เพิ่งผ่านมรสุมมามาด ๆ (อิอิ) ซึ่งหลายคนเชื่อว่าคนคิดถึงทะเล มักคิดถึงความรัก ภาพของทะเลออกมาเช่นไรก็สามารถทำนายความรักได้ว่าเป็นเช่นภาพนั้น หากท่านสงสัยลองดูภาพสีน้ำรูปเรือดูเถิด ภาพจิตรกรรมสีน้ำรูปเรือแม้จะดูสดใสแต่ทว่าก็มีร่องรอยของความเศร้าให้เห็น แม้จะผ่านเรื่องเศร้า ๆ แต่ทว่าสีน้ำของอาจารย์โก๊ะ ยังสดใสเหมือนห้องเรียนศิลปะที่พัฒนาว่าที่นักเรียนศิลปะที่จะเข้าไปใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยที่ดูสดใสและเฟื่องฟู ซึ่งแม้ว่ามรสุมรักจะถาโถมแต่ห้องเรียนศิลปะก็ได้ผลิตนักเรียนศิลปะป้อนสถาบันอุดมศึกษาหลายคนและห้องศิลปะนั้นยังเป็นที่ตวัดปลายภู่กันปาดสีน้ำของเขา

null

วรานุช วัฒนศัพท์หรือครูนุช ผู้ก่อตั้ง HUG SCHOOL โรงเรียนศิลปะ ดนตรีและเต้นรำ แห่งแรกและแห่งเดียวในขอนแก่น ที่มุ่งสร้างความสมดุลระหว่างทักษะการแสดงทางศิลปะและการเสพสุนทรีย์ของงานศิลปะ ผ่านกิจกรรมการเรียนที่เน้นความสุข ดังนั้นผลงานที่ครู
วรานุชนำมาร่วมแสดงคราวนี้เราจึงเห็น I HUG …… ในมิติต่าง ๆ ซึ่งวรานุชเผยถึงการเข้าถึงความรักศิลปะที่ได้ผลง่ายที่สุดคือการเข้าไปสัมผัสกับงานศิลปะนั้น ๆ ทั้งการเล่นสีเล่นพู่กัน เล่นดนตรีอและลองเต้นรำให้เพลินอุรา ซึ่งผลงานที่นำมาจัดแสดงเสมือนการเชิญชวนให้ผู้คนเข้าไปสัมผัส โรงเรียน HUG SCHOOL ของเธอ ซึ่งวันนี้เปิดให้ทุกท่านได้สัมผัสโดยไม่จำกัดวัย เพศ เชื้อชาติ ภาษา

สำรวย เย็นเฉื่อยหรือช่างออต ช่างทอผ้าพื้นบ้านที่จบตัวเองจากความบอบซ้ำในการทำร้านทำมือเล็ก ๆ มาทำงานวิจัยและงานชุมชน จนกระทั้งผูกตนเองด้วยงานทอผ้ากับชาวบ้านอีสานหลายชุมชนและกำลังทำบ้านหลังเล็ก ๆ ในซอยหน้าเมือง 11 เปิดเป็นสตูดิโอในการผลิตผ้าต้นแบบสำหรับงานทอของชาวบ้าน ซึ่งผลงานที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการคราวนี้ก็หนีไปพ้นการถักผ้าจากหลายแหล่งนำเอามาไว้รวมกันผ่านการเย็บผ้าด้วยมือ ซึ่งเป็นเสมือนงานที่เอาตัวเองเข้าไปร้อยรัดความผูกพันกับชุมชนบนมิติของการเป็นผ้าทอที่รับใช้คนร่วมสมัยด้วย

เมื่อมองงานศิลปะของทั้งสี่คนที่ร่วมแสดงใน HUG EXHIBITION # 2 แล้ว เราจะพบมิติที่สอดคล้องกันคือ การสร้างสรรค์งานศิลปะที่ผนวกอยู่ในชีวิตและการงานของศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นลายสกีนเสื้อของพี่เกริกศักดิ์ สีน้ำของอาจารย์โก๊ะ งานภาพประกอบของคุณครูวรานุช และการถักทอผ้าของช่างออต ซึ่งล้วนแล้วแต่เอาเรื่องความรักที่ใกล้ตัว หน้าที่การงานที่ดำเนินอยู่มาถ่ายทอดทั้งสิ้น ดังนั้นความรัก หาใช่ความเพ้อฝัน หากแต่ความรักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ณ ปัจจุบันขณะตามแต่หน้าที่ของศิลปินแต่ละคน

ขอขอบคุณ
• ร้านกาแฟคุณภาพ กีวีคาเฟ่ ที่สนับสนุนกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
• HUG SCHOOL ที่มาสร้างสีสันของกิจกรรมครั้งนี้
• ของคุณ เพื่อนพ้องพี่น้อง ที่มาเสพ เรื่องเล่าของความรักของพวกเรา
• เล่าแทนศิลปินโดย http://gotoknow.org/blog/thaiphon
• แสดงในระหว่างวันที่ 14 ก.พ.-14 ม.ค.2552

กุมภาพันธ 13, 2009

ขอนแก่นจะก้าวสู่เมืองศิลปะได้อย่างไร?

ศิลปกรรมร่วมสมัยเกิดขึ้นภายใต้โลกของความทันสมัยเป็นปริมณฑลที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่มีชีวิต คนในปัจจุบันสามารถบริโภคได้ และใช้มันกับกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน ศิลปกรรมร่วมสมัยนั้นสร้างสรรค์แบบข้ามแดน ข้ามประเทศ ข้ามชุมชน อยู่คนละที่ละทางก็ยังสามารถสัมพันธ์กับวัฒนธรรมต่างแดนได้ นอกจากนั้นเราจะพบวัฒนธรรมข้ามยุคข้ามสมัย

null

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เมืองขอนแก่น เราจะพบเห็นปรากฏการณืของศิลปกรรมร่วมสมัยชัดเจนขึ้น เพราะที่นี่จัดงานถนนศิลปะ โดยความร่วมมือของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อการลักดันและสร้างกระแสของ ขอนแก่นเมืองศิลปะ ตามแนวนโยบายของนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น

การเริ่มต้นที่ดีที่เห็นได้ชัดคือการผลิตงานศิลปะเพื่อรับใช้คนใน มากกว่ามุ่งเน้นให้คนนอกบริโภค ที่ถนนศิลปะเมืองขอนแก่นเราจะพบเห็นงานทำมือของคนขอนแก่นเพื่อคนขอนแก่นด้วยราคาแบบคนขอนแก่นซื้อได้ ซึ่งตรอกย้ำได้ดีว่าศิลปะต้องรับใช้คนร่วมสมัย

งานสร้างสรรค์ไม่ได้เน้นรูปที่งานศิลปะประเภทของงานจิตรกรรม ปริตมากรรมเท่านั้นแต่ทว่างานศิลปะเชิงประยุกต์ศิลป์ที่คนซื้อนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันต่างหากที่ดึงดูคนในให้มาซื้อไปบริโภคได้มากกว่าไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืดลายแนว ๆ รองเท้าเพ้นส์สีสันสวยงาม ถุงผ้าเล็ก ๆ สมุดบันทึกเล่มงาม โปสการ์ดแบบเท่ห์ ๆ

ในมิติของศิลปะข้ามพรมแดน เราจะเห็นดนตรีของคนขอนแก่นร่วมสมัยแต่เล่นดนตรีแนวใหม่ ๆ เช่น สะกา ซึ่งแต่ะวงขึ้นมาก็สร้างสีสันและแรงขับให้คนที่มาร่วมงานโยกย้ายส่ายสะโพกได้ งานนี้เห็นเด็กแนวทั้งหลาย ยิ้มรับอารมณ์ของแนวดนตรีใหม่ ๆ จากอีกซีกโลกได้อย่างเปิดเผย

ส่วนการข้ามผ่านมิติของกาลเวลาเราสามารถพบเห็นงานงานศิลปะพื้นบ้านมาอยู่บนเวทีของคนร่วมสมัย โดยคนร่วมสมัยได้อย่างไม่เขินอาย การหยิบเอาวรรณกรรมพื้นบ้านมาสร้างสีสันใหม่ ๆ เพื่อรับใช้คนทันสมัย

null

null

null

มิติที่ผมว่ามาเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนใน ถนนศิลปะ ปีนี้และมันจะยิ่งเข้มข้นหากหน่วยงานที่จัดกิจกรรมนี้มีการวางแผนและวางกลยุทธิ์ของการก้าวไปสู่ ขอนแก่นเมืองศิลปะ ต่อไป มองเห็นความสำคัญของคนในที่จะมาร่วมงานเช่นปีนี้ แล้วจะเห็นชัดว่า คนในเราสุนทรีย์ งานสร้างสรรค์พัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และขอนแก่นก็จะได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐาน เมืองศิลปะ

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.silpagum.com

กรกฏาคม 20, 2008

สะบายดีลานปัญญา

Filed under: Uncategorized — แท็ก: , — ออต @ 6:48

ไม่สามารถจะรอได้จนถึงต้นเดือนหน้า เพราะตอนนี้หลายท่านเขียนกันไปเยอะแล้ว ล่วงหน้าไปแบบนี้เห็นที่จะตามไม่ทัน
มาคราวนี้เปิดบันทึกใหม่ทันที อิอิ ไม่รู้จะผิดกฎหรือเปล่าท่ไม่ใช่ลานขึ้นก่อนแต่ใช้ (พะ)ลานหิน แทน ถ้าไม่ได้ทีมงานแจ้งด้วยนะครับ

แต่ช่วงนี้เห็นทีต้องเรียนรู้เครื่องมือก่อนเพราะว่ายังไม่รู้อะไรเลยเยวกับเครื่องมือที่นี่ เดี๋ยวคล่องแล้วจะรีบเขียนบันทึกแซงบรรดาครูบา อาจารย์ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ

ขอบคุณสำหรับพื้นที่ใหม่นี้นะครับ ขอบคุณทีมงานทุกท่าน ขอบคุณอีหลีอีหลอ

« บันทึกเก่ากว่า

Powered by WordPress