บันทึกหายไปจากลานหลายเดือน อย่างน้อยก็น่าจะสามเดือน เป็นสามเดือนที่ค้อนข้างมีทั้งสุขและเศร้าเคล้ากันไป บางวันวุ่น บางวันว่าง บางวันเงียบบางวันหัวแทบแตก เพราะมีเรื่องที่ต้องจัดการใหญ่ๆ สองเรื่องคือเรื่องร้านชลบถพิบูลย์ที่ไปเปิดที่อุทยานการเกษตร ภายในมาวิทยาลัยขอนแก่น อีกเรื่องก็เตรียมผ้าให้ CERP เพื่อถวายสมเด็จพระเทพรัตนฯ ในวโรกาสเสด็จฯพระราชทานปริญญาบัตรชาว มข
เรื่องร้านตอนนี้ก็เปิดไปแล้ว แต่ยังไม่ลงตัวนักเพราะต้องใช้เวลาในการหาสินค้าลงร้านอยู่ แต่โชคดีมีพี่น้องชาวลานของเราแวะไปจะเอ๋และอุดหนุนผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ร้านดังกล่าวขายผลิตภัณฑ์จากผ้าเป็นหลัก เพราะได้ป้าผ้าจากเมืองพลมาประจำร้านใ้ห้ในวันศุกร์ -เสาร์- อาทิตย์ นอกจากนั้นก็มีต้นไม้ตกแต่งบ้างเล็กน้อย ไม่สามารถลงไม้อะไรได้มากนักเพราะพื้นที่น้อยเหลือเกิน ดังนั้นหากท่านไหวแวะขอนแก่นอย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมนะครับ
นอกจากผ้าทอมือ ร้านยังตกแต่งด้วยต้นบีโกเนีย ซึ่งเป็นไม้ประดับประเภทโชว์ใบมาตกแต่งและจำหน่ายด้วย ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เพาะเองเป็นหลัก โดยซื้อต้นพันธุ์มาทำการขยายทั้งแยกเหง้าและชำใบ ตอนนี้ได้ต้นพันธุ์มาแล้วราวสิบสายพันธุ์ทั้งซื้อมาจาก กทม และเพื่อนพ้องซื้อมาใ้ห้ ซื้อมาฝาก คละกันไป(ไว้ว่างจะเขีนถึงบีโกเนียจากประสบการณ์(สามเดือน) อิอิ)
บีโกเนียหูช้างสีเขียว ออกดอกต้อนรับปีใหม่ งาม มัก ๆๆ
หลังสงกรานต์มาก็นานหลายวัน แต่งานปรับปรุงบ้านที่ขอนแก่นยังไม่ไปถึงไหน ความจริงก็เข้ามาอยู่ตั้งสี่เดือนแล้ว ยังไม่มีอะไรเสร็จเลยสักอย่าง เบื่อ จริง ๆ
ต้นไม้ที่พยายามปลูกเอาไว้ก็ตายทั้งยืน น้ำที่บ้านก็ไหลยังยางมะกอกหนืดดีเหลือเกินทั้งที่มันเป็นสาธารณูปโภคที่ท้องถิ่นต้องให้ความสนใจ รดน้ำตอนเช้าแ่เที่ยงดินก็แข็งกรังจนรากต้นไม้แทบจะแข็งตายเอาให้ได้ สงสารต้นไม้จริง ๆ ทำไมมันร้อนนักเชียวงะ
แต่หญ้าหน้าบ้านซิ งามเอางามเอา เฮ้ย กลับตาลปัดกันจริง ๆ ไอ้ที่อยากให้งามไม่งาม ไอ้ที่ยังไม่อยากให้งามก็งามเอางามเอา คนเราเอาชนะธรรมชาติเนี่ยมันยากจริง ๆ
บันทึกแบบปลง ๆ เฮ้ย ร้อน หนีไปหลบร้านกาแฟดีกว่า จะอยู่ทั้งวันเลย ประชดความร้อน
ปีหน้ามีเกณฑ์ต้องโยกย้ายที่อยู่ อิอิ เพิ่งไปอ่านทำนายโชคชะตาราศรีมา แต่ความจริงเกณฑ์ส่วนตัวไม่เกี่ยวกับโชคชะตาเกิดมาแต่ต้นเดือนที่แล้วเพราะได้บ้านเช่าหลังใหม่ จึงเตรียมการปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่น่านอนมากขึ้น
บ้านหลังใหม่นี้จะเอาไว้เป็นที่ทอผ้าของช่างทอจากเมืองพล ที่จะผลัดเปลี่ยนกันมาทอผ้าที่ขอนแก่น ส่วนของบ้านบางห้องจะเอาไว้จัดแสดงผ้าทอของโครงการวิจัยและผ้าสะสมส่วนตัว ซึ่งบ้านเล็ก ๆของเราเตรียมชื่อเอาไว้แล้วว่า ชลบถพิบูลย์
เดิมชุมชนของเราที่อยู่เมืองพลเป็นส่วนหนึ่งของท้องที่เมืองชลบถ หรือ ชลบถพิบูลย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านกองแก้ว(อำเภอชนบทปัจจุบัน) คนท้องที่ในระแวกนี้เป็นชาติพันธุ์ลาว มีฝีมือด้านการทอผ้าไหมมาก ดังนั้นชุมชนแถวนี้จึงกลายเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมมัดหมี่คุณภาพดี
คำว่า ชลบถ มีความหมายดีแปลว่า เมืองที่แวดล้อมด้วยเส้นทางน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับภูมิประเทศของบ้านกองแก้วที่แวดล้อมไปด้วยแอ่งน้ำ ดังนั้นเมื่อยกบ้านกองแก้วเป็นเมืองขึ้นตรงต่อราชสำนักกรุงเทพฯ จึงโปรดเกล้าพระราชทานชื่อเมืองว่า ชลบถพิบูลย์ กินอาณาเขตกว้างถึงเขตบ้านไผ่ เมืองพล หนองสองห้อง แวงน้อย แวงใหญ่
ต่อมาชื่อบ้านชื่อเมืองก็เพี้ยนจาก ชลบถ มาเป็น ชนบท ซึ่งแปลว่า บ้านนอก ไม่ว่าคำจะเพี้ยนไปอย่างไรเมืองชลบถพิบูลย์ก็ยังคงสัญญะของความหมายของชุมชนช่างทอผ้าไหมคุณภาพดีอยู่เช่นนั้นเอง
ดังนั้นบ้านเช่าหลังใหม่ของเราชาวช่างทอผ้า จึงเลือกชื่อ ชลบถพิบูลย์ เป็นชื่อบ้านน้อยหลังงามของเรา ซึ่งตอนนี้กำลังปรับปรุงให้พออยู่พออาศัยได้ เปิดบ้านเมื่อไหร่จะเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมนะครับ