ฮา..อเมริกาอเมริเก

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 18 กันยายน 2009 เวลา 22:35 ในหมวดหมู่ ท่องเที่ยว, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 2176

๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๗
ตื่นเช้าขึ้นมาปรากฎว่าสาย เพราะนัดทานข้าวกับพรรคพวกไว้ว่า ๘.๐๐ น.แต่ตื่นก็ ๘.๒๒ น.แล้ว เช้านี้เราต้องไปวัดอลาสก้าญาณวราราม เพราะเราต้องกลับก่อนเลยรีบไปเปิดคลีนิคกฎหมายก่อน ปรากฎว่าอะไรจะปานนั้นได้เจอพี่ต้อย เจ้าของโรงแรมฮายาชิ ที่ภูเก็ต แต่ผมจำไม่ได้เพราะผอมลงเยอะ พี่ต้อยบอกว่าเป็นมะเร็งในลำไส้ และเป็นหนี้มากยกโรงแรมและที่ดินใช้หนี้ก็เลยมาอยู่อลาสก้ากับแม่ ส่วนลูกยังอยู่ที่ภูเก็ต เราเป็นลูกศิษย์วัด ๑ มื้อ ทำบุญถวายวัดกันพอสมควร คำว่าพอสมควรก็คือไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐/คน ที่อลาสก้านี้รัฐบาลต้องการให้คนมาอยู่เยอะๆ ใครจะมาจากไหนก็รับทั้งนั้นแหละแถมสิ้นปีมีเงินผลกำไรจากกิจการของรัฐมาจ่ายเงินปันผลให้กับประชาชน ได้ทุกคน เจ้าอาวาสบอกว่าท่านก็ได้เงินปันผล ดีแฮะ ไปอยู่อลาสก้ากันไหม อิอิ
อลาสก้าวนาราม
รุจน์กับคุณบุญมีมาส่งเราที่สนามบินก็เลย ให้เงินกับรุจน์ค่าที่ช่วยพวกเราขับรถพาไป ไหนมาไหน ๒๕๐ เหรียญ แล้วเราขึ้นเครื่องอลาสก้าแอร์ไลน์เดินทาง ไปลาสเวกัส คราวนี้พวกเราทั้งสามคนโดนตรวจหมด เป็นเวรเป็นกรรมอะไรก็ไม่รู้ จนพวกเราไม่ซีเรียส พอเขาให้นั่ง ฝรั่งไม่ต้องบอกยกขาเราทำเองได้ เลย พอลุกขึ้นยืนเราก็กางแขน ขาอยู่ตามที่มันทำรูปไว้แล้ว ก็เข้าท่าดี อย่าเข้าไปเมืองไทยมั่งก็แล้วกัน ขอให้ ต.ม.ไทยจับตรวจพวกอเมริกันทุกคนเลย ฮึ่ม….

เรามาถึงซีแอตเทิ้ลพักเครื่องอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมง แวะลงเดิน แก้เมื่อย และโทร.กลับบ้านกัน แล้วมานั่งดื่มเบียร์ฆ่าเวลา จนใกล้เวลาเครื่องออกจึงมาขึ้นเครื่อง

มาถึงบ้านเพื่อนของเพื่อนด้วยรถลีมัวซีนไม่รู้เพื่อนจ่ายไปกี่ตังค์เพราะแบงค์ย่อยหมด ไม่ได้ช่วยเฉลี่ย เราถึงสนามบินประมาณสามทุ่มเศษ กว่าจะได้จัดการเรื่องกระเป๋า หารถ และถึงบ้านเพื่อนที่ว่าก็ประมาณห้าทุ่ม ทุกคนหิวไม่มีข้าวกิน พุธเพื่อนของลูกบอกว่าข้าวหมด ไม่รู้พี่แหม่มเก็บข้าวไว้ที่ไหน อ้าว..งานเข้าละสิ..อิอิ ก็เลยต้องออกจากบ้านไปหาอะไรทานกัน อ้อ บ้านที่เรามาพักเป็นบ้านของคุณแหม่มกับคุณเดวิด เจ้าของบ้านใจดีมาก คุณเดวิดบอกผมว่าถ้ามาเที่ยวคราวหน้าก็เชิญมานอนที่บ้าน เพราะเขาอยู่กันสองคน และออกไปทำงานตอนบ่าย ๓ กลับมาก็ประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ ร้านอาหารไทยก็หาไม่เจอ บางร้านที่ขายไก่ทอดก็ไม่ขายมันบอกปิดแล้วทั้งๆที่เราเห็นว่าไก่มันเหลือตั้งเยอะแยะ ในที่สุดก็ต้องแฮมเบอร์เกอร์ แต่ก็เป็นแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นแรกในอเมริกาเลยก็ว่าได้ กลับถึงบ้านก็เลยขอใช้อินเทอร์เน็ต เพราะเขาเปิดทิ้งไว้ ๒๔ ชั่วโมง มีเวบแคมด้วย ปรากฎว่าเครื่องนี้มีภาษาไทย แต่ไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาไทยก็ต้องเดาเอา นึกถึงเนติ์ตอนพิมพ์ภาษาไทย แต่เราไม่รู้สึกยุ่งยากมากนักเพราะเราจำได้เป็นส่วนใหญ่ ถ้าใช้ต่อเนื่องกันห้าวันก็คงจะฉลุย

อากาศที่นี่เริ่มเย็นๆ เห็นเพื่อนบอกว่าจริงแล้วมันเป็นทะเลทรายรอบข้างเลย กลางวันหน้าร้อนมันจะร้อนตับแตก หน้าหนาวก็จะหนาวสุดๆเหมือนกัน ตั้งแต่มาอเมริกานอนกลางคืนรู้สึกว่าคอแห้ง แห้งแบบแห้งสนิทจนรู้สึกว่าเนื้อในคอมันติดกัน คงเป็นเพราะความชื้นในอากาศ ตอนอยู่ที่ซานฟรานก็เริ่มมีอากาศปากเจ็บปากแห้งเริ่มลอกเป็นแผ่นเล็กๆ เลยเอาสีผึ้งเมืองไทยทาปากทุกวัน วันแรกพอเริ่มทาสังเกตเห็นเปลือกปากบนเริ่มเป็นเม็ดหลายเม็ด แต่สองวันต่อมาหายหมดเลย ตอนนี้ไม่เจ็บปากอีกแล้วเพราะทาทุกวัน ยิ่งตอนอยู่อลาสก้าทา ๓-๔ รอบก็เลยเป็นปกติเพียงแต่แห้งกว่าอยู่เมืองไทย น้ำลายก็เหนียว

ตั้งแต่อยู่ในอเมริกาไ้ด้แต่โทรกลับบ้านไม่ได้โทรหาใครเลย จะใช้อินเทอร์เน็ตทีก็ลำบากเพราะไม่มีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เพราะฝรั่งเขามีคอมพิวเตอร์กันเป็นส่วนใหญ่ จะมีก็ที่โรงแรมเป็นบิสิเนส ในห้องหากเอาคอมพิวเตอร์มาต่อก็ไม่ใช่ถูก เพราะโรงแรมที่เราไปพักเป็นโรงแรมดีๆ และเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อย่างโรงแรมกัปตันคุ๊กที่อลาสก้าเขาก็บอกว่าเป็นโรงแรมเก่า ตื่นเช้าขึ้นมาวันแรกเห็นแต่ตึกกับหมอกตอนเช้าไม่เห็นวิวอะไรเลย แต่พอวันที่เรากลับท้องฟ้าเปิดวิวจากที่ห้องสวยมากเห็นภูเขาน้ำแข็งอยู่ไกลๆ แต่เรารีบเดินทางมาลาสเวกัสเที่ยวบ่ายโมงเพราะมาเที่ยวเย็นจะถึงใกล้สว่างเป็นภาระเจ้าของบ้านเขาอีก

๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๗
วันนี้ตื่นแต่เช้า ยังไม่มีใครตื่น บ้านนี้เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ยังมีกลิ่นสีอยู่เลย ไฟในห้องก็ต้องใช้โป๊ะไฟไปก่อนแต่เขาต่อปลั๊กไฟไว้แล้ว อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ได้หลายอย่างแล้ว แอร์ที่นี่เป็นแอร์รวม แต่ไฟเพดานห้องนี้ยังใช้ไม่ได้ ปลั๊กไฟใช้ได้ มาคราวนี้ได้ความรู้เรื่องการสร้างบ้านที่อเมริกาอยู่อย่างหนึ่งเขาสร้างบ้านด้วยไม้ ผนังใช้ไม้อัดแล้วใช้วัสดุกันความร้อนความเย็นคล้ายๆโฟมปิดทับไปก่อนแล้วใช้ซีเมนต์พ่น ภายในใช้สีพ่นเหมือนตึกเลย แต่พอเอามือเคาะเสียงโพรกๆ บ้านจะสร้างเสร็จภายใน ๖เดือน ก็เข้าท่าดี
บ้านอเมริกัน
จากนั้นก็เป็นเรื่องของการตกแต่งภายในจะช้าจะเร็วก็อยู่ที่การวางแผนและเข้าในเรื่องการตกแต่งบ้าน บ้านหลังนี้เพื่อนบอกว่าต้องพ่นสีใหม่เพราะสีที่ดูจากแคตาลอคอย่างหนึ่งพอทาก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ผมว่าไม่ใช่หรอกสีในแคตตาลอคอย่างไรทาออกมาก็เป็นอย่างนั้นแต่เจ้าบ้านต้อง เข้าใจเรื่องเงาของสีด้วย เพราะถ้าทาสีเขียวปานกลางภายในบ้าน พอทาเสร็จบ้านก็จะเขียวทึมไปเลย เพราะเขียวจะสะท้อนเขียวให้เพิ่มความเข้มของสีเข้าไปอีก ถ้าอยากได้สีเขียวในแคตตาลอคก็ต้องดูสีอ่อนกว่านั้น ส่วนสีทาภายนอกอยากได้สีอะไรก็จะเหมือนกับแคตตาลอคเพราะสีจะสะท้อนแบบกระจาย นี่ว่าตามความเข้าใจของผมกับประสบการณ์ที่เคยเห็นมา ไม่ทราบว่่าจะถูกผิดในทางวิขาการหรือไม่ เช้านี้คุณแหม่มเจ้าของบ้านทำข้าวต้มขาวให้กิน มีไข่เค็ม ปลาแดดเดียว ยำผักกาดดอง กุนเชียง อร่อยมาก ทำกับข้าวให้พวกเราเสร็จเจ้าของบ้านก็ขอตัวขึ้นไปนอนต่อเพราะเขากลับจากงานดึก
ลาสเวกัส
วันนี้อ้วนพาเราไปเที่ยวเรดร๊อกเนชั่นแนลปาร์ค ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก สวยสมคำร่ำลือจริง มันใหญ่มากภูเขาเป็นลูกเบ้อเริ่มแต่สีแดงก็มี ออกเหลืองก็มี ออกขาวๆก็มี ถ้าคนชอบศึกษาธรรมชาติจะอยู่ได้เป็นวันๆ ผมเห็นพวกฝรั่งเขาเดินไปชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิดน่าเสียดายว่าอากาศเย็นลมแรงและเราไม่ได้มาคนเดียวจึงขอไปสัมผัสหินใกล้ๆก็พอ อย่างที่ทราบกันว่าลาสเวกัสเป็นทะเลทราย แต่ปัจจุบันเป็นแหล่งขุดทองชั้นยอด คาซิโนแต่ละแห่งก็เรียกร้องความสนใจจากลูกค้า ทำภูเขาไฟบ้าง ทำน้ำพุตามเสียงดนตรีบ้าง ทำเป็นรูปปิรามิดแล้วใช้แสงยิงจากยอดปิรามิดขึ้นบนท้องฟ้า ทำเป็นยานอวกาศยิงต่อสู้กันบ้างที่หน้าโรงแรมซึ่งเป็นบ่อนด้วยนั่นแหละ แสงสีแต่ละแห่งตระการตาไม่ต้องกลัวเปลืองน้ำมันเพราะเขาใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ทำให้รัฐนี้ใช้ไฟได้อย่างเต็มที่ อ้วนเล่าให้ฟังว่าก่อนใช้พลังงานนิวเคลียร์ก็มีปัญหาเหมือนกันเพราะคนต่อต้าน แต่เขาเดินหน้าไปเรื่อย มาตอนนี้สร้างเสร็จก็ไม่เห็นต่อว่าอีกแล้วทุกคนก็มุ่งหาเงินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน้อตอยู่นี่แหละ อิอิ แต่ทีเวลาเพื่อนจะสร้างโรงงานนิวเคลียร์บ้าง พี่เบิ้มจะต้องเดือดร้อนทุกที ฮ่าๆ
อเมริกาฮาเฮลาสเวกัส
เราออกจากเรดร๊อคแล้วกลับที่พักก่อนบ่าย ๓ โมง เพื่อให้เดวิด เจ้าของบ้านและรถเอารถไปทำงาน วันนี้เรายืมรถของเดวิดเป็นโตโยต้าไปเที่ยวใช้เครื่องวี ๘ รุ่น ค่อนข้างใหญ่ คนอเมริกันชอบใช้รถกระบะหรือรถเอนกประสงค์ใหญ่กว่าบ้านเราเพราะเขาตัวใหญ่ จากนั้นอ้วนก็ขับรถเก๋งอีกคันหนึ่งพาเราไป ร้านฟรายเพื่อหาซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้า แล้วมาที่กลางดงคาสิโน เพื่อชมน้ำพุ ปรากฏว่าวันนี้ลมแรงเขาไม่ได้แสดงเลยอดดู ได้ดูภูเขาไฟระเบิดแทน คนที่ไม่เคยมาอเมริกาบอกว่าแค่ได้มาเห็นแสงไฟก็คุ้มแล้ว และกำลังสร้างเพิ่มอีกนะชื่อ wynn เห็นเขาว่ากันว่าจะมีการจำลองน้ำตกไนแองการามาไว้ที่หน้าโรงแรมด้วยนะ เห็นป้ายบอกว่าจะเสร็จเดือนเมษายน ๒๕๔๘

วันนี้เรากินไก่ย่างเมกซิกันตอนบ่าย ๓ เป็นอาหารเที่ยง กินกับข้าวที่ไปซื้อร้านไทยฟู๊ดและน้ำจิ้มไก่พันท้ายนรสิงห์ ผมว่าพอจิ้มน้ำจิ้มมันก็เหมือนไก่ย่างบ้านเรานั่นแหละ มันขายดิบขายดี ชื่อร้าน el pallo loco อิ่มเหมือนกัน เครื่องดื่มที่นี่จ่ายครั้งเดียวเติมได้ตลอด นี่เท่ากับว่าการเดินทางครั้งนี้มีวันที่อยู่ที่นาริตะ ที่ต้องกินโซบะเป็นอาหารเย็น กินขนมที่สตาร์บั๊คเป็นอาหารเช้า กินคลับแซนวิชเป็นอาหารเที่ยง กินสเตคเป็นอาหารค่ำ นอกนั้นจะต้องมีอาหารไทยทุกวัน ผมว่าตัวผมคงไม่เหม็นเนยแน่เลย อิอิ

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : เฮ..อเมริกัน..ฮา

Next : เฮ..อเมริเกอเมริกา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ฮา..อเมริกาอเมริเก"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.038740873336792 sec
Sidebar: 0.08924412727356 sec