เฮ..อเมริกัน..ฮา
ที่หน้าโรงแรมเป็นย่านการค้ามีคนเดินมาก รถก็มากมีทุกชนิดจะเอาเก๋งยาว ๔ ท่อนก็มีให้ดู รถไฟฟ้าที่เขาเรียกสตรีทคาร์ ก็มี สถานีจอดรถรางก็อยู่ใกล้ๆ ผมออกมายืนถ่ายรูปเสียหลายรูป
ระบบจัดการเรื่องการเงินของโรงแรมก็มีปัญหาตามสไตล์อเมริกันเล่นเอาเสียเวลาไป ๒ ชั่วโมง เหตุเกิดจากการจองของพี่สถิตย์ ซึ่งผ่านเอเย่นราคาจึงแตกต่างจากราคาวอล์คอิน ฝรั่งก็ไม่อยากให้ลูกค้ารู้ราคาออกบิลให้แต่ละห้องเป็น ๐ เหรียญ เราบอกขอให้แยกบิลเพราะเราเอาไปเบิกไม่ได้ มันก็ไม่ยอม เสียเวลาไปเฉยๆ เป็นชั่วโมงๆ ที่สุดก็ต้องยอมมันแต่ให้เอเย่นเป็นคนออกใบเสร็จให้เราแทน จากนั้นท่านนายกฯก็พาเราไปชมวิวตาม สถานที่ต่างๆ พาไปนั่งลงจากเขาในเส้นทางคดเคี้ยวของถนนลำบาก พาไปดูวิวสวยๆที่เบย์บริดจ์ แล้วพาเราไปซื้อของที่ร้านคอสโก ซึ่งมีของบางอย่างราคาถูกอย่างเช่นเมมโมรีการ์ดคอมแพคแฟลช ๕๑๒ แมกฯ ราคาตก ๒,๐๐๐ นิดๆ นับว่าถูกมาก (แต่ราคาปัจจุบันนี้มันแพงสุดๆ ฮ่าๆ)
ก่อนเดินทาง ช่วงระหว่างจะไปเบย์บริดจ์พี่สถิตย์ส่งโทรศัพท์ให้บอกว่าเพื่อนจะคุยด้วย พอรับสายก็คือ แอ๊นท์ กฤติกา เพื่อนสมัยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นเขาอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตว่าผมไปแอลเอและเขาอยู่แอลเอเห็นรายชื่อคิดว่าเรายังอยู่แอลเอ ถามจนได้เบอร์กงสุลสถิตย์ ติดต่อกับเราได้นับว่าพยายามอย่างยิ่ง ประโยคแรกเขาถามเฮ้ยบัณฑูร โตงเตง(นามสกุลนี้ตอนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น ผมไปอำนักเรียนกลุ่มเอเชียว่านามสกุลผมเรียกว่าโตงเตง แปลว่าแกว่งไปแกว่งมา สาวฮ่องกงกับไต้หวันมันหัวเราะกันกลิ้ง…ฮ่าๆ) จำเราได้ไหม เรารู้ข่าวนายครั้งสุดท้ายตอนนายแต่งงาน พอรู้ว่าลูกผมจบการศึกษาแล้ว แอ๊นบอกว่าลูกเรา ๗ ขวบเอง เพิ่งมีลูกตอนสี่สิบ ดีใจจริงๆที่ได้คุยกับเพื่อน ขากลับเขาให้เบอร์โทร.ไว้ว่ามาถึงแอลเอแล้วอย่าลืมโทร.นะจะเลี้ยง แอ๊นทำงานทีแอลเอ ผมก็พอรู้ว่าผมดังมากขนาดไปอเมริกาประเทศที่ไม่เคยไปยังมีคนรู้จักเลย ก๊าก….
มาถึงสนามบินด้วยรถเหมา ท่านกงสุลใหญ่ต้องแยกเดินทางกลับไปแอลเอ พวกเราไปอลาสก้า ผม พี่รุ่งโรจน์ และพี่สถิตย์ โดนตรวจเหมือนเคยก็เลยทำใจได้เพราะ มันตรวจทุกเที่ยวที่จะบิน ก่อนขึ้นเครื่องคุณพิณเทพ ถามเจ้าหน้าที่ว่าบนเครื่องบริการอาหารหรือไม่เขาตอบว่าไม่มีมีแต่ของขบเคี้ยว ก็เลยต้องฟาดโดนัทรองท้องกับนม ๑ ขวดขึ้นเครื่องได้ก็หลับเลย มาถึงอลาสก้าห้าทุ่มเศษตามเวลาของที่นี่ซึ่งช้ากว่าซานฟราน ๑ ชั่วโมง หลวงพ่อเจ้าอาวาสไปรับ แต่กว่าจะได้เข้าห้องก็ประมาณตี ๑ ของที่นี่
๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๗
ว่าไปแล้วตัวผมเองก็ไม่เคยฝันว่าจะได้มาดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือ จะได้มาดูกราเซียร์ของจริงมันตื่นเต้นดีจัง เราใส่เสื้อหนาวกันเพียบตอนออกจากสนามบินเพราะอากาศมันค่อนข้างเย็น คราวนี้แหละจะได้เจอเย็นที่สุดในชีวิตที่เคยเย็น แต่รุจน์คนที่มาช่วยขับรถบอกว่า นี่ยังไม่หนาวจริงเพิ่งเริ่มต้นจะหนาวเท่านั้น
ผมตื่นแต่เช้ามองไปนอกโรงแรมมีแต่หมอก ทานอาหารเช้าที่โรงแรมมีไส้กรอกกวางเรนเดียร์ด้วย มีหรือที่จะไม่ลอง อร่อยเหมือนกัน ลองไปเดินสัมผัสความหนาวก็ได้รสชาติพอสมควร เห็นต้นไม้มีลูกสีแดงดูๆมันน่าจะกินได้ลองใส่ปากกัดดูมันทั้งเปรี้ยวทั้งฝาด บางต้นมีแต่ลูกสีแดงเท่าหัวแม่มือ ต้นนี้ทราบจากคุณบุญมีในภายหลังว่าเรียกว่า “ค้นแครบแอ๊ปเปิ้ล” ลองกินดูคล้ายๆพุทราออกรสเปรี้ยว ส่วนไอ้ที่เป็นช่อๆอย่าไปทานเชียวนะ ขนาดหมียังเมาเลย ผมบอกว่าสายไปเสียแล้วผมลองไปแล้วมันเหมือนกับมะยมกวน แฮ่ะๆๆ ไม่มาววว อิอิ
วันนี้รุจน์พาเราไปซื้อของที่ระลึก พาไปทานอาหารที่ร้านครัวไทย อาหารอร่อยมากขอบอก โดยเฉพาะต้มยำที่ผมไม่ค่อยชอบทานเท่าไหร่ แต่ร้านนี้ทำ อร่อยจริงๆ ผมสั่งข้าวผัดพริกเนื้ออร่อยมาก เช่นกัน ทานข้าวกันอิ่มแล้วพาไปดูกราเซียร์ แม้เราจะไม่ได้เห็นกราเซียร์มันถล่มลงมาแต่ก็ได้เห็น แม้ไม่สวยแบบนั่งเรือไปดูแต่มันก็สวย ชาตินี้ทั้งชาติจะได้กลับมาดูอีก หรือเปล่า เราลองหยิบน้ำแข็งมาจับ ถ่ายภาพกัน เท่ดีว่าเรามาจับน้ำแข็งที่เกือบใกล้ถึง ขั้วโลก รุจน์บอกว่าถ้าจะไปขั้วโลก ต้อง นั่งรถไปประมาณ ๗ ชั่วโมง เราไม่มีเวลา ขาไปเราแวะถ่ายภาพข้างทาง ขากลับเส้นทางเดิมผมก็ถ่ายของผมไปเรื่อย แล้วก็กลับช้อปปิ้งกันอีกรอบคราวนี้ผมซื้อของฝากลูกน้องได้แล้ว ผมซื้อทองไปฝากลูกน้องครับ มันเป็นทองแบบทองคำเปลวอยู่ในน้ำใส่หลอดแก้วจากนั้นเราไปทานอาหารกันที่ร้านไทยวิลเลจ เจ้าของเป็นคนสุราษฎร์อยู่ที่เกาะสมุย ขนพี่ขนน้องมาทำงานกันหลายปีแล้ว ดูท่าทางร้านเขาก็ขายดีมากอีกร้านหนึ่งเช่นกัน เวลาแขกเข้าร้านก็ต้องรอ เห็นฝรั่งสั่งอาหารไทยทานก็ปลื้มใจว่าคนไทยเราทำสำเร็จหลายเมืองแล้วด้วย
วันนี้เราสั่งปูคิงแครบ เพื่อนเขาสั่ง ๑๕ ปอนด์ เจ้าของร้านบอกว่าราคา ๑๕ ปอนด์กับยี่สิบปอนด์เท่ากันเลยเอา๒๐ ปอนด์มาให้ แค่เห็นเฉยๆก็อิ่มแล้ว ปูอะไรใหญ่เป็นบ้า แต่มันใหญ่เฉพาะก้ามกับขามันเท่านั้น ตัวมันไม่ใหญ่เท่าไร เจ้าของทำน้ำจิ้มแบบสุราษฎร์มาให้ อร่อยจริงๆ เรามีกับข้าวอย่างเดียวคือแกงส้มปลาแซลมอนด้วย ไม่เคยชิมใช่ไหมล่า…มื้อนี้ แค่ปูอย่างเดียวก็กินไม่หมดแล้วแถมโดน แกงส้มเผ็ดเข้าไปอีก แกงส้มเลยเหลือบานเลย อ้อ..มื้อนี้อัยการสามหน่อเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเนื่องจากภารกิจเสร็จสิ้นที่นี่ เขาเดินทางกลับ แต่กะเหรี่ยงไม่เคยเที่ยวอเมริกาอยู่เที่ยวต่อเพราะลาพักร้อนไว้อีก ๑๐ วันแล้ว…..กินเสร็จกลับโรงแรม ผมหลับมันมาก..ผมสงสัยว่าเสียงกรนผมคงดังมาก ขนาดหมีกริซลี่มันยังกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ ฮา…. (โปรดติดตามตอนต่อไปนะ..ขอร้อง อิอิ)
ความคิดเห็นสำหรับ "เฮ..อเมริกัน..ฮา"