Nov 20

คุณโยมบางทราย Tag มา  (คลิกที่นี้) ก็ต้องว่าไปตามที่ตั้งใจ ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะทำก็คือ “ยกวัดยางทองขึ้นมาให้ได้” และก็เริ่มดำเนินการมาประมาณครึ่งปีแล้ว ตั้งแต่จำเป็นต้องมาปฏิบัติหน้าที่่แทนเจ้าอาวาส….

วัดยางทอง แม้จะเป็นวัดสำคัญและเก่าแก่ แต่ก็ตกอยู่ในสภาพเชิงลบ คือ “ชื่อเสีย” มาหลายสิบปีแล้ว กล่าวได้ว่าตั้งแต่ผู้เขียนไม่ได้บวชโน้นแหละ นั่นคือ ตอนนั้น (ก่อนปี 2528) ถนนนางงามที่วัดตั้งอยู่หัวมุมจะเป็นย่านท่องเที่ยวของคนกลางคืน เพราะห่างออกไปมีโรงหนังหลักเมืองใกล้ๆ วัด พวกติดยาขายยาเสพติดมักจะใช้วัดเป็นที่หลบซ่อนพักพิง ท่านมหาเล็กเจ้าอาวาสรูปก่อนโน้นก็อาพาธ เสนาสนะภายในวัดก็ทรุดโทรมทุกอย่าง… หลังจากท่านมหาเล็กมรณภาพแล้ว ท่านมหาลี่ขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาส ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็อาพาธและมรณภาพลงไปอีกรูป สภาพวัดก็ทรุดโทรมและเป็นที่ซ่องซุ่มของพวกมิจฉาชีพยิ่งขึ้นไปอีกเพราะตกอยู่ในช่วงช่องว่างของผู้มีอำนาจในวัด…

หลังจากท่านมหาลี่มรณภาพ ท่านมหาประดับก็ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส (ปี 2528) ท่านมีปณิธานอย่างแรงกล้วเพื่อจะยกวัดยางทองขึ้นมาให้ได้…. และปลายปี 2530 ผู้เขียนก็เข้ามาอยู่วัดยางทอง สภาพวัดตอนนั้นยังคงทรุดโทรม พวกติดยาขายยายังมีอยู่ ถึงขนาดว่าสายตรวจตำรวจจับยาเสพติดจะมาอยู่ประจำ บางวันพวกติดยาก็นั่งคุยกับตำรวจจนดูเป็นเรื่องแปลกดี…

ท่านมหาประดับ รื้อกลุ่มกุฏิเก่าๆ ซึ่งเป็นกุฏิไม้กลางวัดออกหมดเพื่อใช้พื้นที่บางส่วนจะสร้างโบสถ์ใหม่  รื้อโรงครัวหอฉันเก่าออกแล้วสร้างกุฏิยาวสองชั้นกึ่งถาวรเพื่อให้พระเณรอยู่ชั้นบนก่อน ส่วนชั้นล่างใช้เป็นอเนกประสงค์ แต่ท่านมหาประดับก็อยู่ได้ไม่นาน พอเริ่มลงฐานรากโบสถ์ก็มรณภาพลงอีกด้วยโรคลมปัจจุบัน (ปี 2535) ปรารภกับบรรดาสหธรรมิกและญาติโยมว่า ไม่แน่ว่าท่านจะบุญมากคือไม่ต้องเหนื่อยตรากตรำต่อไป หรือบารมีไม่ถึงจึงต้องจากไปก่อนวัยอันสมควร…

หลังจากท่านมหาประดับมรณภาพ พระสมุห์เจษฎาซึ่งเป็นพระเถระที่เหลืออยู่ก็ได้รับการยกขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านไม่เป็นที่ประทับใจบรรดากรรมการและญาติโยม ยังไม่ทันจะได้ปรับตัวปรับปรุงแก้ไขอะไรนัก ก็เริ่มอาพาธ จึงปล่อยเลยตามเลยให้บรรดากรรมการและญาติโยมสร้างโบสถ์จนเสร็จ ส่วนสภาพภายในวัดก็ค่อยๆ ทรุดโทรมลงอีก ทั้งๆ ที่ตอนนี้ โรงหนังหลักเมืองก็เลิกไปแล้ว ถนนนางงามก็มิใช่ที่ท่องเที่ยวของคนกลางคืนแล้ว พวกติดยาขายยารุ่นเก่าๆ ก็หมดไปแล้ว อยางไรก็ตามพวกจรจัดพลัดที่ก็ผ่านไปผ่านมาซ่องซุ่มอยู่เรื่อยๆ….

เมื่อพระสมุห์เจษฏาอาพาธเข้าโรงพยาบาลนั้น บรรดากรรมการและญาติโยมก็ได้ยกพระครูบุญเสริม (เป็นพระเถระเพื่อนท่านเจ้าอาวาส เพิ่งมาอยู่หลังจากท่านมหาประดับมรณภาพ) จึงยกพระครูบุญเสริมขึ้นเป็นผู้ปฏิบัติงานแทนเจ้าอาวาส จนกระทั้งเจ้าอาวาสกลับมาวัด จึงกลายเป็นอำนาจสองฝ่ายขึ้นภายในวัด เมื่อเจ้าอาวาสอาพาธหนักอีกครั้ง ก็มีการยกพระครูบุญเสริมขึ้นเป็นรองเจ้าอาวาส แต่ไม่นานนัก ท่านก็อาพาธลงอีก จึงต้องถึงวาระของผู้เขียนต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่แทน…

ตลอดเวลาเกินยี่สิบปีที่ผู้เขียนมาสังกัดวัดยางทองนั้น ไม่ค่อยจะเป็นที่รู้จักของญาติโยมเพราะเก็บตัวเรียนหนังสือในระยะแรก ต่อมาก็ไปเรียนหนังสือบ้างสอนหนังสือบ้าง โดยมากกลับมาวัดก็เพียงช่วงปิดเทอมหรือช่วงขี้เกียจเรียนขี้เกียจสอนหนังสือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เพราะเหตุอยู่นาน ผู้เขียนจึงกลายเป็นอำนาจที่สามภายในวัดตามกฎเกณฑ์อะไรก็ยากที่จะอธิบาย 5 5 5…

เมื่อแรกย้ายมาอยู่ศาลาโรงธรรมเพื่อสะดวกในการที่ญาติโยมจะพบหานั้น บางคนบอกว่า “วัดยางทองยกไม่ขึ้นแล้ว” แต่เดียวนี้บางคนบอกว่า “เขาตั้งความหวังไว้กับท่านมหาฯ” และนี้แหละ คือสิ่งที่ต้องการจะทำ “ยกวัดยางทองขึ้นมาให้ได้”

สภาพวัดตอนนี้ ผู้เขียนแบกพระเถระอยู่สองรูป คือท่านเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาส ซึ่งเพื่อนสหธรรมิกบางท่านบอกว่า ผู้เขียนมีงานใหญ่ที่อาจเป็นไปได้รออยู่ข้างหน้า คือจัดงานศพท่านทั้งสองในอนาคต (ตามความน่าจะเป็น) ซึ่งประเด็นนี้ ผู้เขียนไม่กังวลนัก เพราะคาดการณ์ได้ยากว่าท่านจะไปต่อใด และก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าผู้เขียนอาจไปเสียก่อน 5 5 5…

ตอนนี้งานที่จะทำในต้นปีหน้าก็คือ ทำบุญวัด. โดยจะแบ่งเป็นสองภาค ภาคเช้านิมนต์พระเถระ ๑๐ รูป สวดธรรมนิยามสูตรเพื่ออุทิศส่วนบุญไปให้แก่ผู้ก่อตั้งวัด อดีตเจ้าอาวาส ไวยาวัจกร และบรรพชนชาวบ่อยางทั้งหมด… ภาคค่ำก็นิมนต์พระเถระ ๙ รูป เจริญพุทธมนต์ธรรมจักกัปปวัตนสูตรในโบสถ์… เพื่อเป็นสิริมงคลแก่วัดในเบื้องต้น

ในวันงานนั้น จะมีการประชันดนตรีไทยตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืน และจะสร้างพระผงหลวงพ่อบ่อยางขึ้นมาเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของวัดต่อไป…

โดยใจจริงแล้ว ผู้เขียนไม่ชอบเลยงานแบบนี้ แต่เมื่อจำเป็นต้องทำ ก็ต้องลองพิสูจน์ จะเรียกว่าความสามารถ วาสนาบารมี หรืออะไรก็ตาม…

ก็เล่ามาพอสมควรแล้ว ไม่อยากจะ Tag ไปยังคนอื่น… ขอ Tag ให้ตนเองอีกสองครั้ง (ไม่แน่ใจว่าผิกกติกาหรือไม่) เพราะมีเรื่องตั้งใจจะทำที่ต้องการเล่าหรือบ่นอีกหลายเรื่อง…

Jan 09
  • หม้อใบนี้มิใช่หม้อเนยใส มิใช่หม้อน้ำมัน มิใช่หม้อน้ำผึ้ง โทษของหม้อใบนี้มีอยู่มิใช่น้อย ท่านจงฟังโทษเป็นอันมากที่มีอยู่ในหม้อใบนี้.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้วเดินโซเซตกลงไปยังบ่อถ้ำหลุมน้ำครำและหลุมโสโครก พึงบริโภคของที่ไม่ควรบริโภคแม้มากได้ ท่านจงซื้อหม้อนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้วไม่มีกฎเกณฑ์ในใจ เที่ยวหยำเปไป เหมือนโคกินกากสุราฉะนั้น เป็นเหมือนขาดที่พักพิง ย่อมฟ้อนรำได้ขับร้องได้ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้วแก้ผ้าเปลือยกาย เที่ยวไปตามตรอกตามถนนในบ้าน เหมือนชีเปลือย มีจิตลุ่มหลง นอนตื่นสาย ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้วลุกขึ้นโซเซ โคลงศีรษะและยกแขนขึ้นร่ายรำ เหมือนรูปหุ่นไม้ฉะนั้น ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้วนอนจนถูกไฟไหม้ และกินอาหารที่เหลือเดนสุนัขได้ ย่อมถึงการถูกจองจำถูกฆ่า และความเสื่อมแห่งโภคะ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้วพูดคำพูดที่ไม่ควรพูด นั่งพร่ำในที่ประชุม ปราศจากผ้าผ่อน เลอะเทอะ นอนจมอยู่ในอาเจียนของตน มีแต่เรื่องฉิบหาย ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้ววางมาดเป็นคนสำคัญ นัยน์ตาขุ่นขวาง เข้าใจว่าบ้านเมืองเป็นของเราคนเดียว พระราชาแม้มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบขัณฑสีมาก็ไม่เสมอเรา ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุคคลดื่มน้ำชนิดใดแล้วถือตัวจัด ก่อการทะเลาะวิวาท ยุยงส่อเสียด มีผิวพรรณน่าเกลียด เปลือยกายวิ่งไป อยู่อย่างนักเลงเก่า ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • น้ำชนิดนี้ทำตระกูลทั้งหลายในโลกนี้อันมั่งคั่งบริบูรณ์มีเงินทองตั้งหลายพันให้ขาดทายาทได้ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • ข้าวเปลือก ทรัพย์สิน เงินทอง ไร่ นา โค กระบือ ในสกุลใดย่อมพินาศไป ตระกูลที่มั่งมีทั้งหลายขาดสูญไป เพราะดื่มน้ำชนิดใด ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุรุษดื่มน้ำชนิดใดแล้วเป็นคนหยาบช้า ด่ามารดาบิดาได้ แม้ถึงเป็นพ่อผัวก็พึงหยอกลูกสะใภ้ได้ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • นารีดื่มน้ำชนิดใดแล้วกลายเป็นคนกักขฬะหยาบช้า ด่าพ่อผัวแม่ผัวและสามีได้ แม้เป็นทาสเป็นคนใช้พึงรับเป็นสามีของตนได้ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุรุษดื่มน้ำชนิดใดแล้วฆ่าสมณะ หรือพราหมณ์ผู้ตั้งอยู่ในธรรมได้ พึงไปสู่อบายเพราะกรรมนั้นเป็นเหตุ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • ชนทั้งหลายดื่มน้ำชนิดใดแล้วประพฤติทุจริตทางกายทางวาจาหรือทางใจได้ ย่อมไปสู่นรกเพราะประพฤติทุจริต ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • ชนทั้งหลายแม้จะยอมสละเงินเป็นอันมาก มาอ้อนวอนบุรุษใดซึ่งไม่เคยดื่มสุรา ให้พูดเท็จย่อมไม่ได้ บุรุษนั้นครั้นดื่มสุราแล้วย่อมพูดเหลาะแหละเหลวไหลได้ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • คนรับใช้ดื่มน้ำชนิดใดแล้ว เมื่อถูกเขาใช้ไปในกรณียกิจรีบด่วน ถูกซักถามก็ไม่รู้เนื้อความ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • ชนทั้งหลายดื่มน้ำชนิดใดแล้ว ถึงจะเคยมีความละอายใจอยู่ ก็ย่อมจะทำความไม่ละอายให้ปรากฏได้ ถึงแม้จะเป็นคนมีปัญญาก็อดพูดมากไม่ได้ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • ชนทั้งหลายดื่มน้ำชนิดใดแล้ว นอนคนเดียวไม่มีเพื่อน คล้ายลูกสุกรนอนเดียวดายด้วยชาติกำเนิดอันต่ำฉะนั้น อดข้าวปลาอาหารย่อมเข้าถึงการนอนเป็นทุกข์อยู่กับแผ่นดิน สิ้นสง่าราศรีและต้องครหานินทา ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • ชนทั้งหลายดื่มน้ำชนิดใดแล้วย่อมนอนคอตก หาเป็นเหมือนโคที่ถูกลงปฏักฉะนั้นไม่ ฤทธิ์สุราย่อมทำให้คนอดทนได้(ไม่กินข้าวกินน้ำ) ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • มนุษย์ทั้งหลายย่อมเว้นดื่มน้ำชนิดใด อันเปรียบด้วยงูมีพิษร้าย นรชนคนใดเล่าควรจะดื่มน้ำชนิดนั้นอันเป็นเช่นยาพิษมีในโลก ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • โอรสทั้งหลายของท้าวอันธกเวณฑะ ดื่มสุราแล้วพาหญิงไปบำเรออยู่ที่ริมฝั่งสมุทร ประหารกันและกันด้วยสาก ท่านจงซื้อหม้อใบนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชนิดนั้น.
  • บุรพเทพคืออสูรทั้งหลาย ดื่มน้ำชนิดใดแล้วเมามาย จนจุติจากไตรทิพย์คือดาวดึงสเทวโลก ยังสำคัญตนว่าเที่ยง เป็นไปกับด้วยอสุรมายา ดูก่อนมหาราชเจ้า บุรุษผู้ฉลาดเช่นกับพระองค์ เมื่อทราบว่าน้ำดื่มชนิดนี้เป็นน้ำเมา หาประโยชน์มิได้ จะดื่มทำไม?
  • ในหม้อใบนี้ไม่มีเนยข้นหรือน้ำผึ้ง พระองค์รู้อย่างนี้แล้ว จงซื้อเสีย ดูก่อนท่านสัพพมิตต์ สิ่งที่อยู่ในหม้อนี้ ข้าพเจ้าบอกแก่ท่านแล้วตามความเป็นจริงอย่างนี้แหละ.

บางตอนจาก กุมภชาดก ต้องการอ่านทั้งหมด (คลิกที่นี้)

Aug 06
  • ไป เถิดไปที่โน้น                ที่ไหน
  • ไม่ ไม่ได้ดั่งใจ                  แห่งข้า
  • กลับ มาอย่าเลยไป            จงอยู่ ที่นี้
  • หลับ หน่อยแต่อย่าช้า         เร่งสร้าง ความเพียร
  • ไม่ เลิกแม้พลาดพลั้ง           แห่งข้า
  • ตื่น ตื่นจงตื่นมา                 เร่งเร้า
  • ฟื้น เถิดอย่ามัวช้า              รีบเร่ง ดำเนิน
  • ไม่ นิ่งเฉยเร็วเข้า               เร่งสร้าง ความดี
  • ี ความดีมั่นไว้                  จำเริญ
  • หนี ความชั่วอย่าเพลิน         จักช้ำ
  • ไม่ หยุดอยู่นานเกิน            เพราะมั่ว มัวเมา
  • พ้น ไม่พ้นตอกย้ำ              แน่แท้ บารมี
Jul 24
  • เช้า เช้า เช้า ตื่น เช้า เช้า
  • ข้าว ข้าว ข้าว กิน ข้าว หรือ ยัง
  • ตื่น เช้า เช้า กิน ข้าว หรือ ยัง
  • ยัง ยัง ยัง ยัง ไม่ ตื่น ตอน เช้า
  • ตื่น ตื่น ตื่น ไฉน ไม่ ตื่น ตอน เช้า