Mar 26

http://lanpanya.com/journal/files/2009/03/picture-1.jpg

ลานปัญญา ถือกำเนิดทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ครั้งแรกนั้นชื่อว่า lanpanya.net ต่อมาเมื่อย้ายมาอยู่เมืองไทยก็เปลี่ยนนามสกุลใหม่จึงได้ชื่อว่า lanpanya.com เมื่อจะพิจารณาดวงชาตาก็จะใช้กำเนิดเดิม เพราะเป็นรากเหง้าของสิ่งนั้น ทำนองเดียวกับคนเราแรกเกิด แม้จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพอย่างไรและกิ่ครั้งก็ตาม แต่รากเหง้าตอนแรกเกิดก็ยังคงติดตัวอยู่…

ลานปัญญาถือกำเนิดใน ราศีตุลย์ หมายถึงคันชั่ง ซึ่งเดิมทีนั้นมนุษย์นิยมใช้คันชั่งเพื่อการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าจะได้เกิดความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ราศีนี้จึงหมายถึงธุรกิจการเงินการธนาคาร และหมายถึงกระบวนการที่ก่อให้เกิดความยุติธรรม… เมื่อมาพิจารณา ลานปัญญา จึงน่าจะเป็นไปเพื่อการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันอย่างยุติธรรม เสมอภาค เท่าเทียมกัน

ราศีตุลย์มี พระศุกร์ (๖) เป็นดาวเจ้าเรือน ซึ่งมีคำทำนายว่า “ทายกิเลสกำหนัดทายศุกร์” นั่นคือ ลานปัญญามีความสำรวยรักสวยรักงาม มีความพึงพอใจในความเป็นลานปัญญา และทั้งยังมีความปรารถนาเพื่อความสวยงามยิ่งๆ ขึ้นไป… พระศุกร์ ซึ่งเป็นตนุลัคน์ มิได้สถิตอยู่ในราศีตุลย์เรือนของตนเอง แต่ไปสถิตอยู่ที่ราศีเมถุน ดังนั้น จึงต้องตามไป…

พระศุกร์สถิตอยู่ ราศีเมถุน หมายถึงคนคู่ ซึ่งบ่งชี้การอยู่ร่วม ติดต่อ มนุษย์สัมพันธ์ สังคม และนี้คือความเป็นไปของลานปัญญา… แต่ราศีเมถุนนี้มิใช่จะมีแต่พระศุกร์เท่านั้น ยังมีพระอาทิตย์ (๑) และพระพุธ (๔) อีกด้วย แสดงว่าลานปัญญาชอบที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ชอบสังคม ไม่ชอบปลีกตัวอยู่ตามลำพัง… จึงต้องตรวจสอบพระอาทิตย์และพระพุธต่อไป…

พระศุกร์อยู่ร่วมกับพระอาทิตย์และพระพุธ โดย พระอาทิตย์ มีทำนายว่า “ทายเกียรติยศทายอาทิตย์” ซึ่งพระอาทิตย์นี้ได้แก่คนมีอำนาจ มียศ มีตำแหน่ง หรือชนชั้นปกครอง … ขณะที่ พระพุธ มีทำนายว่า “ทายวาจาทายพุธ” ซึ่งพระพุธนี้ได้แก่คนชอบโวหารการเจรจา หรือพัฒนามาเป็นหนังสือในปัจจุบัน และนักคิดนักวิจารณ์ก็จัดว่าเป็นพระพุธเหมือนกัน… ส่วนพระศุกร์เองคือผู้ที่สำรวยรักสวยรักงาม และนี้คือกลุ่มคนที่ติดต่อสื่อสารสังคมกันอยู่ในลานปัญญา…

อนึ่ง ตรงข้ามราศีเมถุนที่พระเคราะห์ทั้งสามดวงนี้สถิตอยู่ได้แก่ราศีธนู ซึ่งมี พระพฤหัส (๕) เป็นเจ้าเรือน ในขณะที่กำเนิดลานปัญญาพระพฤหัสสถิตอยู่ในเรือนของตนและกำลังเล็งมายังพระเคราะห์ทั้งสามดวงนี้… มีทำนายว่า “ทายปัญญาบริสุทธิ์ทายพฤหัส” ซึ่งพระพฤหัสนี้จัดเป็นดาวครู หรือนักปราชญ์ราชบัญฑิตก็ได้ นั่นก็คือ สังคมการติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างสมาชิกในลานปัญญาจะถูกตรวจสอบและเพ่งเล็งจากผู้มีปัญญาอยู่ตลอดเวลา และผู้มีปัญญานี้จะมีอำนาจมั่นคงเพราะสถิตอยู่ในราศีธนูซึ่งเป็นเรือนของตน…

อีกนัยหนึ่ง ราศีเมถุนเป็น ศุภะ จัดเป็นภพที่ให้คุณ สนับสนุน ช่วยเหลือเพื่อความมั่นคง ดังนั้น ลานปัญญาจึงเป็นไปเพื่อการณ์นี้… ส่วนราศีธนูเป็น สหัชชะ จัดเป็นเพื่อนพ้อง มิตรสหาย เมื่อมีพระพฤหัสเจ้าเรือนสถิตอยู่แล้วเล็งมายังราศีเมถุน จึงพอจะคาดหมายได้ว่า ผู้มีปัญญาที่เพ่งเล็งเฝ้ามองกลุ่มชนในลานปัญญานี้ เป็นไปฉันท์มิตรสหาย ยินดีจะช่วยเหลือเกื้อกูล…

มีเกจิบางท่านบอกว่า ๑+๔+๖ เมื่อมาร่วมกันให้แปลว่า ขี้เหนียว แต่เมื่อมาเป็นลานปัญญาก็อาจทำนายว่า การพบปะสื่อสารในลานปัญญา ต่างก็สงวนท่าที เกรงกลัวจะถูกหลอก กลัวจะเสียเปรียบ นั่นคือแต่ละคนต่างก็มีความละเอียดรอบคอบในการเข้าร่วมสังคม ซึ่งเป็นการแปลความหมายมาจากความเป็นคนขี้เหนียวอีกต่อหนึ่ง…

ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกเยอะ แต่คืนนี้เจ็บตาแล้ว ค่อยติดตามต่อตอนต่อไป…