หมอผี..วิทยาศาตร์การแพทย์สมัยใหม่
พอเอ่ยถึงหมอผี คนไทยสมัยนี้ส่วนใหญ่ (ที่เห่อการแพทย์ฝรั่ง) จะร้องยี้ทันที หาว่าล้าหลัง โง่ เซ่อ งมงาย
แต่หารู้ไม่ว่าบรรพบุรุษของเอ็งป่วยไข้กันมากหลายในสมัยโน้น ก็รอดตายกันมา จนมาสืบพันธุ์ให้ปูย่าเอ็งได้เกิดมา จนเอ็งก็ได้เกิดมาจนถึงวันนี้ ก็ล้วนบุญคุณหมอผีทั้งสิ้น ….ปากยังไม่ทันสิ้นกลิ่นน้ำมนต์ แหม..วันนี้เณรคุณ ด่าหมอผีผู้มีพระคุณหลาย
เมื่อประมาณพศ. ๒๕๓๓ ผมมีอายุได้ประมาณ ๓๕ มีบุญได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง (ภาษาอังกฤษ) จากหมอฮาร์วาร์ด ที่ท่านได้เขียนเล่างานวิจัยของท่านที่ไปวัดระดับภูมิต้านทานของพระธิเบตที่เข้าสมาธิ พบว่าเซ็ลภูมิต้านทานเพิ่มแบบก้าวกระโดดพลันที่สมาธิเกิด (คลื่นสมองราบเรียบ) ….การค้นพบนี้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนแรก ถ้าเป็นท่านนี้ สมควรได้โนเบล . (แต่จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าคือคนแรก)
หมอท่านนี้เล่าต่อว่า ท่านได้ทำการทดลองอีกอย่าง (ที่จริงๆ แล้วถือว่าผิดกฎหมาย แต่ในศาสนาพุทธถือว่าไม่ผิด เพราะไม่มีเจตนา) คือ ท่านรักษาคนไข้ด้วยการฉีดยา ซึ่งตัวยาประกอบด้วยสาระสำคัญมากคือ “น้ำเปล่า ”
ท่านพบว่าการฉีดด้วยน้ำเปล่ามีอัตราการรักษาไข้ให้หายขาดได้ เท่าเทียมกับการฉีดด้วยยาราคาแพง คือ 75% …มันน่าประหลาดมากๆๆๆๆๆๆ…โดยที่ท่านไม่ได้ให้ข้อสรุปอะไรต่อจากนี้
ผมอ่านจบ สรุปได้ด้วยตัวเองว่า กำลังใจ อันเกิดจาก ความเชื่อ นั่นแหละคือต้นเหตุแห่งการเยียวยา
ถ้าผม..วิศวกรเครื่องกล..ประกาศก้องว่า ผมจะฉีดน้ำเข้าเส้น รักษาไข้ให้หายได้ ขอจงมาฉีดบำบัดกับผมเถิด อัตราการรักษาให้หาย ไม่น่าเกิน 10% …ทั้งที่เป็นตัวยาอันเดียวกันกับหมอฮาร์วาร์ดท่านนั้นทุกประการ …ซึ่งแสดงว่าผลต่าง 65% มาจาก “ความเชื่อ” ศรัทธา หรือ กำลังใจนี่เอง
สมาธิ ความเชื่อ ศรัทธา ล้วนมีรากมาจากสิ่งเดียวกัน คือ “ความเข้ม” ของพลังจิต
เมือพลังจิตมีความเข้ม ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพิ่มขึ้น ทำให้ต่อสู้กับเชื้อโรค และทำให้หายไข้ได้
พอหมอผีทำพิธี ท่องคาถา เรียกน้ำมัน พรมน้ำมัน ..ยิ่งถ้าเป็นหมอชื่อดัง มีความขลัง คนไข้ก็ยิ่งเชื่อมั่น เกิดศรัทธา ทำให้ระบบอิมมูนพุ่งกระฉูด ดังนั้นไข้ก็หาย
”หมอผี” ที่คนสมัยนี้ดูถูกหนักหนานั้นแท้จริงแล้วเป็นระบบ “วิทยาศาสตร์ทางจิต” ที่ล้ำลึกยิ่ง ที่คนโบราณเขารู้กันมานาน แต่วันนี้ฝรั่งมาสอนให้เราดูถูกระบบนี้ โดยที่พวกเขาเองว่าจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างอะไรจากหมอผีนักหรอก เพราะมาหลอกคนโง่อย่างเราๆให้ “เชื่อ” ทฤษฎีง่าวๆ ของพวกเขาไปอย่างเซื่อง ๆ
โดยมีบริษัทยายักษ์ใหญ่ให้สปอนเซอร์อยู่ห่างๆ พร้อยรอยยิ้มย่องๆ
« « Prev : รักษาไข้ด้วยตนเอง..ตามประสาหมาแมว
Next : หนุ่มนาข้าว.สาวนาโน » »
1 ความคิดเห็น
ที่จริงเรื่องการป่วย ตาย หาย เจ็บ มีอยู่ 4 กลุ่มใช่ไหมคะอาจารย์
คือ รักษาก็ตายไม่รักษาก็ตาย
รักษาไม่ตาย ไม่รักษาตาย
ไม่รักษาก็หาย รักษาก็หาย
ไม่รักษาไม่หาย รักษาก็ไม่หาย
บางเรื่องเป็นเหตุประจวบเหมาะ บางเรื่องเป็นเพราะการตัดสินใจที่ดีเยี่ยม
สองกรณี ผลเท่ากัน แต่กระบวนการต่างกันนะคะ