แ่อ่วเชียงใหม่แล้วไปลำพูน
อ่าน: 2256
“ได้พบปะปีละครั้งก็ยังดี
แต่ถ้าพบหลายทียิ่งดีใหญ่
ภารกิจเกี่ยวพันดั้นด้นไป
จ๊ะจ๋าไมตรีจิตทุกทิศทาง”
“ได้พบปะปีละครั้งก็ยังดี
แต่ถ้าพบหลายทียิ่งดีใหญ่
ภารกิจเกี่ยวพันดั้นด้นไป
จ๊ะจ๋าไมตรีจิตทุกทิศทาง”
หลังจากได้ฟังม็อบกับรัฐบาลจีบกัน
คน 6 คนจาก 2 ฝ่ายพบปะกันตามมารยาทไทย
มีคนใส่ใจฟังอย่างจดจ่อทั่วประเทศ
และสนใจฟังไปทั่วโลก
เป็นการคุยกันนัดประวัติศาสตร์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ที่ได้บันทึกไว้ในใจของคนไทยเรียบร้อยแล้ว
การสื่อสารของประเทศนี้ทำหน้าที่ได้ดี
กราบขอบคุณพระสยามเทวาธิราช
ที่ดลบันดาลให้ 2 ฝ่ายตกลงปลงใจมานั่งคุยกัน
ขอบพระคุณ ศ.บวรศักดิ์ สุวรรณโณ มือประสานสิบทิศ
ขอบคุณสำนักสันติวิธีและสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเป็นเวทีกลาง
ขอบคุณคนไทยที่สละเวลามาร่วมรายการฉุกคิดประเทศไทย
เราได้เห็นความเหนียมอายเล็ก ๆ ที่น่ารักของทั้ง 2 ฝ่าย
ที่สะท้อนถึง..ยังไง ๆ เราก็ยังเป็นคนไทยเหมือนกันวันยังค่ำ อ่านต่อ »
(ปูเสื่อที่ขอบชานบ้าน ก็มีพื้นที่นั่งชิมเมี่ยงคำที่สุดแสนจะสุขสบาย)
..ชนบทเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มตัวแล้วนะขอรับ
ปีนี้แล้งสุดโหดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แม่น้ำ น้ำบ่อ เริ่มแห้งและปริมาณลดลงอย่างมาก
ได้ประชุมลูกน้องให้ใช้น้ำอย่างประหยัด
น้ำทุกหยดมีค่ายิ่งกว่าทองคำ
ทองดื่มไม่ได้ อาบไม่ได้ บอกง่ายๆยังงี้แหละ
ผมเรื้อระบบ-น้ำอาบ-น้ำทิ้ง-ที่เคยไหลลงบ่อเกรอะ
มาต่อน้ำท่อใหม่ให้ไหลไปรดต้นไม้
กำลังตัดสินใจติดฝักบัวกลางแจ้ง
จะได้อาบน้ำให้เกิดประโยชน์ทุกหยดหยาด
ปัญหาอยู่ที่จะนุ่งผ้าขาวม้าหรอแก้ล่อนจ้อน
ถ้าแก้..จะต้องคอยอาบน้ำตอนกลางคืน
จะได้ไม่เข้าทำนอง..จันทร์ไม่มองนะจันทร์ไม่มอง..
ตอนย่ำรุ่ง เจ้าโตกร้องเสียงดังหลายครั้ง ผมแปลรหัสเจ้านกยูงตัวนี้ไม่ออก ทำไมร้องในช่วง 2-3 วันนี้ ร้อง..ร้องทั้งกลางวันกลางคืน จะร้องหาตัวเมียก็ไม่ใช่ เพราะเห็นป้วนเปี้ยนกันอยู่ โฉมยงบอกว่ามันร้องเพราะครบรอบ 100 วันมรณภาพของหลวงปู่จันทร์แรม ซึ่งเราคิดว่าเป็นแหล่งที่นกยูงตัวนี้เคยอาศัยมาก่อน จะจริงหรือไม่อย่างไรก็เล่าไว้ไปพอสังเขป เพื่อเชื่อมโยงสาเหตุที่ทำให้ตื่นเช้ามืดวันนี้
เปิดดูข้อความในโทรศัพท์
น้าอึ่งบอกว่าถึงบ้าน อาบน้ำทาแป้ง จะเข้านอนแล้ว
ก็คลายใจที่โชเฟอร์พาไปถึงที่หมาย
สมกับฉายาที่หมอเจ๊ตั้งให้ “เมียสิบล้อ”
คงเหนื่อยกันย่ำแย่เพราะทริปนี้ขับรถไป-กลับ 1,800 กิโลเมตร
ด้วยความห่วงใย ..ไม่น่าชวนมาเล๊ย..
..ดูหัวข้อนี้แล้วคล้ายทำนอง “จากดินไปสู่ดาว” แท้ที่จริงแล้วมีที่ไปที่มาสุดแสนจะโชติช่วงชัชวาล เมื่อผมได้ขึ้นรถกับพระอาจารย์ไร้กรอบ เพื่อไปงานปฐมนิเทศนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุขรุ่นที่ 2 หรือเรียกว่ารุ่นสสสส. 2 ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(ฉลาดได้อีก ดีกว่่าโง่อีกแล้ว แน่นอน)
การได้พบพระอาจารย์ไร้กรอบแต่ละครั้ง เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตหัวใจยังไงยังงั้น เจอเป็นกอดเอาฤกษ์ พระอาจารย์จะหัวเราะทักทาย หลังจากนั้นก็จะงัดเอาความรู้ความคิดสด ๆ ใหม่ ๆ มาเล่าขาน ชีวิตที่เต็มไปด้วยงานที่สุดแสนจะรื่นเริงบันเทิงใจ จนนึกไม่ได้ว่ามีคราใดที่บุรุษผู้นี้จะหยุดอยู่เฉย ๆ ได้บ้างไหมหนอ ในหัวสมองมีสติปัญญาอุ่นเครื่องตลอดเวลา ลีลาที่ถ่ายทอด ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดตื่นตาตื่นใจแทบตกเก้าอี้ไม่รู้ตัว