เราจะอยู่กันไปอีกนานที่บ้านหลังนี้
ตอนย่ำรุ่ง เจ้าโตกร้องเสียงดังหลายครั้ง ผมแปลรหัสเจ้านกยูงตัวนี้ไม่ออก ทำไมร้องในช่วง 2-3 วันนี้ ร้อง..ร้องทั้งกลางวันกลางคืน จะร้องหาตัวเมียก็ไม่ใช่ เพราะเห็นป้วนเปี้ยนกันอยู่ โฉมยงบอกว่ามันร้องเพราะครบรอบ 100 วันมรณภาพของหลวงปู่จันทร์แรม ซึ่งเราคิดว่าเป็นแหล่งที่นกยูงตัวนี้เคยอาศัยมาก่อน จะจริงหรือไม่อย่างไรก็เล่าไว้ไปพอสังเขป เพื่อเชื่อมโยงสาเหตุที่ทำให้ตื่นเช้ามืดวันนี้
เปิดดูข้อความในโทรศัพท์
น้าอึ่งบอกว่าถึงบ้าน อาบน้ำทาแป้ง จะเข้านอนแล้ว
ก็คลายใจที่โชเฟอร์พาไปถึงที่หมาย
สมกับฉายาที่หมอเจ๊ตั้งให้ “เมียสิบล้อ”
คงเหนื่อยกันย่ำแย่เพราะทริปนี้ขับรถไป-กลับ 1,800 กิโลเมตร
ด้วยความห่วงใย ..ไม่น่าชวนมาเล๊ย..
เพื่อเป็นการไถ่บาป ผมไปเก็บผักมา 1 กระบุง เอามาผัดผักรวมกะทะร้อนได้ 2 จาน ทำไข่เจียวมะเขือพวงอีกจาน มีปลากรอบอีกจาน มะม่วง มะละกอ ฝรั่ง เป็นของแถม โชเฟอร์คนสวยบอกว่า..อยากจะกินน้ำพริกกะปิ อ้าวแล้วจะรอทำไมละ เธอเข้าครัวค้นโน้นนี่มาลงครกตำโป๊ก ๆ ผมไปเก็บมะนาว มะเขือกรอบ และผักหลายชนิดมาลวกให้ โฉมยงยังทำน้ำพริกปลาทูร่วมวงอีกถ้วย 5 นาทีต่อมาก็ชวนกันโจ๊ะพรึบ น้ำพริกหมดผักเหลือ นักกินผักบอกว่าจะไปตำน้ำพริกอีกก็เกรงใจ โธ่!..ประเมินสถานการณ์พุงตัวเองไม่ถูก ไหน ๆ จะดวลผักต้องละเลงแบบตาหวานกับครูปู กินจนตาค้างนั้นแหละถึงจะคุ้มกับการมา เธอยังบอกอีกว่า..เห็นผักแล้วน่าจะทำลาบปลา แหมบอกช้าไปเสียแล้ว เราก็อยากจะโด๊ปให้เต็มที่มีพลังขับรถกลับ แต่ถ้าจะจัดให้อร่อยตามต้องการต้องนอนต่ออีกคืน สุดท้ายก็ได้แต่ฝากไว้ก่อนโอราฬ..
ระหว่างที่นั่งพิมพ์ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ เขียด ตะปาดจากไหนไม่รู้กระโดดมาเกาะหลัง รู้สึกเย็นเฉียบยังกะมือไปแช่น้ำแข็งมา เกาะไม่นานก็กระโดดแผล็วไป เปิดทีวีเห็นภาพประโคมความรักกันล้นหลามก็ได้แต่เวทนา ตามประวัติศาสตร์การเมืองไทย คนไทยไม่รักคนไหนหรือพรรคไหนจริงจังหรอก อย่างเช่นพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ ก็พลิกคว่ำพลิกหงายอยู่หลายครั้ง เคยได้คะแนนเสียงท่วมท้น แต่บางครั้งก็คะแนนเสียงหายไปดื้อ ๆ ได้ส.ส. มาคนสองคน มันอะไรกันครับ ความเชื่อมั่นที่ยั่งยืนมุดหายไปไหนก็ไม่รู้
ผมจึงไม่เชื่อความศรัทธาทางการเมืองที่ประชาชนมีต่อพรรคการเมือง ตอนนี้อาจจะแหกปากร้องเย๊ว ๆ คิดถึงความดีงามให้กัน น้ำหูน้ำตาไหลพราก.. ฯพณฯท่านดูไบเองก็ใช่ย่อย ออดอ้อนรำพันพิรี้พิไรถึงกันมิเว้นวาย ทำเหมือนจะเป็นจะตายทั้ง 2 ฝ่าย แต่ที่จริงแล้วมันยิ่งกว่าละครน้ำสกปรก ต่างฝ่ายต่างก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าไม่ได้รักศรัทธาอะไรกันหรอก ความรักที่ซื้อด้วยเงินทองของล่อใจจอมปลอมอื่น ๆ เรื่องแกล้งรักมีตัวอย่างให้เห็นออกเกลื่อนไป คอยพินอบพิเทา เอาดอกไม้ไปไหว้ป๋ากระดี๊กระด๋ารับฟังโอวาท มาวันนี้กลับจวกป๋าจนเละเทะ เกิดเบื่อขี้หน้ากันจนไม่ดูดำดูดี ..ตอนที่หม่อมคึกฤทธิ์เป็นนายกแล้วยุบสภาฯ ก่อนหน้านั่นชื่นชมนิยมกันท่วมท้น แต่ผลการเลือกตั้งออกมาอาจารย์หม่อมของผมตกกระป๋องเฉยเลย
เมื่อประชาธิปไตยแบบต๋อย ไม่มีความจริงใจให้แก่กัน รากฐานของประชาธิปไตยจึงคลอนแคลนหาจุดยืนยังไม่ได้ พรรคไหนมาเป็นก็บิดตะกูดเอาผลประโยชน์จนเกินงาม เมื่อไม่มีความจริงมันก็ไม่สามารถลงหลักปักฐานทางการเมืองได้ ประชาธิปไตยจึงเสมือนเสาหลักปักขี้โคลน อิรุงตุงนังสับสนเชิงโครงสร้างและเชิงระบบ ผมอยากจะเห็นคุณท๊ากสิน มาคุยออกทีวีตัวต่อตัวกับคุณหม๊ากรูปหล่อ มีคนกลางตั้งประเด็นไว้เป็นข้อ ๆ แล้ว 2 ผู้นำแสดงวิสัยทัศน์ให้คนไทยทั้งประเทศรับฟัง ถ้าทำอย่างนี้จะช่วยให้เห็นภาพการเมืองกระจ่างขึ้นมาได้บ้างไหมครับ
หลังจากผู้นำทางการเมืองออกมาพูดแล้ว
ควรตั้งนักวิชาการ-สื่อมวลชน-ผู้นำองค์กรอิสระ-ผู้นำการเมืองภาคพลเมือง
มาวิเคราะห์ข้อเท็จจริง
ตีแผ่เหตุผล-คลี่ความจริงออกมา
ช่วยกันเติมความจริงให้เต็มช่องว่าง
บางทีอาจจะได้คำตอบว่าคนไทยจะเอายังไงกับเรื่องการเมือง
การได้มาซึ่งคะแนนเสียงที่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้ได้นักการเมืองอีแอบเต็มสภา
ท่านผู้มีปัญญา..บอกหน่อยสิครับว่า
เราจะได้นักประชาธิปไตยของแท้มาจากที่ไหนและโดยวิธีใด
ถ้ายังเลือกตั้งแบบเดิม จากพรรคพวกหน้าเดิม ด้วยระบบและวิธีเดิม
ผลลัพธ์ก็คงออกมาอีหรอบเดิม
บ้านเมืองเราก็คงอลหม่านอยู่กับพวกสติแตกต่อไป
เรายังอยู่ร่วมกันอีกนานที่บ้านหลังนี้
จะอยู่ไปทะเลาะกันไปอย่างนี้หรือ?
สถาบันไหนที่สอนเรื่องกฎหมาย เรื่องการบ้านการเมือง
ฉีกตำราทิ้งแล้วสังคายนาใหม่ดีไหมครับ?
6 ความคิดเห็น
เ้ห็นด้วยค่ะพ่อ เบิร์ดอยากเห็นการแสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา มากกว่าปะทะคารมแบบโต้วาทีเด็กมัธยม ซึ่งน่าทำเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนนักวิชาการต่าง ๆ ถ้าจะร่วมวิพากษ์ก็ขอให้อยู่ท้ายสุดนะคะ เพราะอยากเห็น”วิสัยทัศน์”และความสามารถในการแก้ปัญหาของคนที่จะมาเป็นผู้นำมากกว่า ว่ากันไปทีละประเด็นเลย อย่าโต้กันไม่รู้จบ …น่ารำคาญแบบคนจบไม่เป็นยังไงพิกล
ใครจะอาสาจัดละ
ไม่อย่างนั้นมันก็ยืนเก่งอยู่คนละมุม
กองเชียร์เพลียฮาทส์แล้วนะนี่
สถาบันสมานฉันท์ทั้งหลายไม่สนเหรอคะ ? สสสส. ก๋ใช่นี่คะพ่อ ^ ^
ติดต่อขอถ่ายทอดสดให้เวลา 3 ชม. ไม่มีโฆษณาไปเลย รับรองเรตติ้งกระฉูด อิอิอิ
ผมเคยอ่านจากที่ไหนไม่รู้ครับ รัชกาลที่ 7 ตรัส ทำนองว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะปกครองแบบประชาธิปไตย ขอให้ให้การศึกษาแก่ประชาชนให้เข้าใจถึงประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้เสียก่อน แล้วถึงนำระบบประชาธิปไตยเข้ามา แต่ผู้นำในสมัยนั้นก็ไม่เชื่อ ชิงสุกก่อนห่าม มันก็เลยสุกๆ ดิบๆ อย่างเช่นทุกวันนี้กระมังครับ
ประชาธิปไตยจำบ่ม ก็เป็นอย่างนี้ละครับ
ทุกคนต่างรับผลพวง ประเทศทุพลภาพ ไม่อย่างนั้นเราเจริญแข่งญี่ปุ่นไปแล้ว
คงต้องคิดหาวิธีที่ดีที่สุดนะเบิร์ด
สสสส. ก็ทำเรื่องเสื้อขาว แต่หัวใจสีอะไรไม่รู้
ยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ ว่าจะมีทางออกอย่างไร?