ชีวิตนี้เปราะบางนัก

อ่าน: 3074

เมื่อวานมีแขกมารับตั้งแต่ตี5 จะพาไปดูที่ทางที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร พื้นที่อยู่แถวๆวังม่วง ลพบุรี ห่างจากเขื่อนชลสิทธิ์ประมาณ30กม.ระยะทางจากกทม.ประมาณ200 กม. คาดว่าช่วงบ่ายคงจะกลับมาทันขึ้นรถตู้กลับบ้าน ผมเป็นคนแก่ที่คิดถึงบ้าน คิดถึงผัก สายลมและแสงแดด คิดถึงคนรักที่อยู่ใกล้ๆและที่อยู่ไกลโพ้น..

สถาน ที่ดังกล่าวอยู่ติดกับถนนลาดยาง เลาะเลียบไปข้างๆกับแม่น้ำป่าสัก เป็นที่เปิดโล่งกว้างขวางหลายหมื่นไร่ ชาวบ้านทั่วไปทำการเพาะปลูก-ข้าว-มันสำปะหลัง-ปลูกอ้อย-เลี้ยงโค-เลี้ยงแพะ ไปเห็นสภาพแวดล้อมแล้วอิจฉาเป็นบ้า น้ำท่าบริบูรณ์ พื้นดินมีแร่ธาตุอุดม ลมพัดตึงทั้งวัน ไร่ข้างๆกันติดตั้งกังหันลมพร้อมกับสร้างแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ แจกจ่ายน้ำให้พืชไร่ได้อย่างพอเพียง คณะเราเดินดูมุมโน้นมุมนี้แล้วก็เดินทางต่อ

วัตถุประสงค์เขาต้องการให้ผมได้มาเห็นที่ดินแปลงนี้กับตาตัวเอง

เพียงแค่บอกเล่าหรือเห็นภาพ

ไม่พอต่อการตอบคำถามว่า..จะปลูกอะไรดี?

ก่อนหน้าที่จะซื้อที่ดิน..นักธุรกิจกลุ่มนี้มีโครงการจะตั้งโรงงานแป้งมันสำปะหลัง แต่ ช่วงที่มีการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้พื้นที่บริเวณกว้างน้ำท่วม..มีการเวนคืนที่ดิน อพยพชาวบ้านออกไป แผนงานต่างๆของนักธุรกิจกลุ่มนี้จึงชะงัก ปล่อยให้คนในพื้นที่เช่าปลูกอ้อยเป็นเวลานับสิบปี มาบัดนี้ ..จะเอาที่ดินมาทำประโยชน์เสียเอง นี่คือที่มา..ที่ผมถูกลากมาชมที่ดินผืนนี้

เห็นสภาพแวดล้อมแล้ว..ผมคิดถึง ค อ น ด รั๊ ก เ ต อ ร์ เ ป็ น บ้ า

สมัยที่ตระเวนหาที่ทางปักกลด..ได้เล่าว่า..อยากจะได้พื้นที่ๆมีองค์ประกอบอย่างนี้ มีน้ำมีลมมีภูเขามีความอุดมสมบูรณ์มีป่าไม้มีความมั่นคง.. ผมฟังแล้วก็นึกไม่ออกว่าประเทศนี้มันจะมีผืนดินที่พร้อมสรรพอย่างนี้อยู่ที่ไหน? พอมาเห็นจุดนี้ก็ได้แต่ร้อง..โอ้โหๆๆ..

แต่ก็นั่นแหละเธอเอ๋ย

กลุ่มนี้เขามารวบรวมซื้อที่ทางไว้ตั้งแต่เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว

บัดเดี๋ยวนี้ราคาไร่ละหลายแสนบาท

ที่ดินไม่เสื่อมราคา เหมือนหน้าตาคนเราหรอกนะเธอ

นอกจากที่ดินไม่เหี่ยวเฉาแล้ว ราคายังพุ่งกระฉูดๆ

หลังจากนั้นท่านผู้สันทัดกรณีบอกว่า เราน่าจะตระเวนดูพื้นที่รอบๆ ห่างอกจากนี้ไปไม่ใกล้มีน้ำตกก้านเหลือง เป็นน้ำตกที่แปลก..น้ำทั้งหมดผุดขึ้นมาจากใต้ดิน น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ถนนหนทางก็เข้าถึงสะดวก จึงพากันเดินชมตามจุดต่างๆ ชาวบ้านเล่าว่า..เดินไปอีก 1,200 เมตร ก็จะเจอจุดที่น้ำพุ่งขึ้นมา ก็ได้แต่ฝากไว้ก่อนโอฬาร ยังมีรายการพิเศษอยู่ใกล้ๆที่ท่านผู้นำอยากจะพาไปชมโรงเรียนสัตยาไส ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลขับรถ15นาทีก็ถึง เรื่องที่พิเศษกว่าพิเศษก็คือ อาจารย์ศุภชัยแห่งมหิดล คนที่พาผมมานี่แหละ ท่านเป็นตัวตั้งตัวตีในการตระเวนรวบรวมที่ทางที่จะมาสร้างโรงเรียนตั้งแต่ เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว ได้ที่ดินแล้วท่านก็พาภรรยาและลูกน้องมากางเต็นท์สร้างโรงเรียนสัตยาไส ..

แหม..เจอกับผู้ก่อการตัวเป็นๆเลยนะนี่ ส่วนท่านนักธุรกิจที่พาผมมาดูที่ดิน

สมัยคุณพ่อก็ได้บริจาคที่ดินและให้ทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานหลังแรก

เรียกว่า..จุดไต้ตำตอ..โรงเรียนสัตยาไสเข้าแล้วนะเธอ..

พอรถเลี้ยวข้าประตูไป..อาจารย์ศุภชัยก็ลองโทรฯถึงท่านอาจารย์อาจอง

อ้าว! ผมนึกว่านัดท่านไว้แล้ว

ที่ไหนได้..คำตอบ..ถ้าอาจารย์อยู่เราก็เจอตัวเองแหละ..

เออ สินะ..เรื่องนี้ขึ้นกับวาสนาเสียแล้ว..

และแล้ว..คนโชคดีจะแห้วได้อย่างไร อาจารย์อาจองท่านอยู่บ้านพอดี คณะที่มาล้วนรู้จักกันดีอยู่แล้ว อาจารย์ยิ้มร่า..เลี้ยงน้ำชาคุยกัน..ไปยังไงมายั้งไง ผมเองเสียอีกที่เป็นคนแปลกหน้าไม่เคยมาที่นี่..ท่านอาจารย์กรุณามาก..บอกว่า จะชวนไปชมทุกจุดทุกเรื่องของที่นี่ ท่านยกโทรศัพท์ประสานผู้อำนวยการโรงเรียน แม่ครัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ..บอกว่าจะมีแขกไปเยี่ยม

หลังจากผู้ อำนวยการมาถึง ท่านพาเราไปยังอาคารหลังใหญ่ที่นักเรียนทุกคนต้องมาสวดมนต์ทำสมาธิร่วมกัน แต่ช่วงนี้ปิดเทอม..ถ้ายังงั้นเอาท่านผู้อำนวยการนี้แหละ ..พาเราสวดมนต์..ท่านอาจารย์อาจองไปบรรเลงเปียโนประกอบ เฮ้อ..เป็นอะไรที่ซาบซึ้งมาก  ท่านอาจารย์เล่าว่าที่นี่รับเด็กทุกศาสนา เวลาทำสมาธิเด็กก็ไปนั่งยังแท่นบูชาประจำศาสนาของตน ท่านบอกว่า..ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี โรงเรียนแห่งนี้จึงเคารพและให้ความสำคัญศาสนาเท่าเทียมกัน นอกจากจะมีนักเรียนที่หลากหลายศาสนาแล้ว ที่นี่จะมีผู้สนใจจากมิตรประเทศมาเยือนอยู่เนืองๆ เมื่อมายังห้องนี้  แต่ละกลุ่มก็ไปทำความเคารพยังแท่นบูชาศาสนาของตนเอง..

โรงเรียน ระดับอินเตอร์ เขาคิดถึงแก่นสารความจริงยังงี้แหละเธอ หลังจากนั้นอาจารย์พาเรานั่งรถตู้ตระเวนไปจุดที่เป็นกระบวนการเรียน มีอุปกรณ์การเรียนเรื่องพลังงานต่างๆครบถ้วน พาไปชมโรงเพาะเห็ด บ้านลาสติกใสที่มีไว้อบพืชผักพืชผล พาไปชมอาคารผลิตน้ำมันไบโอดีเซล อาจารย์บอกว่า..มีโรงแรมในบางกอกบริจาคน้ำมันพืชที่ใช้แล้วจำนวน2โรงแรม พอมาถึงที่นี่ก็นำเข้าสู่กรรมวิธีเปลี่ยนน้ำมันพืชเก่าให้เป็นน้ำมันไบโอ ดีเซล ใช้เติมรถทุกคันของที่นี้ ยังมีอาคารพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์อีกนะเธอ อาจารย์กำลังทำฟาร์มรับแสงแดด ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มากพอจะเป็นรายได้มาใช้จ่ายของโรงเรียนใน อนาคต อาจารย์ชวนไปพื้นที่เพาะปลูก/ทำนา ที่นี่ทำนาได้ข้าวปีละ30ตัน เพียงพอที่จะเลี้ยงประชากรทั้งโรงเรียนได้ตลอดปี พาไปชมจักรยานปั่นไฟ เล่าให้ฟังว่า..อาคารที่เห็นๆ10กว่าหลังที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียน400ไร่ นี้ ทุกหลังมีผู้ใจบุญจากทั่วโลกมาสร้างให้ทั้งนั้น อาจารย์ชี้ให้ดูอาคารสอนดนตรี ท่านบอกว่า..มีฝรั่งที่ลูกเขามาเสียชีวิตเมื่อคราวเกิดสึนามิภาคใต้ ได้มาสร้างอาคารหลังนี้ยกให้เป็นอนุสรณ์ของลูกที่จากไปอย่างกะทันหัน

เรื่องของการบริจาคท่านบอกว่าจะไม่ขอรับจากผู้ปกครองนักเรียน

เกรงว่าจะเงินผู้ปกครองคนรวยมาทับเงินผู้ปกครองคนจนๆ

ปีหน้าจะรับนักเรียนเพิ่ม และจะแยกเรียน/สอนนักเรียนชาย/หญิง

เด็กๆที่นี่อยู่ประจำ แยกอาคารชาย อาคารหญิง..

ที่นี่เป็นโรงเรียนทางเลือก..ที่ เ ลื อ ก ไ ด้ จ ริ ง ๆ น ะ เ ธ อ

ผมคิดว่า..เป็นโรงเรียนทางออก..ออก จากความบอบช้ำของหลักสูตร หลักสูตรที่ยกร่างไว้อย่างดีแต่ไม่มีใครปฏิบัติตาม การศึกษาไทยยุคนี้จึงกระท่อนกระแท่นเหมือนบัวแล้งน้ำ ผู้ที่อยู่ในวงการศึกษาแถกไถไปตามยถากรรม เด็กๆก็ดำน้ำเรียนไปอย่างน่าเวทนา..เละตุ้มเปะตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงปริญญา..

ก็ยังดีใช่ไหมละครับ..

ที่ประเทศนี้ยังมีคนกล้าหาญพอที่จะหักดิบการศึกษา

พยายามสร้างตัวอย่างที่ดีๆ

มีมิตรประเทศส่งครูมาสอนภาษา

แหม พูดไทยชัด เก่ง ฉอดๆๆๆยังกะต่อยหอย

อาจารย์อาจองไปบรรยายที่ประเทศสิงคโปร์

มีรัฐมนตรีศึกษาฯมานั่งฟัง แล้วบอกว่าจะตามมาดูสัตยาไส..

แต่..บ้านเรา  มันก็ไอ่แค่นั้นแหละ..

เปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการทุกๆ6เดือน

มั น ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ยั ง ไ ง ค รั บ

นอกจาก..การศึกษาไทยไร้ทิศทาง..

อาจารย์ให้ความเห็นว่า..

พรบ.การศึกษาไทยดีที่สุดในโลก..แต่..ไม่มีการนำไปปฏิบัติ

มันก็คงไม่ต่างกับ..หัวล้านไม่ง้อหวี..

รึ..คนสวยไม่สนใจคอมเมนท์..นั่นแหละเธอ..

หลัง จากตระเวนจนจุใจแล้ว อาจารย์ชวนมายังโรงอาหาร แม่ครัวเตรียมเมนูมังสะวิรัติไว้ให้แล้ว รับประทานอาหารร่วมกัน  แล้วก็แยกย้ายอำลา..อาจารย์บอกว่าจะหาโอกาสมาแวะเยี่ยมมหาชีวาลัยอีสาน ส่วนผมได้ประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำความรู้ที่ได้เห็นและรับฟังมาใช้ใน โครงการหมู่บ้านโลก หลังจากล่ำลา เราก็บึ่งเข้าบางกอก ระหว่างทางก็ประสานกับแห้วให้มารอที่โรงแรม จะได้นัดหมายขึ้นรถตู้เข้าป่าด้วยกัน

รถตู้ออกจากสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ16.30น.

นัดให้มารับที่หน้าสถาบันจุฬาภรณ์

โชเฟอร์ ซิ่งเตลิด..กว่าจะยูเทิร์นมารับได้ก็เสียเวลาไปโข เนื่องจากหยุดหลายวัน ทุกคนแห่กลับบ้าน รถติดแต่ก็พอขยับได้ช้าๆ มาสะดวกเอาตอนเลยสีคิ้วมาแล้ว รถจ้ำอ้าวราวกับจะบิน มาถึงสตึก5ทุ่มเศษ โฉมยงมารับเข้าไป มาถึงบ้าน..ก็โล่งอกโล่งใจ..ชวนกันกินข้าวต้มดีกว่า

ตั้งหม้อข้าวต้ม

ไปเก็บผักบุ้งมาล้าง

ไปเก็บพริกเหลืองมาผัดใส่สุกรสับ

ไปเอาหมูหยองมาเป็นเครื่องเคียง

แค่นี้ก็อิ่มมื้อดึกแล้วละครับ

ที่มีรายการอาหารผิดแผกนอกเหนือเวลาอย่างนี้ มันมีเรื่องผิดปกติที่จะต้องทำใจเล่า..ครั้งแรกคิดว่าจะเก็บงำไว้กับตัวไม่ บอกใคร..แต่คิดอีกทีบอกไว้ก็ดี ในเมื่อยังมีโอกาสเล่าขานบอกที่รักไว้  มันเป็นอย่างนี้ครับพี่น้อง..ช่วงที่รถวิ่งเข้าเขตพระนครศรีอยุธยา โชเฟอร์ผู้อาวุโสของเราคงจะหลับใน ล้อรถด้านซ้ายเฉตกไปข้างถนน..ตัวตกเอียงกะเท่เร่ หัวรถวิ่งฝ่ากิ่งไม้ใบหญ้าไป20เมตร ก็สามารถหักพวงมาลัยดึงรถเบนขึ้นถนนได้ รถตู้วิ่งตามหลังพุ่งแซงกะทันหันด้านขวาที่ผมนั่ง ถ้าเบียดเข้ามาสัก 1นิ้วก็คงจะโคร้มๆ!!จังเบ้อเร้อ..

หรือมีต้นไม้ข้างถนนฝั่งคนขับ

รถก็คงจะประสานงาเข้าเต็มๆ

เรา4ชีวิตก็คงจะร่องแร่งอีท่าไหนก็ไม่รู้

คิดๆแล้วก็จะใจหาย..

เกรงว่าจะไม่ได้มาเขียนอะไรๆออดอ้อนคนสวยอีก

เดือดร้อนบางท่านอาจจะแต่งชุดดำพร่ำล่ำลา

นึกถึงเรื่องบ่ายเมื่อวานนี้..ขนแขนสะแตนอัพไม่หาย..

ใจมันหวิวๆยังไงไม่รู้..ถ้าวันที่จะจากที่รักไปจริงๆ..จะเป็นยังไงหนอ?

ระหว่างรถประคองรถวิ่งกลับบางกอก

จู่ๆก็มีเสียงระเบิดตูม! ขึ้นข้างๆ

สะดุ้งโหย! เอาอีกแล้วสิ..จอดๆๆๆ

อาจารย์ศุภชัยสติดี..บอกว่า

เป็นเสียงยางรถ10ล้อระเบิด..

เฮ้อ+!!! … วันนี้ วันหัวใจชักกระตุกตลอดเลยยย..

ยังมีเรื่องหวาดเสียอีกนะเธอ

กริ๊งๆ!..ครูบาใช่ไหมค่ะ..

หนู..โทรมาจากบริษัทพาโนราม่า เรามีรายการใหม่..

หัวข้อ..“ทำอย่างไรจะชี้ชวนให้คนไทยคิดใหม่เกี่ยวกับอนาคตประเทศไทย

หนูขอไปสัมภาษณ์ครูบา / ถ่ายทำรายการวันพรุ่งนี้ได้ไหมค่ะ..

ถ้าคนรับสายบอกว่า..มันสายไปเสียแล้วหนู

ครูบาอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวานนี้..

ตอนนี้นอนฟังพระบังสุกุลอยู่ที่วัดหนองหมาว้อ..

หนูจะไปสัมภาษณ์ไหมล่ะ!!!??/@#$&^%

  • คนเรานี่นะเธอ..มีชีวิตที่เปราะบางนัก
  • ช่วงที่ยังรักใครได้..ก็รีบๆรักกันเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังยิ้มหวานให้กันได้..ก็ยิ้มแฉ่งถิดนะ
  • ช่วงที่ยังกอดกันได้..ก็กอดๆกันบ้างนะ
  • ช่วงที่ยังทำอะไรดีๆให้กันได้ ..ก็รีบๆทำกันเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังมีเวลาแบ่งปันให้กันได้..ก็รีบๆแบ่งเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังคอมเมนท์ได้..ก็คอมเมนท์ด้วยนะคนสวย..


ชีวิตนี้หนอเหมือนใบไม้ปลิวไปตามแรงลม

อ่าน: 2130
โดย Sutthinun Pratchayapruet เมื่อ 28 กรกฎาคม 2012 เวลา 22:36 น. ·

ฝน และ ฝน

หมู่นี้ฝนตกหยุมหยิมบ้าง ตกพอประมาณบ้าง ตกซู่ๆบ้าง

คืนนี้ดูภาพจากเรดาร์เห็นกลุ่มเมฆฝนจากโคราชกำลังมุ่งมาอีกกลุ่มใหญ่

เที่ยงคืนนี้ หรือพรุ่งนี้เช้าอาจจะมีฝนหนักก็ได้

ถ้าไม่มีฝน หรือฝนทิ้งช่วง

คนงานก็จะเทพื้นปูนทับแผ่นสำเร็จได้เรียบร้อย

หลังจากนั้น 3 วัน ก็ก่อสร้างบ้านบนพื้นที่ว่านี้ได้แล้ว

คนงานกลุ่มหนึ่งไปอัดอิฐดินซีเมนต์

ได้ปริมาณที่พอจะสร้างห้องน้ำ-ห้องเก็บของ-ห้องครัว-ห้องซักล้าง

งานกำลังสัมพันธ์กันได้ด้วยดี

ถ้าไม่มีฝน อุปกรณ์ไม่ติดขัด

20 วันคุณชายก็จะได้บ้านพำนักที่มีต้นไม้แวดล้อม

มีสายลมและแสงแดด มาเยือน

แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่เราพอจะสร้างเสริมขึ้นมา

ยังกังวลหน่อยเดียวที่ 2-3วันนี้ผมก็จะไม่ได้อยู่บ้าน

มหาวิทยาลัย อุบลส่งรถมารับ รับไปทำไมหรือครับ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้กับกรรมการสภามหาวิทยาลัยตามกฎหมาย ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ประจำปี 2552 ซึ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบ็ญจมาภรณ์มงกุฎไทย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของคนป่าอีกวาระหนึ่ง ผมถือโอกาสจะเอาหนังสือ “โมเดลบุรีรัมย์” ไปฝากคณาจารย์ผู้ใหญ่ด้วย

วันที่ 29 พักที่อุบลหนึ่งคืน

วันที่30 ก่อนเที่ยงรับเครื่องราชฯแล้ว ยังได้รับฟัง ศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน

บรรยายพิเศษ : การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน(AEC)

ตอนเย็นจะบินมาเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนที่บางกอก

วันที่ 31 ไปประชุมคณะกรรมการด้านกำลังพลที่กระทรวงสาธารณสุข

วันที่1 สิงหาคม ไปดูการลงทุนด้านการเกษตรฯให้กับนักธุรกิจชาวอินเดียที่ ลพบุรี

วันที่ 2 จะนั่งรถตู้กลับสวนป่าพร้อมแห้ว

คาดว่าจะถึงอำเภอสตึกประมาณบ่ายโมง

อยู่ โยงถึงวันที่ 7 ก็จะเดินทางเข้าบางกอก แล้วต่อไปเชียงใหม่ มีคนถามว่าจะไปไฟล์ไหน? ยังตอบบ่ได้เพราะยังไม่ได้ดูตารางบิน แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะเธอ ถ้าพลาดเที่ยวบิน อาจจะจี้เครื่องบินไปก็ได้ เอา เป็นว่า 8-12 ลุยเชียงใหม่แน่ ใครจะเลี้ยงข้าวซอยก็จะเป็นพระคุณ เขยเชียงใหม่จะได้กลับมาทบทวนความหลังเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มกระเตาะ แอบมาเต๊าะกุหลาบเวียงพิงศ์ ยุคก่อน ..อีน้องคนงามกินข้าวแลงแล้วก่อ..รายละเอียดจะเรียนให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ในชั้นนี้บอกเล่าพอสังเขป.. อิ อิ//

: ชีวิตนี้ช่างหันรีหันขวางจริงหนอ

: ชีวิตนี้ขึ้นๆลงๆเหมือนข้างขึ้นข้างแรม

: ชีวิตนี้ไม่ทราบว่าใครลิขิตให้เป็นเช่นนี้

: ชีวิตนี้มีลายแทงพลิกคว่ำพลิกหงาย

: ชีวิตนี้ เป็นเช่นนี้เอง

: ค่ำคืนนี้จะมีคนสวยที่เข้ามา”คอมเมนท์” เราบ้างไหมน่ะ..


เบิ่งตาแลไทยแลนด์ในอีก20ปีข้างหน้า****

อ่าน: 4997

 

 

คนบ้านป่าได้รับการชี้ชวนให้มองเมืองไทยในอนาคต20ปีข้างหน้า นับว่าเป็นโจทย์ที่น่าใคร่ครวญไม่เบาเลยนะครับ ล อ ง ค า ด ห วั ง สิ ว่ า ป ร ะ เ ท ศ ของฉัน จ ะ เ ป็ น ฉั น ใ ด ? . . มองสังคมมองประเทศไม่เหมือนมองคนสวยหรอกนะเธอ มันมีมุมให้พิเคราะห์พิจารณายุบยับไปหมด โดยเฉพาะการมองแบบคาดการณ์นี่สิ ถึงตอนนั้นผมไม่มีโอกาสได้ทราบผลการคาดคะเนที่ว่าไว้ จะใกล้เคียงหรือเอนเอียงไปสุดกู่ประการใดก็ไม่อาจทราบได้

อีก20ปี ใ น ห มู่ เ ร า รุ่ น เ ก๋ า ส์ กึ๊ ก ก็ ค ง แ ย ก ย้ า ย ไ ป เ ป็ น ธ า ตุ อ า ก า ศ ที่ ไ ห น ก็ ไ ม่ รู้ จะยังชีพอยู่ก็แต่รุ่นสวยสะพรั่งตอนนี้ แต่ตอนนั้นก็คงนมยานจนเอาพาดบ่าได้แล้วละ เรื่องอย่างนี้มองคนเดียวไม่กระจ่างหรอก มั น ย า ก ก ว่ า ต า บ อ ด ค ลำ ช้ า ง ห ล า ย เ ท่ า นั ก ..เมื่อรับการบ้านมาก็ต้องทำการบ้านสิเธอ แต่มีปัญญาแค่หางอึ่งจะทำอะไรได้ จึงมองหาตัวช่วย..สมาชิกชาวFB.และลานปัญญาโปรดสะท้อนทัศนคติช่วยผมด้วย อย่าปล่อยให้คนป่าไปขายขี้เท่อบนเวทีเลยนะแม่คุณ

 

เมื่อเร็วๆนี้ได้รับซองเอกสาร เปิดอ่าน..สะดุ้งโหยง!..เรื่อง ขอเรียนเชิญไปเป็นองค์ปาฐกถาบรรยายพิเศษ ..ด้วยวโรกาศมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร์รามาธิบดี จักรนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมราชบพิตร เจริญพระชนมพรรษา 84 สำนักงานสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง9แห่งทั่วประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติภายใต้โครงการประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติ “การยกระดับคุณภาพชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น อาเชียน” ครั้งที่ 1 (International Symposium on Local Wisdom and Improving Quality of Life) ในระหว่างวันที่ 8-11สิงหาคม 2555 ณ อุทยานหลวงราชพฤษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเชิญชวนภาคประชาชน ผู้ปฏิบัติ นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ จากประเทศกลุ่มประชาคมอาเชียนและประเทศภูฐาน,จีน,ญี่ปุ่น,อินเดีย,เกาหลี,ไต้หวัน,มานำเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อาทิ Mr. Muhammad Yunus ผู้ก่อตั้งธนาคารกรามีน (Grameen Bank) ในการบรรยายเรื่อง”การพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน”

หลายปีผ่านมานี้ ผมไปเกี่ยวข้องกับงานคล้ายๆกันนี้ในหลายเวที สิ่งใดที่เป็นงานถวายเทิดพระเกียรติพ่อหลวงของเรา ผมยินดีไปขยายขี้เท่อสุดฤทธิ์สุดเดช แต่ด้วยข้อจำกัดของสติปัญญาที่จำกัดจำเขี่ยและร่อยหรอบริบททางวิชาการ ก็ได้แต่น้อมถวายความจงรักภักดีพ่อหลวงตามมีตามเกิด ทั้งๆที่ตั้งใจไว้เปี่ยมล้นที่จะทำหน้าที่พกนิกรที่ดีของพระองค์

แต่ก็นั่นแหละเธอ..

บ้านเราตอนนี้มีพสกนิกรหลายสายพันธุ์

พูดไปก็กระเทือนทรางกันเปล่าๆ

เรามาช่วยกันเทิดพระเกียรติพ่อพระในดวงใจสไตล์เราๆชาวFB.ดีไหมครับ

 

เท่าที่สนทนาเบื้องต้น ผมเห็นความมุ่งมั่นที่จะสนองพระราชดำริเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอย่างเต็มสติปัญญาก็น่าชื่นใจ เมื่อวานให้เจ้าหนูฝนไปประสานงาน ก็ได้งานมาเต็มหน้าตัก ดร.ฝน เล่าว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาต้องการจะสรุปงานในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในบทสรุปของ20มิตรประเทศที่สะท้อนความเห็น จึงทาบทามมาว่าเราจะอาสารับทำให้ได้ในรูปของพ็อกเก็ตบุกส์ให้ได้ไหม?

เห็นไหมละครับ..วิธีคิดของฝ่ายดำเนินงานบรรเจิดขนาดไหน?

ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ถ้าผมสรุปมุมมองประเทศใน20ปีก็คงงั้นๆแหละ แต่ถ้าพี่น้องชาวFB.และลานปัญญาช่วยกันลงขันความคิดช่วยผม เขยเชียงใหม่คงจะไม่ตกม้าตายที่ดอยสุเทพแน่นอน ช่วยๆเขยเชียงใหม่หน่อยนะครับ

เพียงแค่แย้มพรายเรื่องออกมานิดๆ..

ใบหน้าของพี่น้องก็ลอยฟ่องมาเต็มอากาศ

ท่านใดจะอาสา ขอได้โปรดเอามือลง..

แล้วก็เริ่มวางศิลากฤษ์เบิกตัวอักษรได้เลย

รีบๆตะครุบ..ระวังตัวหนังสือจะกระโดดออกมาจากหน้ากระดาษ!

 

อนึ่ง. ช่วงที่เขยเชียงใหม่ไปอยู่หลายวัน น้าอึ่งอ๊อบ ครูอึ่ง ครูอาราม อุ๊ยจันตา เจ้าหนูฝน ฯลฯ อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว คงไม่ยากนักที่จะไล่กอด ยังหนักใจแต่ญาติทางไกล ทำยังไงจะนัดมาพบปะกันสักวันหนึ่ง ในช่วง7-11 สิงหาคมนี้ เ ร า ม า ก ร ะ ดี๊ ก ร ะ ด๊ า กั น ดี ไ ห ม ค รั บ ? คุณหมอจอมป่วน เจ้าตาหวาน พี่บางทราย ท่านอัยการชาวเกาะ รอกอดส์ หมอเบริด์ หมอเจ๊ แหม..ถ้าจะให้ล่ารายชื่อทั้งหมดคงไม่ต้องกินข้าวเช้าแน่ ผมคิดไปถึงลุงเอก พระอาจารย์ไร้กรอบแห่งนาซา และผองญาติในลานปัญญาทุกท่าน ไม่ให้กระเด็นเล็ดลอดหายไปได้สักคนหรอกหนา อยากจะขออนุญาตจับเข่าถามว่า..มาเที่ยวเชียงใหม่กันไหม?

 

เ ป็ น ไ ป ไ ด้ ไ ห ม ค รั บ ที่เราจะนัดจัดงานวันเฮฮาศาสตร์ ฉบับมินิในช่วงดังกล่าว ถ้าตัดสินใจร่วมกันว่าจะลุย ท่านที่มีเวลาก็มาเที่ยวมาชมและมาคุยงานกัน หลังจากจบงานนี้ก็ค่อยไปนั่งละเลียดความครุ่นคิดคำนึง ดึงเอาความรักความคิดถึงมาแชร์กันคนละเข่งสองเข่ง

เรื่องนี้สำคัญนะครับ มุมที่มองต่างอาชีพและประสบการณ์นั้นมีเสน่ห์ยิ่งนัก โ ด ย เ ฉ พ า ะ ค ว า ม มี อิ ส ร ะ แ ห่ ง ตั ว ต น ..ไม่ได้เขียนเสนอผลงานวิชาการ หรือเขียนแบบรายงานเจ้าสำนัก แต่..เป็นการเขียนตามใจฉันที่เห็นและเข้าใจ ขออนุญาต..ฉ ะ อ้ อ น ฉ อ เ ล า ะ ม า ถึ ง ที่ รั ก ส ม่ำ เ ส ม อ เมื่อบรรลุจุดประสงค์ปลงใจแล้ว ทั้งรูปหล่อและรูปสวยกรุณาบอกกล่าวเล่าแจ้งFB.และลานปัญญาด้วยเถิด

โปรดเปลี่ยนความเข้าใจ ให้เป็นความตั้งใจโดยพลัน ! อิ อิ..

 

ผมโชคดีที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงวันนี้ ถึงชีวิตจะลุ่มๆดอนๆเพราะโดนสังคมจับเหวี่ยงจนกายาบอบช้ำ แต่หัวใจยังกระชุ่มกระช่วยกระยิ่มยิ้มย่องได้อยู่นะเธอ ..ก่อนที่จะมองไปข้างหน้า20ปี ก็ขอมองย้อนหลังไป20-30-40ปี ในช่วงชีวิตของเราๆท่านๆนี่แหละ สังคมไทยเปลี่ยนแปลงแบบพุ่งกระฉูด หลายเรื่องเป็นเสมือนมีอภินิหาร แต่หลายเรื่องก็พาลพาโลจนเกินความคาดหมาย ตอนผมเป็นเด็กๆ เตี่ยแม่ได้สร้างบ้านเป็นลักษณะร้านค้าเล็กๆในตัวกิ่งอำเภอที่ไกลปืนเที่ยง เป็นบ้าน2ชั้นด้านล่างเทพื้นปูนซีเมนต์

<· เจ้าพื้นซีเมนต์นี่แหละครับที่มันบ่งบอกความหัศจรรย์อย่างเอกอุให้แก่คนชนบท ผู้คนแถบนั้นตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะได้เห็นพื้นบ้านแข็งแกร่ง-ดูเรียบและเย็น-เ ด็ ก ๆ ช า ว บ้ า น ต่ า ง พ า กั น ม า ลู บ ม า น อ น ก ลิ้ ง เอาไปโจดขานกันเป็นเรื่องแปลกใหม่

<· <!–[endif]–>วิทยุก็เข้ามา ยุคที่ใช้ถ่านไฟฉายเป็นลังๆนั่นละครับ ชาวบ้านก็มารุมดูกันอีก แปลกใจตู้อะไรนะทำไมมันรายงานข่าว/ร้องเพลง/ประกาศเลขหวยออกอากาศ

<!· <!–[endif]–>ต่อมามีทีวีมันยิ่งมาขยายความอึ้งทึ่งๆและทึ่ง สมัยนั้นใช้ไฟปั่น ยังแพร่ภาพออกอากาศเป็นขาว-ดำ เด็กๆตื่นเต้นมาเฝ้าดูกันจนไม่กินข้าวกินปลา เลิกง้อรถหนังขายยา ไม่ต้องวิ่งตามโฆษกประกาศรอบหมู่บ้าน..ฮัลโหลๆ..คืนนี้จะฉายหนังกลางแปลงที่หน้าสุขศาลา กินข้าวกินปลาแล้วรับมากันนะครับ

<· <!–[endif]–>พาหนะใช้เกวียนบรรทุกสิ่งของ ต่อมาก็มีรถจิ๊ปลากไม้ รถมอเตอร์ไซด์ มาแทนรถจักรยาน ก่อนที่จะรู้จักรถอีตุ๊กอีแต๋นอยู่หลายสิบปี

<!· <!–[endif]–>เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาประชุมประจำเดือน ล้วนขี่ม้าบักจ้อนมาประชุม หน้าที่ว่าการอำเภอจะมีหลักสำหรับผูกม้าไว้ใต้ร่มไม้ เด็กๆไปเกี่ยวหญ้าม้ามาขาย หอบละ50 สตางค์ อีตอนเลิกประชุมทุกคนต่างกลับบ้านนี่สิครับ มีม้าวิ่งฝุ่นตลบออกทุกทิศทุกทาง มองดูคล้ายๆกับในหนังคาวบอย

สภาพการณ์ดังกล่าวนี้ มีมาก่อนหน้าเพลงผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม พ..2504 หลังจากนั้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติฉบับต่างๆก็ทยอยออกมา ในช่วงแผนพัฒนาฉบับที่8 ก่อนหน้าช่วงฟองสบู่แตก ในแผนฯมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แต่พอเศรษฐกิจมีปัญหาเราก็ปรับแผนฯมาเน้นเรื่องความเป็นนิกส์ ลดความสำคัญของการพัฒนาการศึกษา ผลเป็นประการใดท่านทั้งหลายก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้ว

 

ดังนั้นถ้าจะตั้งข้อสังเกต พอให้ได้ข้อสรุปหยาบๆในการพิจารณาวันข้างหน้า ก็คงจะมองสภาพการณ์บ้านเมืองในเวลานี้กระมังครับ สังคมบ้านเรามีข้อดีข้อด้อยประการใด มันก็จะไปส่งผลในอนาคตภายหน้าครบเครื่องเรื่องกลไกของสังคม พอจะประมาณได้ว่า

“ถ้าจะดูวันหน้า ก็ควรดูวันนี้”

“ทำวันนี้ให้ดี วันข้างหน้าก็จะออกมาดี”

<!· วันนี้..เราทำหน้าที่พลเมืองไทยแล้วหรือยัง!<!–[endif]–>

<!· วันนี้<!–[endif]–>..เราเป็นพกสกนิการที่ดีแล้วหรือยัง!

<!· วันนี้<!–[endif]–>..เธอเล่นบทไหนในฐานะประชาชนคนไทย!

อย่างน้อยคนไทยก็ควรทำหน้าที่ 2 ประการ

1 ทำ ห น้ า ที่ ก า ร ง า น ข อ ง ต น ใ ห้ เ รี ย บ ร้ อ ย ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ขอให้มีความรับผิดชอบ

2 ทำ ห น้ า ที่ พั ฒ น า แ ล ะ ดู แ ล สั ง ค ม ถ้ายังเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้กระแสเถื่อนลากจูงสังคมเข้ารกเข้าพง สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ถามว่าสังคมเราเกิดอะไรกันครับ

“ถ้าเราลอยเพสังคม สั ง ค ม ก็ จ ะ ล อ ย เ พ เ ร า ”

สั ง ค ม ที่ ถู ก ล อ ย เ พ วั น นี้ วันข้างหน้าจะไม่เพแตกรึครับ!

หลายท่านอาจจะตัดช่องน้อยแต่พอตัว ฉันรวย ฉันพร้อมเผ่น ฉันพร้อมแก้ปัญหาด้วยตนเอง เรื่องของสังคมก็ปล่อยให้เป็นสวะลอยไปในน้ำเน่าปล่อยให้เหตุการณ์บ้าๆบอๆล้วงควักประเทศชาติกันไป บางกลุ่มคนก็อึ้งกิมกี่ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ได้แต่เข้าวัดเข้าวาสงบจิตสงบใจ บางกลุ่มก็ถือโอกาสชุลมุนแย่งชิงฉกฉวยประโยชน์ สถาบันต่างๆคลอนแคลน เกิดสภาวะวิกฤติศัทธา กาวใจไร้ประสิทธิภาพ ทั้งๆที่ประชาชนคนไทยโชคดีที่สุดในโลก ก็ลองนึกดูสิเธอ

<!1. คนไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่พระประมุขทรงทุ่มเททำงานให้แก่คนไทยตลอดพระชนชีพของพระองค์ ทรงยอมเหนื่อยยากเพื่อให้พกสกนิกรกินอิ่มนอนอุ่น ทรงทำหน้าที่พระมหากษัตริย์จนเป็นเลิศเป็นแบบอย่างทั้งโลก ได้รับการยกย่องและชื่นชมเสมอมา ทั้งในระดับราชวงศ์ ระดับประมุขของประเทศ และระดับสหประชาชาติ

<!2. คนไทยมีสถาบันศาสนา เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ศาสนาเป็นวินัยทางสังคมที่ผู้คนน้อมปฏิบัติ มีวัฒนาธรรมจารีตประเพณีและครรลองครองธรรมเป็นหลักชัยให้ดำเนินรอยตาม

<!3. คนไทยมีความเป็นชาติ ชาติที่มีความพร้อมมีอัตลักษณ์ มีความเป็นไท มีปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและพัฒนา

<!4. คนไทยมีความเป็นไท ยิ้มสยามเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของจิตใจและอารมณ์ มีความเอื้ออาทรกัน “ข้าวบ้านเหนือ เกลือบ้านใต้” บ่งบอกถึงความสมานไมตรีจิตทุกระดับ มีภูมิปัญญาคอยดูแลวิถีไทให้ปกติสุขเรื่อยมา

<!5. คนไทยอาศัยอยู่ในพื้นที่ๆมีความหลากหลายทางชีวภาพ จึงมีสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ ดินฟ้าอากาศความชุ่มชื้นพอเหมาะต่อการเพาะปลูก ภาคการเกษตรได้ทะนุบำรุงภาคอุตสาหกรรมจนรุ่งเรือง

<!6. คนไทยมีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองให้ก้าวทันโลกภายนอก ชนบททุกวันนี้มีไฟฟ้าทุกซอกทุกซอย มีประปาหมู่บ้าน มีถนน2เลน4เลนบรรจบกันทั่วประเทศ มีวิทยุทีวีไม่รู้กี่ร้อยช่อง มีอินเตอร์เน็ท และกำลังแจกเท็บเล็ทให้เด็กนักเรียนชั้นประถมทั่วประเทศ มีสพานข้ามแม่น้ำเชื่อมประเทศเพื่อนบ้านหลายจุด มีสนามบินทันสมัยไม่แพ้ประเทศใดในโลกนี้

ถ้าพิเคราะห์ถึงต้นทุนและปัจจัยในการพัฒนาประเทศ โดยเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ประเทศของเราได้เปรียบทางด้านกายภาพมาก ถ้ารัฐบาลและคนไทยใส่ใจเรื่องเทคโนโลยีที่เหมาะสม ส่งเสริมการผลิตบุคลากรทางด้านเทคนิคอย่างเป็นรูปธรรม โดยพิจารณาโครงสร้างทางด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ลูกหลานไทยที่ศึกษามาทางด้านอาชีวะ นอกจากจะไม่เป็นปัญหาสะสมให้ระบบการพัฒนาสังคมแล้ว ยังเป็นตัวคูณที่ไปเสริมสร้างความเข้มแข็งที่ทรงพลัง ไปเกื้อหนุนให้แรงงานช่างที่ขาดแคลนในประเทศและในต่างประเทศ จุดสำคัญดังกล่าวนี้จะช่วยการสร้างงานสร้างชาติให้ดำเนินไปได้อย่างเท่าทันกับสถานการณ์โลก

ถ้าระบบการศึกษาเน้นมาทางด้านสายอาชีวะ มากกว่าที่จะไปเน้นทางสายสังคม ที่ผลิตกันจนเกร่อแถมยังด้อยคุณภาพอีกต่างหาก ขอเสนอให้ปรับปรุงบางสถาบันที่สอนสายสังคม ให้เปลี่ยนมาสอนสายอาชีวะให้ได้สัดส่วนระหว่างอาชีวะกับสายสังคม70:30 ไม่อย่างนั้น ประเทศนี้จะสะสางเรื่องแรงงานช่างเทคนิคขาดแคลนด้วยวิธีไหนละครับ

ปัญหาอยู่ที่..ค่านิยมเต่าล้านปีของผู้ปกครอง ต้องการให้ลูกเรียนสายสามัญ -เรื่องเงินค่าหัว ทำให้แต่ละโรงเรียนกักเด็กไว้นาน ไม่แนะนำให้เด็กไปเรียนปวช.ปวส. –นโยบายเชิงโครงสร้างของสถาบันอาชีวะควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง-ข่าวด้านลบของเด็กอาชีวะ ทำให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ดีในสายตาสังคม -วิธีการเรียนการสอนเน้นทฤษฎี ทำให้เด็กมีคุณสมบัติเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่สนใจทำงานที่ใช้แรงงาน ไม่นิยมไปฝึกงานฝึกทักษะ ต้องการเรียนแบบจบง่ายๆได้กระดาษเปื้อนหมึกพอใจแล้ว หลังจากนั้นก็ถูลู่ถูกังกระเสือกกระสนเอาตัวไม่รอด ตกงาน เลือกงาน อู้งาน เบื่องาน แบบมือขอตังส์ ให้พ่อแม่เลี้ยงไปจนโข่ง

 

จุดยักแย่ยักยันเรื่องการผลิตบุคลากรทางด้านสายอาชีวะ

จะยกเครื่องกันอย่างไร? ใครเป็นพระเอก ใครเป็นพระรอง

นโยบายที่เป็นรูปธรรม ความรับผิดชอบ มีประสิทธิผลแค่ไหน?

ในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างดุเดือดนี้ การแข่งขันขึ้นอยู่กับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ในประเทศนั้นๆเป็นสำคัญ

ถามว่า คุณภาพคนไทยอยู่ในระดับไหน มีศักยภาพเป็นอย่างไร?

ใ ค ร จ ะ เ ป็ น ค น รับผิดชอบ ต อ บ คำ ถ า ม นี้ ?

จุดเปราะบางของสังคมไทยอยู่ที่ความรู้ไม่พอใช้ ทำให้เราต้องนำเข้าวิชาความรู้ นำเข้าอุปกรณ์เครื่องมือ นำเข้าเทคโนโลยี นำเข้าทุน นำเข้าแม้กระทั้งวัฒนธรรมประเพณีที่มีทั้งเหมาะสมและซับซ้อน ที่ควรคำนึงก็คือ..เรายังนำเข้าปุ๋ยเคมีสารเคมี ยาฆ่าแมลง เครื่องจักรกลการเกษตร พันธุ์พืชพันธุ์สัตว์และเมล็ดพันธุ์มีมูลค่าปีละหลายแสนล้านบาท หักลบกลบนี้แล้วคงจะเหลือแต่ถุงกระดาษ ที่ซ้ำร้าย..เรายังนำเข้าพืชผักผลไม้เพิ่มมากขึ้นทุกปี นี่แหละหนอความล่าช้าของการพัฒนาฝีมือแรงงาน

สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการสอนวิชาทิ้งถิ่น

ลูกหลานไทยเรียนไปแล้วหาทางกลับบ้านไม่เจอ

ภาคการเกษตรกำลังง่อยเปลี้ยเสียขา

เด็กรุ่นใหม่ไม่นิยมศึกษาภาคการเกษตร

หรือที่ศึกษาจยไปแล้วก็ไม่ทราบว่าหายไปหาย

ปล่อยให้ภาคการเกษตรต่ำต้อยเป็นลูกเมียน้อย

ต้องแบมือขอทุน ขอความเอื้ออาทรอย่างน่าเวทนา

ถ้าเปลี่ยนจากลบเป็นบวกไม่ได้ เจ้าประคุณเอ๋ยไม่รู้จะออกหัวออกก้อย

อย่ามาชวนเป่าหยิงฉุบนะตัวเอง..

สรุปว่า..เราพัฒนามาจนถึงขั้นเลือกจะโชว์เบอร์โชว์ใจกันแล้ว ต่อไปจะเป็นยังไงคงต้องขอเวลาเขียนทบทวนอีกสักตั้ง ในชั้นนี้ขอรายงานช่วงจังหวะเวลาที่นัดพบปะ จะได้ไม่คลาดเคลื่อนและคลาดครากัน

ผมมีภาระกิจดังนี้

วันที่ 8 สิงหาคม 2555 บรรยายพิเศษกลุ่มย่อย หัวข้อ “ผู้ปฏิบัติจริงในชุมชนท้องถิ่น” เวลา 13.00-14.30 ณ อุทยานหลวงราชพฤษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 9 สิงหาคม 2555 บรรยายพิเศษในประเด็น “วิถีชีวิตชุมชนอยู่กันอย่างไร หากมองไกล 20 ปี” ในมุมมอง

v มิติต่างประเทศ โดย Mr. Muhammad Yunus ผู้ก่อตั้งธนาคารกรามีน

v มิติประเทศไทย โดย หม่อมราชวงค์ดิศนัดดา ดิสกุล

v มิติชุมชนท้องถิ่น โดย ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

เวลา 09.00 เป็นต้นไป ณ อุทยานหลวงราชพฤษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่10สิงหาคม 2555 ร่วมประชุมเสวนาโต๊ะกลม เพื่อกำหนดแนวทางการยกระดับคุณภาพชีวิตและภูมิปัญญาในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนในหัวข้อ “ชุมชนท้องถิ่นจะอยู่กันอย่างไร หากมองไกล20ปี” กับผู้นำในระดับชาติและกลุ่มอาเซียนประมาณ20-30คน เวลา 09.00-16.00.ณ อุทยานหลวงราชพฤษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่11จะกลับบางกอกไฟล์บ่าย หรือจะเอ้อระเหยยังบ่แน่บ่นอน

 

ง า น นี้ ห นั ก ห น่ ว ง ทั้ ง ต อ น อ ยู่ บ น เ ว ที และ ล ง เ ว ที

ตั้งแต่นี้ไปคงต้องทำการบ้านแล้วละเธอ

ถ้าคนสวยว่างช่วยไปหิ้วปีกลงจากเวทีด้วยเน้อ มี ใ ห้ เ ลื อ ก ถึ ง 3 วั น

อิ อิ..


เล่นสงกรานต์กับนางเมฆขลา

อ่าน: 1898

ทั้งๆที่ไม่ออกจากเคหาไปเล่นสงกรานต์ที่ไหน
นอนเฝ้ากระต๊อบน้อยกลอยใจอยู่โด่เด่

อาบน้ำทาแป้งอ่านหนังสือ
แต่งกลอน นอนกลางวัน
อยู่เหมือนมาปิกนิคทุกวัน..
ไม่สะดวกสบายจนเว่อร์
แต่ได้รสชาติของชีวิต

รึ อาจจะเป็นเพราะติดเชื้อลูกชาวไร่ชาวนาก็ได้
เห็นธรรมชาติแล้วจะชอบๆๆ..นอนสัมผัส ไม่ได้คิดเรื่องยากลำบากอะไร
หุงข้าวหม้อเล็กๆ ต้มบ้างผัดบ้างตำน้ำพริกบ้าง แค่นี้ก็อร่อยจนไม่รู้จะยังไงแล้ว
การได้อยู่ง่ายๆกับธรรมชาตินี่แหละ ..ของขวัญที่เรามอบให้ตัวเอง

• อยากจะชมเดือน..แสงเดือนก็มาเยือนส่องหล้า
• อยากจะแก้ผ้-..ฝนก็ตกลงมาให้อาบ
• อยากจะอาบแดด..พระอาทิตย์ก็โผล่มาโลมไล้
• อยากจะกินผักผลไม้..ก็เดินไปเด็ดฉับๆ..
• อยากจะไปไหน..ก็ไม่เปลืองน้ำมัน ไม่ต้องติดไปแดง
• อยากจะนั่งจะนอนจะเดินเหิร ..ก็สะดวกสบายไม่วุ่นวายเหมือนข้างนอก

ชักสงสัยว่า..ทำไมคนเราถึงชอบกระเสือกกระสนก็ไม่รู้นะ
แทนที่จะปลูกคะน้า พริก มะเขือ กินเอง
เปล่า! วิ่งโร่เข้าบางกอกไปทำงานง๊อกๆ..เพื่อหาเงินมาซื้อมะเขือฉีดยาฆ่าแมลงกิน
ท่าจะบ้า..ไหมเล่า..

บ่ายแก่ๆมีลูกหลานชาวบ้านเอามะพร้าวอ่อน/ดอกไม้/มาขอพร ก็คุยกันตามประสาคนอยู่ในพื้นถิ่นเดียวกัน ถามไถ่เรื่องทำมาหากิน ปัญหาทั่วไป จุใจก็หน้าแฉล้มกลับไป..กำลังจะตัดสินใจไปรดน้ำผักดีหรือไม่ดี ถ้าขี้เกียจก็ชะลอได้อีกหนึ่งวัน เพราะพื้นดินยังพอชุ่มชื้น ถ้าโชคดีมีฝนมาก็ต่ออายุความชุ่มฉ่ำไปได้อีกหลายวัน
ผมสังเกตเห็นว่าปีนี้ฤดูฝนขยับมาเร็วขึ้น เดือนมีนาเมษาพระพิรุณก็มาเยือนหลายครา บางหมู่บ้านก็เจอลมหอบหลังคาไปไว้กลางกอไผ่ เมื่อคืนจังหวัดตราดลมกวาดสวนยางพาราไปหลายขนัด อายุใกล้จะได้กรีดยางแล้ว
อาชีพเกษตรกรรมมันก็มีความเสี่ยงยังงี้แหละพี่น้อง
ไม่มั่นคงเหมือนอาชีพปั้นน้ำเป็นตัวอย่างท่านผู้ทรงเกียรติหร๊อกนะ

ระหว่างยี่ยักยี่หย่อนจะเอายังไงดี ก็นึกขึ้นได้ว่าอาหารมื้อเย็นยังไม่ได้วางแผน แต่เล็งไว้แล้วว่ามะเขือยาวออกลูกหนักจนต้นโงนเงน ทำท่าจะแก่มากเกินที่จะเก็บเมล็ดพันธุ์ ใบโหระพาก็กำลังงาม อย่ากระนั้นเลย..ผัดมะเขือยาวใส่ไข่ เจี๊ยะกับซุปผักสดดีกว่า..อร่อยหรือไม่อร่อยก็ไม่รู้จะบอกใคร เพราะโฉมยงเขาก็ขี้เกียจเดินมากินข้าวที่กระต๊อบด้วย เขาไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรหร๊อก เป็นแต่บางวันเขาก็ไม่กินข้าวมื้อเย็น ลมพัดลมเพเอาแน่เอานอนไม่ได้

ใครหิวก็เชิญแสดงฝีมือโชว์เสน่ห์ปลายจวักตามอัธยาศัย
นึกขึ้นได้ว่าเจ้าแห้วก็ชอบผัดมะเขือยาว
กะว่าจะถ่ายรูปไปอวดให้ชักดิ้นชักงอสักหน่อย

เพียงแค่คิดเสียงฟ้าก็ร้องครืนๆ ลมพัดอู้ๆ มองดูยอดไม้..พัดแรงเอาการเหมือนกัน ต้นกล้วยจะหักพับอีกกี่ต้นก็ไม่รู้ หลังจากลมผ่านไป..ฝนก็ตกมาสิครับ ตกหนักมากประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ตกยิมๆให้ยายฉิมไปเก็บเห็ด แต่ก็ไม่แน่นะ คืนนี้อาจจะเทลงมาอีกกะทอกก็ได้ อากาศเย็นฉ่ำ กะว่าบันทึกนี้แล้วจะไปอาบน้ำฝน

 

เทวดามาชวนเล่นสงกรานต์แล้วนี่ คราวนี้คงนุ่งผ้าขาวม้าทะมัดทะแมง เพราะจะไล่ปล้ำนางเมฆขลา แข่งกับรามสูรย์ที่โกรธเกรี้ยวขว้างขวานอยู่ครืนๆ ดูท่าคืนนี้จะเล่นเกมส์ยาวเสียแล้ว เมฆหนายังลอยต่ำ ลมก็สงบนิ่งเสียด้วย
ไม่ต้องไปเที่ยวรดน้ำ-ถนนข้าวสาร-ข้าวเหนียว-ข้าวปุ้นที่ไหนหร๊อก

เล่นสงกรานต์ถนนข้าวนอกนาที่นี่แหละ ..แฉะทั้งกายและใจ !


แม่นกฮูกตาโต

อ่าน: 1936

 

เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับพี่น้อง อยู่ในป่าก็มีแต่เรื่องป่าๆเถื่อนๆมาเล่าให้ฟัง ตื่นเช้ามาเดินไปไหนก็จะเจอเรื่องใหม่ๆถ้าเราช่างสังเกต ยกตัวอย่างเช้านี้เดินไปดูพื้นที่ถมใหม่ พบว่ามีเมล็ดไม้ปลิวมาตกจำนวนมาก ต้นไหนอยู่ใกล้ก็จะโปรยลงมามากหน่อย มีเมล็ดของไม้โมก..มีภู่บางเป็นทรงกลมรอบตัวเหมือนร่มสีขาวเล็กๆ ถูกลมพัดละลิ่วมาสวยมาก จากรูปทรงเบาหวิว..ตกลงมาแล้วก็ยังปลิวระเรี่ยดินไม่ได้หยุดนิ่ง คงลอยไปจนติดอะไรสักอย่าง ก็จะตกพื้นรอวันงอก ส่วนเมล็ดไม้ที่มีน้ำหนัก เช่นฝักของขี้เหล็ก จะมีเมล็ดดแข็งเคลือบมันอยู่ข้างไหน ตกลงที่ไหนก็แทรกเกิดในพื้นที่ตรงนั้น

  • ถ้าเราปลูกไม้จนมีอายุออกเมล็ดแล้ว
  • พันธุ์ไม้ก็กระจายพันธุ์ด้วยตัวเอง
  • ผมเดินดูไม้รุ่นใหม่ที่งอกหลังบ้านคอน
  • พบว่ามีลูกไม้ดีๆเกิดเยอะมาก..แปลกตรงที่มีไม้ข่อย หวาย พยุง เกิดหนาตา
  • ปัญหาคือ..เราจะบอกคนกรุงได้อย่างไรว่าไม้ไหนควรตัดและไม่ควรตัด
  • เพราะมีลูกไม้แทกปนเปกันหลายสิบชนิด

ดังนั้น..สารบัญหน้าแรก

อาจจะให้เรียนวิชาลองถูกลองผิดก็น่าจะได้

เพราะไม่เสียหายมากมายอะไร

โดยจะชี้ชวนชมชนิดไม้รอบสองรอบ ..

หลังจากนั้นจะตัดหางปลอ่ยวัด ..เอ๊ย! ให้สำแดงฝีมือแบบกล้าได้กล้าเสีย

ไม่ต้องยึกยัก..ซัดโลด ..คนสอนร่วมรับผิดชอบอยู่แล้ว

ที่สวนป่าเลี้ยงไก่ป่าลูกผสมจำนวนหนึ่ง นานวันเข้า ไก่ที่มีเลือดป่ามากๆก็จะค่อยขยายบริเวณหากินออกไป  ออกไป ไม่ชวนกันมานอนใกล้ๆบ้าน แต่ไปนอนบนคาคบในป่า แต่ก็ยังอาศัยอยู่รอบๆบริเวณสวนนั่นแหละ เพราะรอบนอกที่ดินคนอื่นจะปลูกยางพารา มันสำปะหลัง ซึ่งไม่เหมาะที่สัตว์ป่าจะไปอยู่หากิน ไก่ป่าที่ว่านี้..ยังขันให้ได้ยินทุกๆคืน เจอตัวก็จะวิ่งตกอกตกใจ..อย่างกับจะเป็นจะตาย ไม่ยอมเข้าใกล้คนนี่ถ้ามีป่าใหญ่คงบินหนีหายไปแล้ว ผมไม่เสียดายอะไรหรอก กลับดีเสียอีกที่มีไก่ป่ามาอาศัยคุ้ยเขี่ยลดจำนวนปลวกและแมลง ถ้าออกลูกออกหลานเยอะเหมือนสมัยที่แถวนี้ยังเป็นป่าดงดิบ

ไก่ป่าเป็นโปรตีนที่ชาวป่าไปโป้งๆเป็นครั้งคราว

ต่อจากป่ามาเรื่องแมว ที่ในสวนป่ามีหนูเยอะมาก หนูขยายพันธุ์ได้เร็ว เพียงครอกหนึ่งจะขยายแบบทวีคูณได้นับพันตัว เมื่อก่อนมีนกเค้าแมว เหยี่ยว นกกระปูด และงูเป็นตัวคอยควบคุมปริมาณหนูไม่ให้เอื้อซ่า ..ต่อมาสัตว์ที่เป็นศัตรูหนูโดนยาฆ่าแมลงลดจำนวนลงมาก

แมวไม่อยู่หนูจึงร่าเริง..

เรื่องกำจัดหนูทดลองมาหลายวิธี เลี้ยงแมวไว้ดีที่สุด แมวแต่ละตัวมีนิสัยไม่เหมือนกัน บางตัวขี้เกียจกินอาหารอิ่มแล้วนอนอุตุ บางตัวชอบล่าหนูเป็นชีวิตจิตใจ จะออกไปมอบนิ่งรอหนูอยู่ในสุมทุมไม้อย่างเงียบเชียบ ล่าหนูมาเลี้ยงลูกได้อยู่เรื่อยๆ มีช่วงหนึ่งพวกชาวบ้านมาขโมยล่าแมวไปทำกับแกล้ม พอแมวหาย..หนูยกโขยงมากัดมุ้งลวด เบาะที่นั่ง เข้าไปกัดสายไฟใต้ท้องรถยนต์ สร้างปัญหาให้ปวดหัวอยู่เสมอ คงต้องรีบหาแมวมาเลี้ยงโดยเร็ว

อีกพวกหนึ่งที่ช่วยกำจัดหนูโดยวิธีธรรมชาติได้มาก คือพวกงูสิง งูเห่า หายไปไหนก็ไม่รู้ งูพวกนี้ตัวใหญ่ล่าหนูเก่ง คนงานชอบจับงูสิงมาผัดเผ็ดกระเพรา ถ้าผมเจอก็จะขอให้ปล่อย งูออกไข่ปีหนึ่งหลายสิบฟอง ช่วงฝนตกใหม่ๆพอแดดออก งูสิงจะออกมานอนหลับตานิ่งๆในที่โล่ง เดินไปถ่ายรูปใกล้ๆก็ยังนอนอาบแดดสบายเฉิบ ปกติงูที่ไม่มีพิษจะกลัวคน จะวิ่งปรูดหายวับอย่างรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับงูมีพิษ เช่นงูเห่า จะเลื้อยแช่มช้า เพื่อจะสำแดงศักดาว่าข้ามีเขี้ยวพิษมหาภัยป้องกันตัวนะโว้ย จึงเลี้อยไปขู่ไป

ผมเคยเห็นงูเห่าพ่นพิษใส่นัยน์ตาหมา

หมาดิ้นร้องชักดิ้นชักงอเลยละครับ

ถ้าโดนพิษจังๆ..อาจจะตาบอดได้

สภาพสวนป่าตอนนี้ ไม่มีแมวเหลือสักตัว เจ้าเป๋ไปติดแมวสาวในหมู่บ้าน ไม่กลับมาเปลี่ยวใจในสวนป่าอีกแล้ว งูก็หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ กระแตก็สู้หนูไม่ไหว นกกระปูด เหยี่ยว นกเค้าแมวยังมีปริมาณไม่สมดุลย์ นกเค้าแมวยังพอมีอยู่บ้าง รู้ได้จากเสียงร้องยามค่ำคืน กลางวันจะซุกตัวหลับนอนในโพรง

ผมเคยเลี้ยงนกฮูกตาโตสายพันธุ์เขมร เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะขนอุย ป้อนไข่ หัวอาหารไก่ เนื้อบ้าง จนเติบโตตัวลายพร้อมสวยงาม ดวงตาโตกลิ้งกลอกพร้อมๆกับส่ายคอ ผมไม่ได้เลี้ยงขังแต่ก็เชื่องมาก ..ปล่อยให้บินไปมาอิสระ กลางคืนจะบินเกาะกิ่งไม้นอนข้างหน้าต่าง ถ้ามีเสียงอะไรกร๊อกแกร๊ก

เจ้าฮูกจะเอาจงอยปากบนล่างกระทบกัน

เสียงดังมาก..เป็นสัญญาณเตือนบอกเรา

เลนล์ตานกฮูกโต ทำให้มองกลางคืนได้ชัด

ฮูกตัวนี้นอกจากตาดีหูยังดีอีก

ถ้าเราส่งเสียงเรียก..จะบินออกจากป่ามาเกาะที่แขนเราเบาๆ ถ้าฮูกเอาเล็บขยุ้ม..แรงๆเหมือนจับหนูแขนเราเลือดสาดแน่ แต่นี่เขารู้ว่า..เป็นเรา จึงจับเบาๆพอทรงตัวอยู่ได้ ตอนหลังฮูกบินไปเที่ยวในหมู่บ้าน คงจะโดนคนเกเรเอาปืนแก๊ปยิงตาย ผมเศร้า..คิดถึงฮูกอยู่หลายปี ทุกวันนี้เห็นลูกฮูกในป่าก็คิดถึงเขา

ที่ผมปลูกต้นตาลในสวนมากๆ

ก็เพื่อที่จะให้ฮูกเข้าไปหลบนอนตอนกลางวัน

บัดนี้..ฮูกแสนรักจากลาไปแล้ว

คงมีแต่สายพันธุ์ฮูกลูกหลานมาอาศัยเป็นครั้งคราว

พวกเรารู้จักพยัญชนะตัวสุดท้ายก่อนที่จะเห็นตัวจริง

เด็กในกรุง..พ่อแม่พาไปชมที่เขาดินได้

เด็กบ้านป่า..นอนฟังแต่เสียง

อีตาแก่..เอาเรื่องมาเล่าท้าวความหลัง

 

ผมเห็นสาวๆใส่แว่นตาโต

เข้าใจว่านักออกแบบคงจะเอาความคิดมาจากตานกฮูกก็ได้นะ

สาวๆคนไหนยังไม่มีแว่นกันแดดตาโตไปซื้อเสียนะ

ทำไมละ..จะได้มองดูเหมือนนกฮูกยังไง

คุณสตรีชอบมีตาโตๆกันมิใช่รึ

บางคนทนเจ็บยอมไปแหกตาให้โตขึ้นเพื่อความสวยงาม

แต่ถ้าไปเจอหมอผ่าตัดฝีมือไม่ดี ..

ตาปลิ้นเหมือนนกฮูก น่ากลัวมากว่าน่ารักนะเธอ

ถึงเราจะตาเล็กตาน้อยก็ไม่กระไรหรอก

ขอแต่ให้หัวใจพองโตจากการทำความดี

อ่านแล้วก็คอมเทนท์บ้าง..จะได้จิตใจเติบโต  อิอิ..



Main: 0.10076403617859 sec
Sidebar: 0.048542976379395 sec