ชีวิตนี้เปราะบางนัก

อ่าน: 3028

เมื่อวานมีแขกมารับตั้งแต่ตี5 จะพาไปดูที่ทางที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร พื้นที่อยู่แถวๆวังม่วง ลพบุรี ห่างจากเขื่อนชลสิทธิ์ประมาณ30กม.ระยะทางจากกทม.ประมาณ200 กม. คาดว่าช่วงบ่ายคงจะกลับมาทันขึ้นรถตู้กลับบ้าน ผมเป็นคนแก่ที่คิดถึงบ้าน คิดถึงผัก สายลมและแสงแดด คิดถึงคนรักที่อยู่ใกล้ๆและที่อยู่ไกลโพ้น..

สถาน ที่ดังกล่าวอยู่ติดกับถนนลาดยาง เลาะเลียบไปข้างๆกับแม่น้ำป่าสัก เป็นที่เปิดโล่งกว้างขวางหลายหมื่นไร่ ชาวบ้านทั่วไปทำการเพาะปลูก-ข้าว-มันสำปะหลัง-ปลูกอ้อย-เลี้ยงโค-เลี้ยงแพะ ไปเห็นสภาพแวดล้อมแล้วอิจฉาเป็นบ้า น้ำท่าบริบูรณ์ พื้นดินมีแร่ธาตุอุดม ลมพัดตึงทั้งวัน ไร่ข้างๆกันติดตั้งกังหันลมพร้อมกับสร้างแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ แจกจ่ายน้ำให้พืชไร่ได้อย่างพอเพียง คณะเราเดินดูมุมโน้นมุมนี้แล้วก็เดินทางต่อ

วัตถุประสงค์เขาต้องการให้ผมได้มาเห็นที่ดินแปลงนี้กับตาตัวเอง

เพียงแค่บอกเล่าหรือเห็นภาพ

ไม่พอต่อการตอบคำถามว่า..จะปลูกอะไรดี?

ก่อนหน้าที่จะซื้อที่ดิน..นักธุรกิจกลุ่มนี้มีโครงการจะตั้งโรงงานแป้งมันสำปะหลัง แต่ ช่วงที่มีการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้พื้นที่บริเวณกว้างน้ำท่วม..มีการเวนคืนที่ดิน อพยพชาวบ้านออกไป แผนงานต่างๆของนักธุรกิจกลุ่มนี้จึงชะงัก ปล่อยให้คนในพื้นที่เช่าปลูกอ้อยเป็นเวลานับสิบปี มาบัดนี้ ..จะเอาที่ดินมาทำประโยชน์เสียเอง นี่คือที่มา..ที่ผมถูกลากมาชมที่ดินผืนนี้

เห็นสภาพแวดล้อมแล้ว..ผมคิดถึง ค อ น ด รั๊ ก เ ต อ ร์ เ ป็ น บ้ า

สมัยที่ตระเวนหาที่ทางปักกลด..ได้เล่าว่า..อยากจะได้พื้นที่ๆมีองค์ประกอบอย่างนี้ มีน้ำมีลมมีภูเขามีความอุดมสมบูรณ์มีป่าไม้มีความมั่นคง.. ผมฟังแล้วก็นึกไม่ออกว่าประเทศนี้มันจะมีผืนดินที่พร้อมสรรพอย่างนี้อยู่ที่ไหน? พอมาเห็นจุดนี้ก็ได้แต่ร้อง..โอ้โหๆๆ..

แต่ก็นั่นแหละเธอเอ๋ย

กลุ่มนี้เขามารวบรวมซื้อที่ทางไว้ตั้งแต่เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว

บัดเดี๋ยวนี้ราคาไร่ละหลายแสนบาท

ที่ดินไม่เสื่อมราคา เหมือนหน้าตาคนเราหรอกนะเธอ

นอกจากที่ดินไม่เหี่ยวเฉาแล้ว ราคายังพุ่งกระฉูดๆ

หลังจากนั้นท่านผู้สันทัดกรณีบอกว่า เราน่าจะตระเวนดูพื้นที่รอบๆ ห่างอกจากนี้ไปไม่ใกล้มีน้ำตกก้านเหลือง เป็นน้ำตกที่แปลก..น้ำทั้งหมดผุดขึ้นมาจากใต้ดิน น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ถนนหนทางก็เข้าถึงสะดวก จึงพากันเดินชมตามจุดต่างๆ ชาวบ้านเล่าว่า..เดินไปอีก 1,200 เมตร ก็จะเจอจุดที่น้ำพุ่งขึ้นมา ก็ได้แต่ฝากไว้ก่อนโอฬาร ยังมีรายการพิเศษอยู่ใกล้ๆที่ท่านผู้นำอยากจะพาไปชมโรงเรียนสัตยาไส ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลขับรถ15นาทีก็ถึง เรื่องที่พิเศษกว่าพิเศษก็คือ อาจารย์ศุภชัยแห่งมหิดล คนที่พาผมมานี่แหละ ท่านเป็นตัวตั้งตัวตีในการตระเวนรวบรวมที่ทางที่จะมาสร้างโรงเรียนตั้งแต่ เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว ได้ที่ดินแล้วท่านก็พาภรรยาและลูกน้องมากางเต็นท์สร้างโรงเรียนสัตยาไส ..

แหม..เจอกับผู้ก่อการตัวเป็นๆเลยนะนี่ ส่วนท่านนักธุรกิจที่พาผมมาดูที่ดิน

สมัยคุณพ่อก็ได้บริจาคที่ดินและให้ทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานหลังแรก

เรียกว่า..จุดไต้ตำตอ..โรงเรียนสัตยาไสเข้าแล้วนะเธอ..

พอรถเลี้ยวข้าประตูไป..อาจารย์ศุภชัยก็ลองโทรฯถึงท่านอาจารย์อาจอง

อ้าว! ผมนึกว่านัดท่านไว้แล้ว

ที่ไหนได้..คำตอบ..ถ้าอาจารย์อยู่เราก็เจอตัวเองแหละ..

เออ สินะ..เรื่องนี้ขึ้นกับวาสนาเสียแล้ว..

และแล้ว..คนโชคดีจะแห้วได้อย่างไร อาจารย์อาจองท่านอยู่บ้านพอดี คณะที่มาล้วนรู้จักกันดีอยู่แล้ว อาจารย์ยิ้มร่า..เลี้ยงน้ำชาคุยกัน..ไปยังไงมายั้งไง ผมเองเสียอีกที่เป็นคนแปลกหน้าไม่เคยมาที่นี่..ท่านอาจารย์กรุณามาก..บอกว่า จะชวนไปชมทุกจุดทุกเรื่องของที่นี่ ท่านยกโทรศัพท์ประสานผู้อำนวยการโรงเรียน แม่ครัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ..บอกว่าจะมีแขกไปเยี่ยม

หลังจากผู้ อำนวยการมาถึง ท่านพาเราไปยังอาคารหลังใหญ่ที่นักเรียนทุกคนต้องมาสวดมนต์ทำสมาธิร่วมกัน แต่ช่วงนี้ปิดเทอม..ถ้ายังงั้นเอาท่านผู้อำนวยการนี้แหละ ..พาเราสวดมนต์..ท่านอาจารย์อาจองไปบรรเลงเปียโนประกอบ เฮ้อ..เป็นอะไรที่ซาบซึ้งมาก  ท่านอาจารย์เล่าว่าที่นี่รับเด็กทุกศาสนา เวลาทำสมาธิเด็กก็ไปนั่งยังแท่นบูชาประจำศาสนาของตน ท่านบอกว่า..ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี โรงเรียนแห่งนี้จึงเคารพและให้ความสำคัญศาสนาเท่าเทียมกัน นอกจากจะมีนักเรียนที่หลากหลายศาสนาแล้ว ที่นี่จะมีผู้สนใจจากมิตรประเทศมาเยือนอยู่เนืองๆ เมื่อมายังห้องนี้  แต่ละกลุ่มก็ไปทำความเคารพยังแท่นบูชาศาสนาของตนเอง..

โรงเรียน ระดับอินเตอร์ เขาคิดถึงแก่นสารความจริงยังงี้แหละเธอ หลังจากนั้นอาจารย์พาเรานั่งรถตู้ตระเวนไปจุดที่เป็นกระบวนการเรียน มีอุปกรณ์การเรียนเรื่องพลังงานต่างๆครบถ้วน พาไปชมโรงเพาะเห็ด บ้านลาสติกใสที่มีไว้อบพืชผักพืชผล พาไปชมอาคารผลิตน้ำมันไบโอดีเซล อาจารย์บอกว่า..มีโรงแรมในบางกอกบริจาคน้ำมันพืชที่ใช้แล้วจำนวน2โรงแรม พอมาถึงที่นี่ก็นำเข้าสู่กรรมวิธีเปลี่ยนน้ำมันพืชเก่าให้เป็นน้ำมันไบโอ ดีเซล ใช้เติมรถทุกคันของที่นี้ ยังมีอาคารพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์อีกนะเธอ อาจารย์กำลังทำฟาร์มรับแสงแดด ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มากพอจะเป็นรายได้มาใช้จ่ายของโรงเรียนใน อนาคต อาจารย์ชวนไปพื้นที่เพาะปลูก/ทำนา ที่นี่ทำนาได้ข้าวปีละ30ตัน เพียงพอที่จะเลี้ยงประชากรทั้งโรงเรียนได้ตลอดปี พาไปชมจักรยานปั่นไฟ เล่าให้ฟังว่า..อาคารที่เห็นๆ10กว่าหลังที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียน400ไร่ นี้ ทุกหลังมีผู้ใจบุญจากทั่วโลกมาสร้างให้ทั้งนั้น อาจารย์ชี้ให้ดูอาคารสอนดนตรี ท่านบอกว่า..มีฝรั่งที่ลูกเขามาเสียชีวิตเมื่อคราวเกิดสึนามิภาคใต้ ได้มาสร้างอาคารหลังนี้ยกให้เป็นอนุสรณ์ของลูกที่จากไปอย่างกะทันหัน

เรื่องของการบริจาคท่านบอกว่าจะไม่ขอรับจากผู้ปกครองนักเรียน

เกรงว่าจะเงินผู้ปกครองคนรวยมาทับเงินผู้ปกครองคนจนๆ

ปีหน้าจะรับนักเรียนเพิ่ม และจะแยกเรียน/สอนนักเรียนชาย/หญิง

เด็กๆที่นี่อยู่ประจำ แยกอาคารชาย อาคารหญิง..

ที่นี่เป็นโรงเรียนทางเลือก..ที่ เ ลื อ ก ไ ด้ จ ริ ง ๆ น ะ เ ธ อ

ผมคิดว่า..เป็นโรงเรียนทางออก..ออก จากความบอบช้ำของหลักสูตร หลักสูตรที่ยกร่างไว้อย่างดีแต่ไม่มีใครปฏิบัติตาม การศึกษาไทยยุคนี้จึงกระท่อนกระแท่นเหมือนบัวแล้งน้ำ ผู้ที่อยู่ในวงการศึกษาแถกไถไปตามยถากรรม เด็กๆก็ดำน้ำเรียนไปอย่างน่าเวทนา..เละตุ้มเปะตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงปริญญา..

ก็ยังดีใช่ไหมละครับ..

ที่ประเทศนี้ยังมีคนกล้าหาญพอที่จะหักดิบการศึกษา

พยายามสร้างตัวอย่างที่ดีๆ

มีมิตรประเทศส่งครูมาสอนภาษา

แหม พูดไทยชัด เก่ง ฉอดๆๆๆยังกะต่อยหอย

อาจารย์อาจองไปบรรยายที่ประเทศสิงคโปร์

มีรัฐมนตรีศึกษาฯมานั่งฟัง แล้วบอกว่าจะตามมาดูสัตยาไส..

แต่..บ้านเรา  มันก็ไอ่แค่นั้นแหละ..

เปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการทุกๆ6เดือน

มั น ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ยั ง ไ ง ค รั บ

นอกจาก..การศึกษาไทยไร้ทิศทาง..

อาจารย์ให้ความเห็นว่า..

พรบ.การศึกษาไทยดีที่สุดในโลก..แต่..ไม่มีการนำไปปฏิบัติ

มันก็คงไม่ต่างกับ..หัวล้านไม่ง้อหวี..

รึ..คนสวยไม่สนใจคอมเมนท์..นั่นแหละเธอ..

หลัง จากตระเวนจนจุใจแล้ว อาจารย์ชวนมายังโรงอาหาร แม่ครัวเตรียมเมนูมังสะวิรัติไว้ให้แล้ว รับประทานอาหารร่วมกัน  แล้วก็แยกย้ายอำลา..อาจารย์บอกว่าจะหาโอกาสมาแวะเยี่ยมมหาชีวาลัยอีสาน ส่วนผมได้ประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำความรู้ที่ได้เห็นและรับฟังมาใช้ใน โครงการหมู่บ้านโลก หลังจากล่ำลา เราก็บึ่งเข้าบางกอก ระหว่างทางก็ประสานกับแห้วให้มารอที่โรงแรม จะได้นัดหมายขึ้นรถตู้เข้าป่าด้วยกัน

รถตู้ออกจากสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ16.30น.

นัดให้มารับที่หน้าสถาบันจุฬาภรณ์

โชเฟอร์ ซิ่งเตลิด..กว่าจะยูเทิร์นมารับได้ก็เสียเวลาไปโข เนื่องจากหยุดหลายวัน ทุกคนแห่กลับบ้าน รถติดแต่ก็พอขยับได้ช้าๆ มาสะดวกเอาตอนเลยสีคิ้วมาแล้ว รถจ้ำอ้าวราวกับจะบิน มาถึงสตึก5ทุ่มเศษ โฉมยงมารับเข้าไป มาถึงบ้าน..ก็โล่งอกโล่งใจ..ชวนกันกินข้าวต้มดีกว่า

ตั้งหม้อข้าวต้ม

ไปเก็บผักบุ้งมาล้าง

ไปเก็บพริกเหลืองมาผัดใส่สุกรสับ

ไปเอาหมูหยองมาเป็นเครื่องเคียง

แค่นี้ก็อิ่มมื้อดึกแล้วละครับ

ที่มีรายการอาหารผิดแผกนอกเหนือเวลาอย่างนี้ มันมีเรื่องผิดปกติที่จะต้องทำใจเล่า..ครั้งแรกคิดว่าจะเก็บงำไว้กับตัวไม่ บอกใคร..แต่คิดอีกทีบอกไว้ก็ดี ในเมื่อยังมีโอกาสเล่าขานบอกที่รักไว้  มันเป็นอย่างนี้ครับพี่น้อง..ช่วงที่รถวิ่งเข้าเขตพระนครศรีอยุธยา โชเฟอร์ผู้อาวุโสของเราคงจะหลับใน ล้อรถด้านซ้ายเฉตกไปข้างถนน..ตัวตกเอียงกะเท่เร่ หัวรถวิ่งฝ่ากิ่งไม้ใบหญ้าไป20เมตร ก็สามารถหักพวงมาลัยดึงรถเบนขึ้นถนนได้ รถตู้วิ่งตามหลังพุ่งแซงกะทันหันด้านขวาที่ผมนั่ง ถ้าเบียดเข้ามาสัก 1นิ้วก็คงจะโคร้มๆ!!จังเบ้อเร้อ..

หรือมีต้นไม้ข้างถนนฝั่งคนขับ

รถก็คงจะประสานงาเข้าเต็มๆ

เรา4ชีวิตก็คงจะร่องแร่งอีท่าไหนก็ไม่รู้

คิดๆแล้วก็จะใจหาย..

เกรงว่าจะไม่ได้มาเขียนอะไรๆออดอ้อนคนสวยอีก

เดือดร้อนบางท่านอาจจะแต่งชุดดำพร่ำล่ำลา

นึกถึงเรื่องบ่ายเมื่อวานนี้..ขนแขนสะแตนอัพไม่หาย..

ใจมันหวิวๆยังไงไม่รู้..ถ้าวันที่จะจากที่รักไปจริงๆ..จะเป็นยังไงหนอ?

ระหว่างรถประคองรถวิ่งกลับบางกอก

จู่ๆก็มีเสียงระเบิดตูม! ขึ้นข้างๆ

สะดุ้งโหย! เอาอีกแล้วสิ..จอดๆๆๆ

อาจารย์ศุภชัยสติดี..บอกว่า

เป็นเสียงยางรถ10ล้อระเบิด..

เฮ้อ+!!! … วันนี้ วันหัวใจชักกระตุกตลอดเลยยย..

ยังมีเรื่องหวาดเสียอีกนะเธอ

กริ๊งๆ!..ครูบาใช่ไหมค่ะ..

หนู..โทรมาจากบริษัทพาโนราม่า เรามีรายการใหม่..

หัวข้อ..“ทำอย่างไรจะชี้ชวนให้คนไทยคิดใหม่เกี่ยวกับอนาคตประเทศไทย

หนูขอไปสัมภาษณ์ครูบา / ถ่ายทำรายการวันพรุ่งนี้ได้ไหมค่ะ..

ถ้าคนรับสายบอกว่า..มันสายไปเสียแล้วหนู

ครูบาอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวานนี้..

ตอนนี้นอนฟังพระบังสุกุลอยู่ที่วัดหนองหมาว้อ..

หนูจะไปสัมภาษณ์ไหมล่ะ!!!??/@#$&^%

  • คนเรานี่นะเธอ..มีชีวิตที่เปราะบางนัก
  • ช่วงที่ยังรักใครได้..ก็รีบๆรักกันเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังยิ้มหวานให้กันได้..ก็ยิ้มแฉ่งถิดนะ
  • ช่วงที่ยังกอดกันได้..ก็กอดๆกันบ้างนะ
  • ช่วงที่ยังทำอะไรดีๆให้กันได้ ..ก็รีบๆทำกันเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังมีเวลาแบ่งปันให้กันได้..ก็รีบๆแบ่งเถิดนะ
  • ช่วงที่ยังคอมเมนท์ได้..ก็คอมเมนท์ด้วยนะคนสวย..

« « Prev : วันวานยังหวานอยู่

Next : พาโนราม่า มาทำไม? » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ชีวิตนี้เปราะบางนัก"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.18768906593323 sec
Sidebar: 0.066787004470825 sec